ชีวิตพระนี่มีโอกาสพิเศษอย่างหนึ่ง คือได้ชิมอาหารทุกฝีมือทุกระดับ นับตั้งแต่ในวังไปจนอาหารบ้านนอกคอกนา พระถ้าไม่เป็นหนูลองยาก็ต้องได้เป็นแขกวีไอพีที่ได้ลิ้มรสชาติอาหารมากกว่าใครในโลก ดังนั้นถ้าว่ากันเรื่องอาหารการกินแล้ว สภาพแวดล้อมก็บีบบังคับให้พระเป็นนักชิมอย่างที่เรียกว่าเชลล์ไม่ต้องชวนก็ได้ชิม
วันนี้ผู้เขียนขอทำตัวเป็นพระมะเหลเถไถไพล่ไปพูดเรื่องอาหารการกินเสียหน่อย เท้าประวัติให้ฟังก็ได้ว่า ผู้เขียนนั้นเป็นคน "เจียงใหม่" โดยกำเนิดและโดยกำพืดด้วย คนเชียงใหม่นั้นเรียกตัวเองว่า "คนเมือง" ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกกันมาแต่ครั้งไหน
นิสัยส่วนตัวอย่างหนึ่งของผู้เขียนก็คือ ชอบทำอาหาร สังเกตสังกาว่า เขาทำอย่างไร ใส่อะไรไปบ้าง และที่สำคัญก็คือ "ทำอย่างไรถึงจะอร่อย" อาหารพื้นเมืองเหนือนั้นก็มีมากมายหลายชนิด ทั้งปิ้ง ย่าง ทอด ลาบ พร่า ผัด แกง ต้ม ยำ และน้ำพริก วันนี้มีเมนูที่เลือกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์แข่งกับรายการ "ชิมไปบ่นไป" ของคุณสมัคร สุนทรเวช นักชิมและนักปรุงมือยงของบางกอก ก็คือ "น้ำพริกอ่อง"
คำว่า "อ่อง" นั้น เป็นคำเมืองแท้ๆ มีความหมายว่า มันข้น เช่น อ่องออ ซึ่งแปลว่า มันสมอง มีลักษณะเป็นมันข้น น้ำพริกอ่องก็คือ น้ำพริกหมูสับที่ปรุงให้งวดมีลักษณะเป็นมันข้น
สูตรทำน้ำพริกอ่องนั้น ค้นดูในเว๊บไซต์แล้ว เห็นมีเป็นร้อยๆ ต่างคนก็เขียนกันไปคนละทิศคนละทางตามแต่ถนัด ซึ่งก็ต้องขอออกตัวอีกว่า นี่มิใช่สูตรพิเศษอะไรเลย หากแต่เป็น "สูตรสามัญ" ที่เคยทำเคยชิมและอยากเชิญชวนให้ท่านที่ยังไม่เคยทำได้ลองทำ จะได้รู้ว่า น้ำพริกอ่องแท้ๆ รสชาติแบบเมืองเหนือนั้นเขาทำและกินกันอย่างไร
ว่าด้วยเครื่องปรุง น้ำพริกอ่องนั้นมีเครื่องปรุงสำคัญก็คือ กระเทียม มาเป็นที่ 1 พริกแห้ง มาเป็นที่ 2 หอมหัวแดง มาเป็นที่ 3 ตามด้วยเกลือ และสุดท้ายที่จะขาดไม่ได้ก็คือ ถั่วเ