Academic literature uses the abstra

Academic literature uses the abstract to succinctly communicate complex research. An abstract may act as a stand-alone entity instead of a full paper. As such, an abstract is used by many organizations as the basis for selecting research that is proposed for presentation in the form of a poster, platform/oral presentation or workshop presentation at an [[academic conference]]. Most literature database search engines index only abstracts rather than providing the entire text of the paper. Full texts of scientific papers must often be purchased because of copyright and/or publisher fees and therefore the abstract is a significant selling point for the reprint or electronic form of the full text.{{cite book|url=http://books.google.com/?id=spywIgzp4vwC&pg=PA428&lpg=PA428&dq=abstract+selling+point+journals+-wikipedia |title=Research methods in applied settings |work=Google Book Search |accessdate=2009-0w4-22|isbn=978-0-8058-2992-1|author1=Gliner, Jeffrey A|author2=Morgan, George Arthur|date=2000-02-01}}

Abstracts are protected under [[copyright]] law just as any other form of written [[speech communication|speech]] is protected. However, publishers of scientific articles invariably make abstracts freely available, even when the article itself is not. For example, articles in the biomedical literature are available publicly from [[MEDLINE]] which is accessible through [[PubMed]]. The abstract can convey the main results and conclusions of a scientific article but the full text article must be consulted for details of the methodology, the full experimental results, and a critical discussion of the interpretations and conclusions. Consulting the abstract alone is inadequate for scholarship and may lead to inappropriate medical decisions.{{cite web|url=http://books.google.com/books?id=1pmwWiXLHg8C&pg=RA1-PA51&lpg=RA1-PA51&dq=medline+limitations|title=Meta-analysis, decision analysis ... |work=Google Book Search |accessdate=2009-04-22}}

An abstract allows one to sift through copious amounts of papers for ones in which the researcher can have more confidence that they will be relevant to his or her research. Once papers are chosen based on the abstract, they must be read carefully to be evaluated for relevance. It is commonly surmised that one must not base reference citations on the abstract alone, but the entire merits of a paper.

According to the results of a study published in ''[[PLOS Medicine]]'', the "exaggerated and inappropriate coverage of research findings in the news media" is ultimately related to inaccurately reporting or over-interpreting research results in many abstract conclusions.{{cite journal|url=http://www.plosmedicine.org/article/fetchObject.action?uri=info%3Adoi%2F10.1371%2Fjournal.pmed.1001308&representation=PDF|title=Misrepresentation of Randomized Controlled Trials in Press Releases and News Coverage: A Cohort Study|author=Amélie Yavchitz et al.|publisher=PLOS Medicine|date=September 11, 2012|page=8-9, 11}} A study published in ''[[JAMA (journal)|JAMA]]'' concluded that "inconsistencies in data between abstract and body and reporting of data and other information solely in the abstract are relatively common and that a simple educational intervention directed to the author is ineffective in reducing that frequency."{{cite journal|url=http://jama.jamanetwork.com/article.aspx?articleid=187740|title=Can the Accuracy of Abstracts Be Improved by Providing Specific Instructions?|last1=Pitkin|first1=Roy M.|last2=Branagan|first2=Mary Ann|publisher=JAMA|date=July 15, 1998|page=267, 268}} Other "studies comparing the accuracy of information reported in a journal abstract with that reported in the text of the full publication have found claims that are inconsistent with, or missing from, the body of the full article."{{cite journal|url=http://www.plosmedicine.org/article/info%3Adoi%2F10.1371%2Fjournal.pmed.0050020|title=CONSORT for Reporting Randomized Controlled Trials in Journal and Conference Abstracts:Explanation and Elaboration|publisher=JAMA|author=Sally Hopewell et al.|date=January 22, 2008|page=48, 49}}{{cite journal|url=http://www.clinchem.org/content/47/1/149.full|title=Data Inconsistencies in Abstracts of Articles in Clinical Chemistry|author=Robert Siebers|publisher=Clinical Chemistry|date=January 2001|page=149}}

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาเอกสารประกอบการใช้บทคัดย่อ succinctly สื่อสารวิจัยซับซ้อน บทคัดย่ออาจทำหน้าที่เป็นเอนทิตีแบบสแตนด์อโลนแทนกระดาษเต็ม เช่น บทคัดย่อไว้ โดยหลายองค์กรเป็นพื้นฐานสำหรับการเลือกงานวิจัยที่นำเสนอสำหรับการนำเสนอในรูปแบบของโปสเตอร์ แพลตฟอร์ม/ปากนำเสนอ หรือนำเสนอการประชุมเชิงปฏิบัติการใน [[ประชุมวิชาการ]] เครื่องมือค้นหาฐานข้อมูลวรรณกรรมส่วนใหญ่ดัชนีเฉพาะบทคัดย่อจากแทนที่ให้ข้อความทั้งหมดของกระดาษ มักจะต้องซื้อข้อความเต็มของเอกสารทางวิทยาศาสตร์เนื่องจาก มีค่าลิขสิทธิ์และ/หรือผู้เผยแพร่ และนามธรรมเป็นจุดขายสำคัญสำหรับพิมพ์หรือแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ของข้อความเต็ม{ {อ้างอิง book|url = http://books.google.com/?id=spywIgzp4vwC & pg = PA428 และแก๊ส lpg = PA428 และ dq =นามธรรม + ขาย + จุด + สมุดรายวัน + -วิกิพีเดีย |title =วิธีวิจัยใช้การตั้งค่า |work = |accessdate=2009-0w4-22|isbn=978-0-8058-2992-1|author1=Gliner ค้นหาหนังสือ เจฟฟรีย์ A|author2 =มอร์แกน จอร์จ Arthur|date = 2000-02-01 } }บทคัดย่อจากจะป้องกันภายใต้ [[]] กฎหมายลิขสิทธิ์เดียวกับแบบฟอร์มอื่น ๆ ของเขียน [[เสียง communication|speech]] ได้รับการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ผู้เผยแพร่บทความทางวิทยาศาสตร์คงเส้นคงวาทำให้บทคัดย่อจากอิสระพร้อม แม้บทความเองไม่ ตัวอย่าง บทความวรรณคดีทางชีวการแพทย์มีทั่วไปจาก [[MEDLINE]] ซึ่งเป็น [[PubMed]] เข้า บทคัดย่อสามารถถ่ายทอดหลักผลลัพธ์และข้อสรุปของบทความทางวิทยาศาสตร์ แต่บทความเต็มต้องขอคำปรึกษาในรายละเอียดของวิธีการ ผลการทดลองเต็มรูปแบบ และการสนทนาที่สำคัญตีความและข้อสรุป ที่ปรึกษาบทคัดย่อเพียงอย่างเดียวจะไม่เพียงพอสำหรับทุนการศึกษา และอาจนำไปสู่การตัดสินใจทางการแพทย์ที่ไม่เหมาะสม{ {อ้างอิง web|url = http://books.google.com/books?id=1pmwWiXLHg8C & pg = RA1 PA51 และแก๊ส lpg = RA1 PA51 และ dq = medline + limitations|title = Meta-analysis การวิเคราะห์การตัดสินใจ... |ทำงาน = |accessdate ค้นหาหนังสือ = 2009-04-22 } }บทคัดย่อช่วยให้หนึ่งลอดผ่าน copious จำนวนเอกสารสำหรับคนในซึ่ง นักวิจัยสามารถมีความมั่นใจมากขึ้นว่า พวกเขาจะเกี่ยวข้องกับงานวิจัยของเขา หรือเธอ เมื่อเอกสารถูกเลือกตามบทคัดย่อ พวกเขาต้องสามารถอ่านอย่างรอบคอบเพื่อสามารถประเมินความเกี่ยวข้อง โดยทั่วไปจะเป็น surmised นั้นต้องมีพื้นฐานอ้างอิงอ้างในบทคัดย่อเพียงอย่างเดียว แต่บุญทั้งหมดของเอกสารในที่สุดเกี่ยวข้อง "exaggerated และสมความครอบคลุมของสื่อข่าวสารเกี่ยวกับ" ตามผลการศึกษาเผยแพร่ใน '' [[PLOS ยา]]'' รายงานอย่างไม่ถูกต้อง หรือการตีความผลการวิจัยบทสรุปของนามธรรมมากเกิน{ {อ้างอิง journal|url = http://www.plosmedicine.org/article/fetchObject.action?uri=info%3Adoi%2F10.1371%2Fjournal.pmed.1001308 & แสดง = PDF|title = Misrepresentation ของ Randomized ควบคุมการทดลองในข่าวและข่าวสารครอบคลุม: A Cohort Study|author = Amélie Yavchitz et al. |แพร่ = PLOS Medicine|date = 11 กันยายน 2012|page = 8-9, 11 } }การศึกษาเผยแพร่ใน '' [[จามา (สมุด) |จามา]]'' สรุปว่า "ไม่สอดคล้องกันในข้อมูลระหว่างบทคัดย่อ และเนื้อความ และรายงานข้อมูลและข้อมูลอื่น ๆ เพียงในบทคัดย่อค่อนข้างทั่วไป และว่า การแทรกแซงทางการศึกษาได้โดยตรงถึงผู้เขียนจะไม่มีประสิทธิภาพในการลดความถี่ที่"{ {อ้างอิง journal|url = http://jama.jamanetwork.com/article.aspx?articleid=187740 |title =สามารถความถูกต้องของบทคัดย่อสามารถปรับปรุง โดยให้คำแนะนำเฉพาะ? |last1 = Pitkin|first1 =รอย M. |last2 = Branagan|first2 = Mary Ann|publisher = JAMA|date = 15 กรกฎาคม 1998|page = 267, 268 } }อื่น ๆ "การศึกษาเปรียบเทียบความถูกต้องของข้อมูลที่รายงานในย่อสมุดรายวันที่รายงานในข้อความของประกาศทั้งหมดพบร้องเรียนว่าสอดคล้องกับ หรือหายไปจาก เนื้อหาของบทความเต็ม"{ {อ้างอิง journal|url = http://www.plosmedicine.org/article/info%3Adoi%2F10.1371%2Fjournal.pmed.0050020 |title =มเหสีสำหรับรายงาน Randomized ควบคุมการทดลองในสมุดรายวัน และประชุมบทคัดย่อจาก: อธิบาย และ Elaboration|publisher = JAMA|author = Sally Hopewell et al. |วัน 22 มกราคม 2008|page = = 48, 49 } }{ {อ้างอิง journal|url = http://www.clinchem.org/content/47/1/149.full |title =ไม่สอดคล้องกันของข้อมูลในบทคัดย่อของบทความใน Chemistry|author คลินิก = Siebers|publisher โรเบิร์ต = Chemistry|date ทางคลินิก = 2001|page มกราคม = 149 } }

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วรรณกรรมวิชาการใช้นามธรรมชัดถ้อยชัดคำสื่อสารวิจัยที่ซับซ้อน นามธรรมอาจทำหน้าที่เป็นนิติบุคคลที่ยืนอยู่คนเดียวแทนกระดาษเต็ม เช่นนามธรรมถูกใช้โดยหลายองค์กรเป็นพื้นฐานสำหรับการเลือกงานวิจัยที่จะเสนอเพื่อนำเสนอในรูปแบบของโปสเตอร์แพลตฟอร์ม / การนำเสนอปากเปล่าหรืองานนำเสนอการประชุมเชิงปฏิบัติการที่ [[ประชุมวิชาการ]] วรรณกรรมดัชนีเครื่องมือค้นหาฐานข้อมูลส่วนใหญ่บทคัดย่อมากกว่าการให้ข้อความทั้งหมดของกระดาษ ข้อความเต็มรูปแบบของเอกสารทางวิทยาศาสตร์มักจะต้องซื้อเพราะของลิขสิทธิ์และ / หรือค่าธรรมเนียมเผยแพร่และดังนั้นจึงเป็นนามธรรมเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับการพิมพ์หรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของข้อความเต็ม{{อ้างอิง | title = ระเบียบวิธีวิจัยในการตั้งค่าประยุกต์ | งาน = Google Book Search | accessdate = 2009-0w4-22 | ไอ = 978-0-8058-2992-1 | author1 = Gliner, เจฟฟรีย์ | author2 = มอร์แกน, จอร์จอาเธอร์ | วันที่ = 2000/02/01}}

บทคัดย่อได้รับการคุ้มครองภายใต้ [[ลิขสิทธิ์]] กฎหมายเช่นเดียวกับรูปแบบอื่น ๆ ของการเขียน [[การสื่อสารการพูด | คำพูด]] ได้รับการคุ้มครอง อย่างไรก็ตามสำนักพิมพ์บทความทางวิทยาศาสตร์อย่างสม่ำเสมอทำให้บทคัดย่อใช้ได้อย่างอิสระแม้เมื่อบทความตัวเองไม่ได้ ตัวอย่างเช่นบทความในวรรณคดีชีวการแพทย์ที่มีอยู่จากสาธารณชน [[MEDLINE]] ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านทาง [[PubMed]] นามธรรมสามารถถ่ายทอดผลหลักและข้อสรุปของบทความทางวิทยาศาสตร์ แต่บทความข้อความเต็มจะต้องมีการปรึกษาหา​​รือเพื่อดูรายละเอียดของวิธีการที่ผลการทดลองเต็มรูปแบบและการสนทนาที่สำคัญของการตีความและข้อสรุป ให้คำปรึกษาที่เป็นนามธรรมเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับทุนการศึกษาและอาจนำไปสู่​​การตัดสินใจทางการแพทย์ที่ไม่เหมาะสม{{อ้างอิง การวิเคราะห์การตัดสินใจ ... | งาน = Google Book Search | accessdate = 2009-04-22}}

นามธรรมช่วยหนึ่งที่จะลอดผ่านปริมาณมากของเอกสารสำหรับคนที่นักวิจัยสามารถมีความมั่นใจมากขึ้นว่าพวกเขาจะมีความเกี่ยวข้องกับการวิจัยของเขาหรือเธอ เมื่อเอกสารได้รับการแต่งตั้งขึ้นอยู่กับนามธรรมที่พวกเขาจะต้องอ่านอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้รับการประเมินความเกี่ยวข้อง มันเป็นเรื่องปกติสันนิษฐานว่าหนึ่งต้องไม่อ้างอิงอ้างอิงฐานในนามธรรมเพียงอย่างเดียว แต่ประโยชน์ทั้งหมดของกระดาษ. ตามผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน '' [[PLoS Medicine]] '', "การรายงานข่าวที่พูดเกินจริงและไม่เหมาะสม ผลการวิจัยในการสื่อข่าว "เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องท้ายที่สุดจะไม่ถูกต้องรายงานหรือมากกว่าการตีความผลการวิจัยในข้อสรุปที่เป็นนามธรรมมาก

{{อ้างอิง ของงานวิจัยแบบสุ่มในข่าวประชาสัมพันธ์และข่าว:. ศึกษาการศึกษา | เขียน = Amélie Yavchitz et al, | เผยแพร่ = PLoS Medicine | วัน = 11 กันยายน 2012 | page = 8-9, 11}} การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน '' [[JAMA (วารสาร) | JAMA]] '' สรุปว่า "ไม่สอดคล้องกันในข้อมูลระหว่างนามธรรมและร่างกายและการรายงานข้อมูลและข้อมูลอื่น ๆ แต่เพียงผู้เดียวในนามธรรมมีความเหมือนกันและที่แทรกแซงการศึกษาง่ายนำไป ผู้เขียนไม่ได้ผลในการลดความถี่ที่. "{{อ้างอิงวารสาร | url = http:? //jama.jamanetwork.com/article.aspx articleID = 187740 | title = สามารถความถูกต้องของบทคัดย่อจะดีขึ้นโดยการให้คำแนะนำเฉพาะ | last1 = พิ | first1 = รอย M. | last2 = Branagan | first2 = แมรี่แอน | เผยแพร่ = JAMA | วัน = 15 กรกฎาคม 1998 | page = 267, 268}} อื่น ๆ "การศึกษาเปรียบเทียบความถูกต้องของข้อมูลที่มีการรายงานในวารสารนามธรรมกับที่รายงานในข้อความของสิ่งพิมพ์เต็มรูปแบบได้พบการเรียกร้องที่ไม่สอดคล้องกับหรือหายไปจากร่างของบทความเต็มรูปแบบ."{{อ้างอิง รายงานผลการวิจัยแบบสุ่มในบทคัดย่อวารสารและการประชุม:. คำอธิบายและรายละเอียดเพิ่มเติม | เผยแพร่ = JAMA | author = แซลลี่โฮปเวลและคณะ | วัน = 22 มกราคม 2008 | page = 48, 49}}{{อ้างอิงวารสาร | url = http: //www.clinchem.org/content/47/1/149.full | title = ข้อมูลไม่สอดคล้องกันในบทคัดย่อของบทความในเคมีคลินิก | ผู้เขียนโรเบิร์ต = Siebers | เผยแพร่ = เคมีคลินิก | วันที่ = มกราคม 2001 | page = 149}}

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วรรณกรรมวิชาการใช้นามธรรมชัดเจนสื่อสารงานวิจัยที่ซับซ้อน นามธรรมอาจเป็นนิติบุคคลเดี่ยวแทนกระดาษเต็ม เช่น บทคัดย่อจะถูกใช้โดยหลายองค์กรเป็นพื้นฐานสำหรับการเลือกงานวิจัยที่เสนอเพื่อการนำเสนอในรูปแบบโปสเตอร์ แพลตฟอร์ม / การนำเสนอด้วยปากเปล่า หรือการประชุมเชิงปฏิบัติการ การนำเสนอในการประชุมวิชาการ [ [ ] ]ที่สุดเครื่องมือค้นหาฐานข้อมูลดัชนีวรรณกรรมเพียงบทคัดย่อมากกว่าการให้ข้อความทั้งหมดของกระดาษ ข้อความเต็มของเอกสารทางวิทยาศาสตร์มักจะต้องซื้อเพราะลิขสิทธิ์และ / หรือค่าจัดพิมพ์ และนามธรรมคือจุดขายสำคัญสำหรับพิมพ์หรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ของข้อความเต็ม . < ref > { { อ้างอิงหนังสือ | url = http://books.google.com/ ?id = spywigzp4vwc & PG = pa428 & LPG = pa428 & DQ = นามธรรมจุดขายวารสาร - วิกิพีเดีย | ชื่อเรื่อง = วิธีวิจัยในการตั้งค่าที่ใช้งาน | = กูเกิ้ลค้นหาหนังสือ | accessdate = 2009-0w4-22 | ISBN = 978-0-8058-2992-1 | author1 = gliner เจฟฟรีย์เป็น | author2 = มอร์แกน , จอร์จ อาเทอร์ | วันที่ = 2000-02-01 } } < / อ้างอิง >

บทคัดย่อได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายลิขสิทธิ์ ] ] [ [ เช่นเดียวกับรูปแบบอื่นใดของการสื่อสาร | การพูดสุนทรพจน์เขียน [ [ ] ] ได้รับการคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม , เผยแพร่บทความวิทยาศาสตร์บทคัดย่อทุกเมื่อเชื่อวันให้ใช้ได้อย่างอิสระ แม้แต่เมื่อบทความตัวเองไม่ ตัวอย่างเช่น บทความในทางวรรณกรรมที่มีอยู่ทั่วไปจาก [ [ Medline ] ] ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านทาง [ [ บริการ ] ]นามธรรม สามารถถ่ายทอดหลักผลและข้อสรุปของบทความทางวิทยาศาสตร์ แต่บทความข้อความเต็มต้องปรึกษารายละเอียดของวิธีการ เต็มผลการทดลองและการอภิปรายที่สำคัญของการตีความและสรุป ในด้านนามธรรม คนเดียว ไม่เพียงพอสำหรับทุนการศึกษาและอาจนำไปสู่การตัดสินใจทางการแพทย์ไม่เหมาะสม < ref > { { อ้างอิงเว็บหนังสือ | url = http : / /google.com/books ? id = 1pmwwixlhg8c & PG = ra1-pa51 & LPG = ra1-pa51 & DQ = เมดไลน์จำกัด | ชื่อ meta การวิเคราะห์การตัดสินใจ . . . . . . . | ทำงาน = กูเกิ้ลค้นหาหนังสือ | accessdate = 2009-04-22 } } < / ref >

เป็นนามธรรมที่ช่วยให้หนึ่งที่จะลอดผ่านปริมาณมากเอกสารสําหรับคนซึ่งผู้วิจัยสามารถมีความมั่นใจมากขึ้นว่าพวกเขาจะเกี่ยวข้องกับของเขาหรืองานของเธอเมื่อเอกสารถูกเลือกบนพื้นฐานของนามธรรม ก็ต้องอ่านอย่างระมัดระวังจะประเมินความเกี่ยวข้อง มันเป็นที่คาดการณ์ว่าหนึ่งไม่ต้องฐานการอ้างอิงการอ้างอิงในบทคัดย่อคนเดียว แต่ทั้งข้อดีของกระดาษ

ตามผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน ' ' ' ' [ [ PLoS Medicine ] ] ' '" เว่อร์ไปและไม่เหมาะสมครอบคลุมงานวิจัย ตามข่าวสื่อ " เป็นที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการรายงานอย่างไม่ถูกต้องหรือการตีความผลการวิจัยโดยสรุปบทคัดย่อมากมาย < ref > { { อ้างอิงวารสาร | url = http://www.plosmedicine.org/article/fetchobject.action ? ยูริ = ข้อมูล % 3adoi % 2f10.1371 % 2fjournal.pmed .1001308 &แทน = PDF | ชื่อเรื่อง = การบิดเบือนของการทดลองควบคุมแบบสุ่มในข่าวประชาสัมพันธ์และข่าว : การศึกษาไปข้างหน้า | เขียน = ALP yavchitz et al . | publisher = = | PLoS ยาวันที่ 11 กันยายน , 2012 | หน้า = 8-9 ,11 } } < / ref > การศึกษาตีพิมพ์ใน ' ' ' ' [ [ JAMA ( นิตยสาร ) | Jama ] ] ' ' ' ' สรุปได้ว่า " ความไม่สอดคล้องกันในนามธรรมและข้อมูลระหว่างร่างกายและการรายงานข้อมูลและข้อมูลอื่น ๆแต่เพียงผู้เดียวในนามธรรมค่อนข้างบ่อยและง่ายการศึกษาการแทรกแซงโดยตรง ผู้เขียนจะไม่ได้ผลในการลดที่ ความถี่ " < ref > { { อ้างอิงวารสาร | url = http://jama.jamanetwork.com/article.aspx ?articleid = 187740 | ชื่อเรื่อง = ความถูกต้องของบทคัดย่อจะดีขึ้น โดยการให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจง | last1 = พิตคิ้น | first1 = รอยเมตร | last2 = branagan | first2 = แมรี่แอน | publisher = Jama | วันที่ 15 กรกฎาคม 2541 | หน้า = 267 , 268 } } < / ref > อื่นๆ " การศึกษาเปรียบเทียบความถูกต้องของข้อมูลที่รายงานในวารสารบทคัดย่อกับรายงานในข้อความของการเต็มรูปแบบ ได้พบ อ้างว่า ที่สอดคล้องกับหรือหายไปจากร่างกายของบทความเต็ม . " < ref > { { อ้างอิงวารสาร | url = http : / / www.plosmedicine . org / บทความ / % 3adoi ข้อมูล % 2f10.1371 % 2fjournal . pmed . 0050020 | ชื่อเรื่อง = พระสนมรายงานสุ่มการทดลองในวารสารและการประชุมบทคัดย่อ : คำอธิบายและรายละเอียด | publisher = JAMA | เขียน = แซลลี่โฮปเวลล์ et al . | วันที่ = 22 มกราคม , 2008 | หน้า = 48 , 49 } } < / ref > < ref > { { อ้างอิงวารสาร | url = http : / / www .clinchem . org / เนื้อหา / 47 / 1 / 149 . เต็ม | ชื่อเรื่อง = ข้อมูลไม่สอดคล้องกันในบทคัดย่อของบทความในเคมีคลินิก | เขียน = โรเบิร์ต siebers | publisher = เคมีคลินิก | วันที่ = มกราคม 2544 | หน้า = 149 } } < / ref >