THE NATIONAL Legislative Assembly h

THE NATIONAL Legislative Assembly has passed a bill establishing a development fund for |the state's special financial institutions.

This means the four state banks - the Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives (BAAC), Government Housing Bank (GHB), Government Savings Bank (GSB), and Islamic Bank of Thailand (I-Bank) - will have to contribute to a fund to help with their own development.

The state banks will have to |provide no more than 1 per cent of their total deposits to this deve-|lopment fund, which is the same proportion that the Bank of Thailand is collecting from the commercial banks for a similar type of fund.

The money collected from the state banks would be used to improve their financial stability while also serving as a reserve for the special financial institutions to use at times when their budgets are under pressure.

Commercial banks currently pay around 0.47 per cent of their total deposits to the BOT to help pay down the debt of the

revival fund, while 0.01 per cent is sent to the Deposit Protection Agency.

As of the end of November, GSB had Bt1.86 trillion in savings deposits, the most out of the four state banks, while the BAAC had Bt1.18 trillion, GHB Bt641 billion and I-Bank Bt110 billion.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่านรายการสร้างกองทุนพัฒนาสำหรับสถาบันการเงินพิเศษของรัฐ |theซึ่งหมายความว่าสี่รัฐธนาคาร -ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์เกษตร (BAAC), ธนาคารอยู่อาศัยของรัฐบาล (GHB), รัฐบาลธนาคารออมสิน (GSB), และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (I-Bank) - จะได้บริจาคให้กองทุนเพื่อช่วยพัฒนาตนเองธนาคารรัฐจะได้ |provide อีกกว่า 1 ร้อยละของเงินฝากรวมของพวกเขาเพื่อ deve |lopment กองทุนรวมนี้ ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคือการรวบรวมจากธนาคารพาณิชย์สำหรับประเภทที่คล้ายกันของกองทุนเงินที่รวบรวมจากธนาคารรัฐจะใช้เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพทางการเงินของพวกเขาในขณะที่ยัง ให้บริการเป็นตัวสำรองสำหรับสถาบันการเงินพิเศษใช้เวลางบประมาณของพวกเขาอยู่ภายใต้ความดันธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันจ่ายประมาณร้อยละ 0.47 ของเงินฝากรวมของธปท.เพื่อช่วยค่าจ้างลงหนี้ของ ฟื้นฟูกอง ในขณะที่ร้อยละ 0.01 ถูกส่งไปยังสถาบันคุ้มครองเงินฝากณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน GSB ได้ Bt1.86 ล้านล้านในเงินฝากออมทรัพย์เงินฝาก สูงสุดจากธนาคารรัฐสี่ ขณะ BAAC ที่มี Bt1.18 ล้านล้าน GHB Bt641 พันล้านและผมธนาคาร Bt110 พันล้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่านการเรียกเก็บเงินการจัดตั้งกองทุนพัฒนาสำหรับ | ของรัฐสถาบันการเงินพิเศษ. ซึ่งหมายความว่าสี่ธนาคารของรัฐ - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. ) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GHB) ธนาคารออมสิน (GSB .) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (I-Bank) - จะต้องมีส่วนร่วมในกองทุนเพื่อช่วยให้มีการพัฒนาตนเองธนาคารของรัฐจะต้อง | ให้ไม่เกินร้อยละ 1 ของเงินฝากรวมของพวกเขาที่จะ deve- นี้ | กองทุน lopment ซึ่งเป็นสัดส่วนเดียวกับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้เก็บจากธนาคารพาณิชย์สำหรับประเภทที่คล้ายกันของกองทุนรวม. เก็บเงินจากธนาคารของรัฐจะถูกใช้ในการปรับปรุงความมั่นคงทางการเงินของพวกเขาในขณะที่ยังทำหน้าที่เป็นสำรองสำหรับพิเศษ สถาบันการเงินที่จะใช้ในช่วงเวลาที่งบประมาณของพวกเขาอยู่ภายใต้ความกดดัน. ธนาคารพาณิชย์ขณะนี้จ่ายประมาณร้อยละ 0.47 ของเงินฝากรวมของพวกเขาไปยังธนาคารแห่งประเทศไทยจะช่วยจ่ายหนี้ที่ลดลงของกองทุนฟื้นฟูในขณะที่ร้อยละ 0.01 ถูกส่งไปยังสถาบันคุ้มครองเงินฝาก . ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ธนาคารออมสินได้ 1.86 บาทล้านล้านดอลลาร์ในเงินฝากออมทรัพย์มากที่สุดของสี่ธนาคารของรัฐในขณะที่ ธ กสได้ 1.18 บาทล้านล้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ Bt641 พันล้านดอลลาร์และ I-Bank 110 บาทพันล้าน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่านร่างกฎหมายการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาสถาบันการเงินพิเศษของรัฐ |

นี้หมายถึงสี่รัฐธนาคาร - ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ. ก. ส. ) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ( ธอส. ) , ธนาคารออมสิน ,และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ( ผู้ลงทุนสามารถ ) - จะต้องสนับสนุนกองทุนเพื่อช่วยพัฒนาตนเอง

ธนาคาร ของรัฐจะต้อง | ให้ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ของยอดรวมเงินฝากนี้ | lopment deve - กองทุน ซึ่งมีสัดส่วนเดียวกับที่ธนาคาร แห่งประเทศไทย รวบรวมจาก ธนาคารพาณิชย์สำหรับประเภทที่คล้ายกันของ

)เงินที่เรียกเก็บจากธนาคารรัฐ จะใช้เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพทางการเงินของพวกเขาในขณะที่ยังให้บริการเป็นสำรองสำหรับพิเศษสถาบันการเงินที่จะใช้ในเวลาที่งบประมาณของพวกเขาอยู่ภายใต้ความดัน

ธนาคารพาณิชย์ขณะนี้จ่ายประมาณ 0.47 เปอร์เซ็นต์ของยอดรวมเงินฝาก กับ ธปท. เพื่อช่วยจ่ายลงหนี้ของ

กองทุนฟื้นฟู ในขณะที่ 001 เปอร์เซ็นต์เป็นส่งเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก

ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 1 bt1.86 ล้านล้านดอลลาร์ในเงินฝากออมทรัพย์สูงสุดของ 4 ธนาคารรัฐ ขณะที่ ธ. ก. ส. ได้ bt1.18 ล้านล้าน , ธนาคารอาคารสงเคราะห์ bt641 พันล้านและผู้ลงทุนสามารถ Bt110
พันล้าน .