Data collectionThe Objective Struct

Data collection
The Objective Structured Clinical Examination was originally developed in the
University of Dundee in 1975 to assess the clinical competence of trainee
doctors (Harden & Gleeson 1979). Since then, the use of OSCEs has been
increasingly recognised as an effective evaluation tool for assessing the
practical skills of other healthcare students. In most allied health professions it
is recognised as a valid, reliable and practical assessment method (Harden &
Gleeson 1979, Sloan et al. 1995). This type of assessment is composed of
several short exercises, or stations, through which students rotate individually
for a given time. An OSCE is usually composed of 15 to 20 stations that last
between 3 and 10 minutes. Each station focuses on a particular clinical
aspect, either in a practical way and invigilated by an examiner, or in a
theoretical way, in the form of a pen and paper exercise. Students are given a
limited time at each station and have to wait for a signal before rotating to the
next one (Harden 1990). By the end of the OSCE, all students have passed
through all the stations and been marked according to a precise set of criteria.
Well-designed marking sheets and appropriate briefing and preparation of
examiners ensure that the overall examination is based on objective
judgements.
9
Designing effective OSCE stations is not easy. This type of examination is
time-consuming, resource intensive, and requires careful organisation and
planning to be successful (Harden 1990). However, this assessment method
can be flexible and tailored to the organisers’ needs (Alinier 2003). It is also
particularly useful for enabling students to evaluate themselves and determine
their own weaknesses (Bramble 1994, Sloan et al. 1995).
For the purposes of this study, a 15-station OSCE was developed. This meant
that only 15 students could be examined in each session. Students had five
minutes per station, with a one-minute gap to rotate to the next one, which
made the total examination last 90 minutes. Each OSCE session ran over two
hours as students needed to sign in, be given an anonymity number, and be
reminded about the organisation of the OSCE. The OSCE included four
theoretical stations with questions on safety and nursing practice (Alinier et al.
2004). Each of the other 11 stations was supervised by an examiner and
required students to use their clinical knowledge, technical ability, and
communication skills. Those stations were marked at the time of the
examination, whereas the theoretical stations were marked later. A concise
set of instructions and marking scales was prepared for the 15 stations in
order to make the marking as objective as possible. All OSCE examiners
were trained by the principal investigator to ensure consistency in the
marking.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รวบรวมข้อมูลวัตถุประสงค์โครงสร้างคลินิกตรวจสุขภาพถูกพัฒนามาในการมหาวิทยาลัยดันดีในปี 1975 เพื่อประเมินความสามารถทางคลินิกของการฝึกหัดแพทย์ (แข็งและ Gleeson 1979) หลังจากนั้น การใช้ OSCEs ได้มากขึ้นในฐานะเป็นเครื่องมือการประเมินที่มีประสิทธิภาพสำหรับการประเมินการทักษะการปฏิบัติของนักศึกษาแพทย์ ในส่วนพันธมิตรสุขภาพอาชีพมันเป็นวิธีการประเมินที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ และการปฏิบัติ (แข็งและทาง Gleeson ที่ 1979 สโลน et al. 1995) การประเมินชนิดนี้ประกอบด้วยหลายสั้นหรืออกกำลังกาย สถานี ที่นักเรียนหมุนทีละสำหรับเวลาที่กำหนด OSCE มักจะประกอบด้วย 15 ถึง 20 สถานีที่ระหว่าง 3 และ 10 นาที แต่ละสถานีเน้นเฉพาะทางคลินิกด้าน อย่างใดอย่างหนึ่งในทางปฏิบัติ และ invigilated โดยมีผู้ตรวจสอบ หรือในการทางทฤษฎี ในรูปของการออกกำลังกายที่ปากกาและกระดาษ นักเรียนจะได้มีเวลาจำกัดในแต่ละสถานี และต้องรอสัญญาณก่อนที่จะหมุนไปถัดไปหนึ่ง (1990 แข็ง) ในตอนท้ายของ OSCE การ นักเรียนทุกคนได้ผ่านผ่านทุกสถานี และทำเครื่องหมายตามชุดเงื่อนไขที่แม่นยำแผ่นเครื่องหมายที่ออกแบบ และบรรยายสรุปที่เหมาะสม และการเตรียมการตรวจสอบให้แน่ใจว่า การตรวจสอบโดยรวมเป็นไปตามวัตถุประสงค์วิจารณญาณ9การออกแบบสถานี OSCE มีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นการตรวจชนิดนี้ทรัพยากร ใช้เวลานานมาก และต้องระมัดระวังองค์กร และการวางแผนจะ ประสบความสำเร็จ (1990 แข็ง) อย่างไรก็ตาม วิธีการประเมินนี้สามารถมีความยืดหยุ่น และเหมาะสมกับความต้องการการจัดระเบียบ (Alinier 2003) ก็ยังประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักเรียนสามารถประเมินตนเอง และตรวจสอบจุดอ่อนของตนเอง (บรัมเบิล 1994 สโลน et al. 1995)OSCE 15 สถานีถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ นี้หมายถึงให้นักเรียนเพียง 15 สามารถตรวจในแต่ละเซสชัน นักเรียนมี 5นาทีต่อสถานี ช่องว่างหนึ่งนาทีเพื่อหมุนถัดไป ซึ่งทำการตรวจสอบรวม 90 นาทีสุดท้าย แต่ละเซสชัน OSCE วิ่งผ่านสองนักเรียนที่จำเป็นในการเข้าสู่ระบบ ได้รับการเปิดเผยตัวเลข และจะเตือนเกี่ยวกับองค์กรของ OSCE การ OSCE การรวมสี่สถานีทางทฤษฎีกับคำถามด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติการพยาบาล (Alinier et al2004) . แต่ละสถานี 11 อื่น ๆ ถูกดูแล โดยผู้ตรวจการ และจำเป็นที่นักเรียนใช้ความรู้ทางคลินิก การผลิต และทักษะการสื่อสาร สถานีเหล่านั้นถูกทำเครื่องหมายในขณะการตรวจสอบ ในขณะที่สถานีทฤษฎีถูกทำเครื่องหมายในภายหลัง กระชับตั้งค่าคำแนะนำ และมาร์คกิ้งเครื่องชั่งถูกจัดเตรียมไว้สำหรับสถานี 15 ในสั่งให้ทำเครื่องหมายที่เป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้ OSCE ทุกนายฝึก โดยการตรวจสอบหลักในการมาร์คกิ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเก็บรวบรวมข้อมูล
และวัตถุประสงค์การตรวจทางคลินิกที่มีโครงสร้างถูกพัฒนามาใน
มหาวิทยาลัยดันดีขึ้นในปี 1975 เพื่อประเมินความสามารถทางคลินิกของการฝึกอบรม
แพทย์ (ฮาร์เดนและกลีสัน 1979) ตั้งแต่นั้นมาใช้ OSCEs ได้รับการ
ยอมรับมากขึ้นในฐานะที่เป็นเครื่องมือในการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพสำหรับการประเมิน
ทักษะการปฏิบัติของนักเรียนด้านสุขภาพอื่น ๆ ในส่วนวิชาชีพด้านสุขภาพพันธมิตรมัน
ได้รับการยอมรับที่ถูกต้องและเชื่อถือได้และในทางปฏิบัติวิธีการประเมิน (ฮาร์เดนและ
กลีสันปี 1979 สโลน et al. 1995) ประเภทของการประเมินนี้ประกอบด้วย
การออกกำลังกายหลายสั้นหรือสถานีผ่านที่นักเรียนหมุนเป็นรายบุคคล
สำหรับเวลาที่กำหนด โอเอสมักจะประกอบด้วย 15 ถึง 20 สถานีที่มีอายุ
ระหว่าง 3 และ 10 นาที แต่ละสถานีมุ่งเน้นไปที่คลินิกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ด้านทั้งในทางปฏิบัติและ invigilated โดยผู้ตรวจสอบหรือใน
ทางทฤษฎีในรูปแบบของการออกกำลังกายปากกาและกระดาษ นักเรียนจะได้รับ
ระยะเวลาที่ จำกัด ในแต่ละสถานีและมีการรอสัญญาณก่อนที่จะหมุนไป
อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป (ฮาร์เดน 1990) ในตอนท้ายของโอเอสที่นักเรียนทุกคนได้ผ่านการ
ผ่านทุกสถานีและถูกทำเครื่องหมายตามชุดที่แม่นยำของเกณฑ์.
การออกแบบที่ดีทำเครื่องหมายแผ่นและบรรยายสรุปที่เหมาะสมและการเตรียมความพร้อมของ
ผู้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตรวจสอบโดยรวมจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์
การตัดสิน.
9
การออกแบบสถานีโอเอสที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ประเภทของการตรวจสอบนี้เป็น
เวลานานทรัพยากรเข้มและองค์กรต้องระมัดระวังและ
วางแผนจะประสบความสำเร็จ (ฮาร์เดน 1990) อย่างไรก็ตามวิธีการประเมินนี้
สามารถมีความยืดหยุ่นและปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้จัด '(Alinier 2003) นอกจากนี้ยังเป็น
ประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการเปิดให้นักเรียนที่จะประเมินตัวเองและตรวจสอบ
จุดอ่อนของตัวเอง (บรัมเบิ้ลปี 1994, สโลน et al. 1995).
สำหรับวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ 15 สถานีโอเอสได้รับการพัฒนา นั่นหมายความ
ว่ามีเพียง 15 คนจะได้รับการตรวจสอบในแต่ละเซสชั่น นักเรียนที่มีห้า
นาทีต่อสถานีที่มีช่องว่างหนึ่งนาทีเพื่อหมุนไปอีกทางหนึ่งต่อไปซึ่ง
ทำให้การตรวจสอบรวม 90 นาทีที่ผ่านมา เซสชั่นโอเอสแต่ละวิ่งไปสอง
ชั่วโมงเป็นนักเรียนที่จำเป็นในการลงชื่อเข้าใช้จะได้รับจำนวนไม่เปิดเผยชื่อและได้รับการ
เตือนเกี่ยวกับองค์กรของโอเอส โอเอสรวมสี่
สถานีทฤษฎีที่มีคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและการพยาบาลการปฏิบัติ (Alinier et al.
2004) แต่ละอื่น ๆ 11 สถานีถูกดูแลโดยผู้ตรวจสอบและ
ต้องให้นักเรียนใช้ความรู้ทางคลินิกความสามารถทางเทคนิคและ
ทักษะในการสื่อสาร สถานีเหล่านั้นถูกทำเครื่องหมายในช่วงเวลาของ
การตรวจสอบในขณะที่สถานีทฤษฎีถูกทำเครื่องหมายในภายหลัง กระชับ
ชุดของคำสั่งและเครื่องชั่งน้ำหนักการทำเครื่องหมายถูกเตรียมไว้สำหรับ 15 สถานีใน
การที่จะทำให้การทำเครื่องหมายเป็นวัตถุประสงค์ที่เป็นไปได้ ตรวจสอบโอเอสทั้งหมด
ได้รับการฝึกฝนโดยผู้วิจัยหลักเพื่อให้สอดคล้องใน
การทำเครื่องหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเก็บรวบรวมข้อมูลมีโครงสร้างการตรวจสอบทางคลินิกพัฒนาเดิมในมหาวิทยาลัยดันดีในปี 1975 เพื่อประเมินความสามารถทางคลินิกของการฝึกหัดหมอ ( แข็ง & กลีสัน 1979 ) จากนั้น ใช้ osces ได้รับมากขึ้นได้รับการยอมรับเป็นเครื่องมือการประเมินผลที่มีประสิทธิภาพสำหรับการประเมินทักษะปฏิบัติของนักเรียน การดูแลสุขภาพอื่น ๆ ในส่วนพันธมิตรสุขภาพมันได้รับการยอมรับในฐานะที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ และวิธีปฏิบัติ ( แข็ง & ประเมินกลีสัน 1979 , สโลน et al . 1995 ) การประเมินชนิดนี้ประกอบด้วยแบบฝึกหัดสั้น ๆหรือสถานี ซึ่งนักเรียนหมุนทีละสำหรับเวลาที่กำหนด มีการประชุมมักจะประกอบด้วย 15 ถึง 20 สถานีสุดท้ายระหว่าง 3 และ 10 นาที แต่ละสถานีจะเน้นเฉพาะทางคลินิกด้าน ทั้งในทางที่เป็นประโยชน์ และ invigilated โดยผู้ตรวจสอบ หรือในทฤษฎีทาง ในรูปแบบของปากกาและกระดาษ ออกกําลังกาย นักเรียนจะได้รับจำกัดเวลาในแต่ละสถานี และต้องรอสัญญาณก่อนที่จะหมุนไปถัดไป ( แข็ง 1990 ) ในตอนท้ายของการประชุม นักศึกษาทั้งหมดได้ผ่านผ่านทุกสถานี และมีเครื่องหมายชัดเจนตามชุดของเกณฑ์ออกแบบมาอย่างดีและเหมาะสม การสรุปและจัดทำแผ่นผู้ตรวจสอบให้แน่ใจว่า การตรวจสอบโดยรวมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์คำพิพากษา .9การออกแบบสถานีการประชุมที่มีประสิทธิภาพได้ง่ายค่ะ การตรวจชนิดนี้คือต้องใช้เวลามากทรัพยากรอย่างเข้มข้น และต้องมีองค์กรระวังการวางแผนเพื่อความสำเร็จ ( แข็ง 1990 ) อย่างไรก็ตาม วิธีการประเมินนี้สามารถยืดหยุ่นและปรับแต่งตามความต้องการผู้จัด " ( alinier 2003 ) มันเป็นยังโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นประโยชน์เพื่อช่วยให้นักเรียนประเมินตนเอง และกำหนดจุดอ่อนของตนเอง ( บรัมเบิล 1994 สโลน et al . 1995 )สำหรับวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือ 15 สถานี ร่วมกับการพัฒนา นี้หมายถึงที่เพียง 15 คน สามารถตรวจสอบในแต่ละครั้ง นักเรียนมีห้านาทีต่อสถานี ด้วยช่องว่าง 1 นาทีที่จะหมุนไปอีกหนึ่งที่ทำข้อสอบทั้งหมด 90 นาที แต่ละเซสชันการประชุมวิ่งผ่านสองชั่วโมง เป็นนักศึกษาต้องการให้ลงชื่อ ได้รับการเปิดเผยตัวเลข และเตือนเกี่ยวกับองค์กรของการประชุม . ท้าทายรวมสี่สถานีทฤษฎีคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติการพยาบาลและความปลอดภัย ( alinier et al .2004 ) ของแต่ละอื่น ๆ 11 สถานีเป็นดูแลโดยผู้ตรวจสอบและต้องการให้นักเรียนใช้ความรู้ทางคลินิกของพวกเขาความสามารถในด้านเทคนิค และทักษะการสื่อสาร สถานีที่ถูกทำเครื่องหมายในเวลาของการสอบภาคทฤษฎี ส่วนสถานีที่ถูกทำเครื่องหมายในภายหลัง ความกระชับชุดของคำสั่งและเครื่องหมายเครื่องชั่งถูกเตรียมไว้สำหรับ 15 สถานีเพื่อให้เครื่องหมายเป็นวัตถุประสงค์ที่เป็นไปได้ ผู้ตรวจสอบการประชุมทั้งหมดถูกฝึกโดยผู้วิจัยหลัก เพื่อให้สอดคล้องในเครื่องหมาย