5. What are the obstacles or barrie

5. What are the obstacles or barriers to CAUTI prevention?
Meanwhile, the researcher facilitated the core working group in observing the practices of HCWs regarding CAUTI prevention, and the ICWNs collected CAUTI rates in their settings.
3. The researcher facilitated a small group meeting with the core working group to freely discuss issues, share ideas based on collected data, and to verify information received from focus group discussions and in-depth interview of two physicians. The researcher and the core working group used these data for situational analysis to identify barriers, problems and the solutions regarding CAUTI issues. The results from the situational analysis were verified by the core working group. The findings from situational analysis were described as follows (the details of the finding will be presented in chapter 4).
1.) Inappropriate practices in CAUTI prevention
2.) Not up-to-date CAUTI prevention guidelines
3.) Inadequate knowledge in CAUTI prevention
4.) Lack of awareness in CAUTI prevention
5.) Ineffective communication and collaboration between and among multidisciplinary team
6.) No continuous monitoring system on the practices of HCWs regarding CAUTI prevention
7.) Constraints for CAUTI prevention
8.) Identified the solutions to solve these problems
4. Preparing for presenting the findings from situational analysis to the stakeholders, the researcher held a meeting with the core working group to identify the potential strategies to reduce CAUTI considering the results from situational analysis
In May 2010, the researcher held another meeting to present the data gained from situational analysis to the stakeholders including head nurses, nurse supervisors, and nurses from the study setting. The stakeholders proposed potential strategies and selected the evidence to be used as guidance for developing the tentative model. The systematic review of CDC and HIPPAC (2009) which was extracted from 249 studies was selected from the stakeholders’ consensus for the EBP to be used in this study.
5. The researcher translated the content of the selected EBP into Thai with the assistance of the core working group. The draft of EBP was approved and revised according to three experts’ suggestions from the Faculty of Nursing and two experts from the Faculty of Medicine, Chiang Mai University. The final draft of EBP was distributed to the stakeholders including the hospital infection control physician, infection control nurse, the physician in the setting, and nurse supervisors. The last draft of EBP was then revised at the suggestions from the stakeholders.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5. อะไรคืออุปสรรคหรืออุปสรรคในการป้องกัน CAUTIในขณะเดียวกัน นักวิจัยคณะทำงานหลักในการสังเกตการปฏิบัติของ HCWs ที่เกี่ยวกับการป้องกัน CAUTI ช่วย และ ICWNs การเก็บอัตรา CAUTI ในการตั้งค่า3. นักวิจัยการอำนวยความสะดวกการประชุมกลุ่มเล็ก ๆ กับกลุ่มงานหลัก เพื่อหารือปัญหา แบ่งปันความคิดที่อิงจากข้อมูลที่รวบรวมได้อย่างอิสระ และตรวจสอบข้อมูลได้รับจากการอภิปรายกลุ่มย่อยและสัมภาษณ์เชิงลึกสองแพทย์ นักวิจัยและคณะทำงานหลักใช้ข้อมูลเหล่านี้สำหรับการวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อระบุอุปสรรค ปัญหา และวิธีแก้ไขเกี่ยวกับปัญหา CAUTI ผลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์ถูกตรวจสอบ โดยคณะทำงานหลัก ผลจากการวิเคราะห์สถานการณ์ได้อธิบายไว้ดังนี้ (รายละเอียดของการค้นพบจะนำเสนอในบทที่ 4)Inappropriate 1) หลักปฏิบัติในการป้องกัน CAUTIแนวการป้องกัน CAUTI ไม่ทัน 2)3) ความรู้ไม่เพียงพอในการป้องกัน CAUTIขาดความตระหนักในการป้องกัน CAUTI 4)5) การสื่อสารไม่ได้ผลและทำงานร่วมกันระหว่าง และ ระหว่างทีมสหสาขาวิชาชีพ6) การตรวจสอบระบบในการปฏิบัติการของ HCWs เกี่ยวกับป้องกัน CAUTI ได้ไม่ต่อเนื่อง7) ข้อจำกัดสำหรับการป้องกัน CAUTI8) ระบุวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้4. เตรียมการนำเสนอผลจากการวิเคราะห์สถานการณ์การมีส่วนได้เสีย นักวิจัยจัดประชุมกับคณะทำงานหลักการระบุกลยุทธ์ที่มีศักยภาพเพื่อลด CAUTI พิจารณาผลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์พฤษภาคม 2010 นักวิจัยจัดขึ้นอีกประชุมเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์ได้เสียรวมทั้งหัวหน้าพยาบาล พยาบาลหัวหน้างาน และพยาบาลจากการตั้งค่าการศึกษา มีกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการนำเสนอ และเลือกหลักฐานที่จะใช้เป็นแนวทางการพัฒนารูปแบบแน่นอน ปริทัศน์ของ CDC และ HIPPAC (2009) ซึ่งถูกแยกจาก 249 ศึกษาถูกเลือกจากฉันทามติของเสียสำหรับ EBP ที่จะใช้ในการศึกษานี้5. นักวิจัยเนื้อหาของ EBP เลือกแปลเป็นภาษาไทย ด้วยความช่วยเหลือหลักของกลุ่มทำงานของ ร่างของ EBP เป็นอนุมัติ และปรับปรุงตามสามผู้เชี่ยวชาญของคำแนะนำจากคณาจารย์ของพยาบาลและสองผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่างสุดท้ายของ EBP กระจายได้เสียรวมทั้งแพทย์ควบคุมการติดเชื้อโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาลควบคุมการติดเชื้อในการตั้งค่า และพยาบาลหัวหน้างาน ร่างสุดท้ายของ EBP แล้วแก้ไขที่ข้อเสนอแนะจากผู้ถือหุ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5. สิ่งที่เป็นอุปสรรคหรืออุปสรรคในการป้องกัน CAUTI?
ในขณะเดียวกันนักวิจัยการอำนวยความสะดวกหลักคณะทำงานในการสังเกตการปฏิบัติของ HCWs เกี่ยวกับการป้องกัน CAUTI และ ICWNs ที่เก็บรวบรวมอัตรา CAUTI ในการตั้งค่าของพวกเขา.
3 ผู้วิจัยได้อำนวยความสะดวกในการประชุมกลุ่มเล็ก ๆ กับกลุ่มที่ทำงานหลักในการได้อย่างอิสระหารือเกี่ยวกับประเด็นความคิดร่วมกันบนพื้นฐานของข้อมูลที่เก็บรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจากการสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์เชิงลึกของสองแพทย์ ผู้วิจัยและคณะทำงานหลักที่ใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อแจ้งอุปสรรคปัญหาและการแก้ปัญหาเกี่ยวกับปัญหา CAUTI ผลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์ได้รับการตรวจสอบโดยคณะทำงานหลัก ผลการวิจัยจากการวิเคราะห์สถานการณ์ได้อธิบายไว้ดังนี้ (รายละเอียดของการค้นพบจะนำเสนอในบทที่ 4).
1. ) การปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมในการป้องกัน CAUTI
2. ) ไม่ได้ขึ้นไปวันที่แนวทางการป้องกัน CAUTI
3. ) ความรู้ไม่เพียงพอใน CAUTI การป้องกัน
4. ) การขาดความตระหนักในการป้องกัน CAUTI
5. ) การสื่อสารไม่ได้ผลและการทำงานร่วมกันระหว่างและในทีมสหสาขาวิชาชีพ
6. ) ไม่มีระบบการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติของ HCWs เกี่ยวกับการป้องกัน CAUTI
7) ข้อ จำกัด สำหรับการป้องกัน CAUTI
8) ระบุการแก้ปัญหา ในการแก้ปัญหาเหล่านี้
4 เตรียมความพร้อมสำหรับการนำเสนอผลการวิจัยจากการวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียผู้วิจัยได้จัดประชุมกับกลุ่มแกนการทำงานเพื่อระบุกลยุทธ์ที่มีศักยภาพในการลด CAUTI พิจารณาจากผลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์ได้
ในเดือนพฤษภาคม 2010 ผู้วิจัยจัดประชุมเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ได้อีก จากการวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียรวมถึงหัวหน้าหอผู้ป่วยผู้บังคับบัญชาพยาบาลและพยาบาลจากการตั้งค่าการศึกษา ผู้มีส่วนได้เสียที่นำเสนอกลยุทธ์ที่มีศักยภาพและเลือกหลักฐานเพื่อนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนารูปแบบเบื้องต้น การตรวจสอบระบบของ CDC และ HIPPAC (2009) ซึ่งสกัดจาก 249 การศึกษาได้รับการคัดเลือกจากฉันทามติของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำหรับ EBP ที่จะนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้.
5 ผู้วิจัยแปลเนื้อหาของ EBP ที่เลือกเป็นภาษาไทยด้วยความช่วยเหลือของคณะทำงานแกน ร่างของ EBP ได้รับการอนุมัติและปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญสามจากคณะพยาบาลศาสตร์และสองผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่างสุดท้ายของ EBP ถูกแจกจ่ายให้กับผู้มีส่วนได้เสียรวมทั้งการติดเชื้อในโรงพยาบาลแพทย์ควบคุมพยาบาลควบคุมการติดเชื้อแพทย์ในการตั้งค่าและผู้บังคับบัญชาพยาบาล ร่างสุดท้ายของ EBP ถูกแก้ไขแล้วข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 . อะไรคืออุปสรรคหรืออุปสรรคในการป้องกัน cauti ?ขณะเดียวกัน นักวิจัยกลุ่มงานสนับสนุนหลักในการสังเกตการปฏิบัติของ hcws เกี่ยวกับการป้องกัน cauti และ icwns เก็บ cauti อัตราในการตั้งค่าของพวกเขา3 . ผู้วิจัยได้จัดการประชุมกลุ่มเล็กกับแกนการทำงานกลุ่มอิสระหารือประเด็นความคิดร่วมกันบนพื้นฐานของการเก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับจากการสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์เชิงลึกของแพทย์ ผู้วิจัยและหลักการทำงานกลุ่มใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อระบุอุปสรรค ปัญหา และการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปัญหา cauti . ผลจากการวิเคราะห์สถานการณ์ได้ถูกตรวจสอบโดยหลักการทำงานกลุ่ม ผลจากการวิเคราะห์สถานการณ์ได้ถูกอธิบายไว้ดังนี้ ( รายละเอียดของการค้นหาจะแสดงในบทที่ 4 )1 ) การปฏิบัติในการป้องกัน cauti ไม่เหมาะสม2 . ) ไม่ cauti แนวทางป้องกันที่ทันสมัย3 . ) ความรู้ไม่เพียงพอในการป้องกัน cauti4 . ) การขาดความรู้ในการป้องกัน cauti5 . ) ประสิทธิภาพการสื่อสารและความร่วมมือระหว่างทีมสหสาขาวิชาชีพ6 . ) ไม่มีการติดตามอย่างต่อเนื่องของระบบในการปฏิบัติ hcws เกี่ยวกับการป้องกัน cauti7 . ) เพื่อป้องกัน cauti จํากัด8 . ) ระบุว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาเหล่านี้4 . เตรียมการนำเสนอผลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์กับผู้เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยได้จัดประชุมกับแกนนำกลุ่มเพื่อระบุกลยุทธ์ที่มีศักยภาพที่จะลด cauti พิจารณาผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์ในเดือนพฤษภาคม 2010 , ผู้วิจัยได้จัดประชุมเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์กับผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ หัวหน้าหอผู้ป่วย หัวหน้างานพยาบาล และพยาบาล จากการศึกษาการตั้งค่า การนำเสนอกลยุทธ์ด้านศักยภาพและเลือกหลักฐานเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนารูปแบบคร่าวๆ การทบทวนอย่างเป็นระบบของ CDC และ hippac ( 2009 ) ซึ่งสกัดจาก 249 ศึกษาได้รับเลือกจากฉันทามติของผู้มีส่วนได้เสียที่ ebp เพื่อใช้ในการศึกษา5 . ผู้วิจัยแปลเนื้อหาของ ebp เลือกเป็นภาษาไทย ด้วยความช่วยเหลือของ หลัก การทำงานกลุ่ม ร่างของ ebp ได้รับอนุมัติและแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน จากคณะพยาบาลและสองผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่างสุดท้ายของ ebp ถูกแจกจ่ายให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งการควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาลควบคุมการติดเชื้อ แพทย์ในการตั้งค่า และหัวหน้าพยาบาล ร่างสุดท้ายของ ebp แล้วแก้ไขที่เสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย