of changes in demand or cost condit

of changes in demand or cost conditions. The model assumes that if an oligopolist
cuts its prices, competitors will quickly react to this by cutting their own
prices in order to prevent losing market share. On the other hand, if one firm
raises its price, it is assumed that competitors do not match the price rise, in
order to gain market share at the expense of the first firm. In this case the
demand curve facing a firm would be much more elastic for price increases
than for price reductions. This results in the kinked demand curve shown in
Figure 8.11. It should be noted that this is not a ‘true’ demand curve as defined
in Chapter 3, since it no longer assumes that other things remain equal, apart
from the price charged by the firm. If the price charged falls below P0, it is
assumed that other firms react to this and reduce their own prices. We might
call it an ‘effective’ demand curve.
The kink in the demand curve causes a discontinuity or break in the MR curve.
The consequence of this is that if the marginal cost function shifts from the
original function MC1 upwards or downwards within the range from MC2 to
MC3, then the profit-maximizing output will remain at Q0 and the price will
remain at P0, since the MC curve passes through the MR curve in the vertical
break. Similarly, if the demand curve shifts from D1 to D2, the MR curve will shift to
the right to MR2, but the original MC curve will still pass through the vertical break.
This means that the profit-maximizing output will increase from Q0 to Q1, but the
price will remain the same at P0. The reason for this is that the vertical break
occurs below the kink in the demand curve, which is at the prevailing price P0.
The above model can be criticized on three main grounds:
1 It takes the prevailing price as given; there is no attempt to explain how this
prevailing price is determined in the first place.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขความต้องการหรือค่าใช้จ่าย รูปแบบสมมติว่าถ้า
oligopolist ตัดราคาของคู่แข่งได้อย่างรวดเร็วจะตอบสนองต่อการนี​​้โดยการตัดราคา
ของตัวเองเพื่อป้องกันการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด ในทางตรงกันข้ามถ้า
บริษัท หนึ่งเพิ่มราคาของมันก็พอจะสันนิษฐานได้ว่าคู่แข่งไม่ตรงกับการเพิ่มขึ้นของราคาในการสั่งซื้อ
ที่จะได้รับส่วนแบ่งการตลาดที่ค่าใช้จ่ายของ บริษัท เป็นครั้งแรก ในกรณีนี้
เส้นอุปสงค์หันหน้าไปทาง บริษัท จะมากยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับการเพิ่มขึ้นของราคา
กว่าสำหรับการลดราคา ในรายการนี​​้เส้นอุปสงค์ kinked แสดงในรูปที่ 8.11
มันควรจะสังเกตว่านี้ไม่ได้เป็น 'ความจริง' เส้นอุปสงค์เป็น
ที่กำหนดไว้ในบทที่ 3 เพราะมันไม่มีอีกต่อไปสมมติว่ามีสิ่งอื่น ๆ ที่ยังคงเท่ากัน
นอกเหนือจากราคาที่เรียกเก็บโดย บริษัท หากราคาค่าใช้จ่ายต่ำกว่า p0 มันเป็น
สันนิษฐานว่า บริษัท อื่น ๆ จะตอบสนองต่อนี้และลดราคาของพวกเขาเอง เรา
อาจเรียกมันว่า 'มีประสิทธิภาพ' เส้นอุปสงค์.
หงิกงอในเส้นอุปสงค์ที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักหรือหยุดพักอยู่ที่โค้งตัวนาย.
ผลมาจากการนี​​้ก็คือว่าถ้าฟังก์ชั่นค่าใช้จ่ายร่อแร่เลื่อนจากเดิม
ขึ้นฟังก์ชั่น MC1 หรือ ปรับตัวลดลงในช่วงตั้งแต่ mc2 ไป
MC3,แล้วออกแสวงหาผลกำไรสูงสุดจะยังคงอยู่ที่ q0 และราคา
จะยังคงอยู่ที่ p0 ตั้งแต่โค้ง MC ผ่านโค้งในแนวตั้งนาย
ทำลาย ในทำนองเดียวกันถ้ากะเส้นอุปสงค์จาก d1 d2 ไป, โค้งนายจะเปลี่ยนไป
สิทธิ์ที่จะ MR2 แต่โค้ง MC เดิมจะยังคงผ่านการแบ่งแนวตั้ง.
นี้หมายความว่าการส่งออกผลกำไรสูงสุดจะเพิ่มขึ้นจาก q0 เพื่อ q1,แต่ราคา
จะยังคงเหมือนที่ p0 เหตุผลของเรื่องนี้ก็คือว่า
แบ่งแนวตั้งที่เกิดขึ้นด้านล่างในส่วนโค้งเส้นอุปสงค์ซึ่งเป็นที่แพร่หลายในราคาที่ p0
รูปแบบดังกล่าวจะสามารถได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในสามพื้นที่หลัก:
1 มันต้องใช้ราคาในขณะนั้นตามที่กำหนด; มี. เป็นความพยายามที่จะอธิบายวิธีการนี​​้
ราคาแลกเปลี่ยนจะถูกกำหนดในครั้งแรกที่ไม่มี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปลี่ยนแปลงในความต้องการหรือต้นทุน แบบสมมติว่าถ้าเป็น oligopolist
ตัดราคา คู่แข่งจะอย่างรวดเร็วต่อไป โดยตัดตัวเอง
ราคาเพื่อป้องกันการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด ในทางกลับกัน ถ้าหนึ่งบริษัท
เพิ่มราคา มันสันนิษฐานว่า คู่แข่งตรงกับขึ้นราคา ใน
สั่งแย่งส่วนแบ่งตลาดค่าใช้จ่ายของบริษัทแรก ในกรณีนี้การ
เส้นอุปสงค์ที่หันหน้าไปทางบริษัทจะยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับการเพิ่มราคา
กว่าสำหรับราคาลด ซึ่งผลเส้นอุปสงค์ kinked ที่แสดงใน
8.11 รูป ควรสังเกตว่า นี่ไม่ใช่ความ 'จริง' เส้นโค้งตามที่กำหนดไว้
ในบทที่ 3 ตั้งแต่นั้นไม่ถือว่า สิ่งต่าง ๆ ยังคงเท่า อพาร์ท
จากราคาที่เรียกเก็บ โดยบริษัท ถ้าราคาที่เรียกเก็บลดลงต่ำกว่า P0
สมมติบริษัทอื่น ๆ ต่อไป และลดราคาของตนเอง เราอาจ
เรียกว่าโค้ง 'ประสิทธิภาพ' ความต้องการได้
kink ในเส้นอุปสงค์ทำให้โฮหรือหยุดพักในนายโค้งได้
สัจจะนี้ก็คือถ้าเลื่อนฟังก์ชันต้นทุนกำไรจากการ
ฟังก์ชันเดิม MC1 ขึ้น หรือลงภายในตั้งแต่ MC2 ให้
MC3 แล้วผลผลิตเพิ่มกำไรจะอยู่ที่ Q0 และราคาจะ
อยู่ที่ P0 ตั้งแต่โค้ง MC ผ่านนายเส้นโค้งในแนวตั้ง
แบ่ง ในทำนองเดียวกัน ถ้าเส้นอุปสงค์เลื่อนจากง 1 ไป D2 โค้งนายจะเปลี่ยนไป
ขวา MR2 แต่โค้ง MC ต้นฉบับจะยังคงผ่านในแนวตั้งแบ่ง
หมายความ ว่า ผลผลิตเพิ่มกำไรจะเพิ่มขึ้นจาก Q0 ไตรมาสที่ 1 แต่
ราคาจะยังคงเหมือนเดิมที่ P0 เหตุผลคือ แนวการแบ่ง
เกิดด้านล่าง kink ในเส้นอุปสงค์ ซึ่งเป็นการดึงราคา P0
แบบข้างต้นสามารถวิพากษ์วิจารณ์บนเหตุผลหลักสาม:
1 ก็จะขึ้นราคาที่กำหนด มีความพยายามไม่อธิบายวิธีนี้
มีกำหนดราคาปัจจุบันในสถานที่แรก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขราคาหรือความต้องการ. รุ่นนี้จะถือว่าหาก oligopolist ที่
ซึ่งจะช่วยลดราคาของคู่แข่งจะปฏิกริยากับนี้โดยการตัดราคาของ
ซึ่งจะช่วยในการสั่งซื้อเพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างรวดเร็ว อีกด้านหนึ่งที่หากหนึ่งบริษัท
ซึ่งจะช่วยยกระดับราคาของมันได้รับการสันนิษฐานว่าคู่แข่งไม่ตรงกับราคาที่เพิ่มขึ้นในการสั่งซื้อ
ซึ่งจะช่วยให้ได้รับส่วนแบ่งการตลาดที่ค่าใช้จ่ายของบริษัทแรกที่ ในกรณีนี้
ตามมาตรฐานปรับตามความโค้งมนของรูปหน้าความต้องการหันหน้าเข้าหาบริษัทที่จะยืดหยุ่นมากขึ้น
ซึ่งจะช่วยในการปรับขึ้นราคามากกว่าการลดราคา โรงแรมแห่งนี้ได้ผลในรูปโค้งความต้องการก็ยิ่งหยักศกกว่าเดิมบริเวณที่ได้แสดงไว้ใน
รูปที่ 8.11 ควรบันทึกไว้ด้วยว่าโรงแรมแห่งนี้ไม่มี"ความโค้งมนของความต้องการอย่างแท้จริงที่กำหนดไว้เป็น
ในบทที่ 3 นับตั้งแต่นั้นไม่ได้อีกต่อไปจะถือว่าสิ่งอื่นๆยังคงอยู่เท่ากับแยก
จากราคาที่เรียกเก็บโดยบริษัทได้ หากราคาที่คิดอยู่ด้านล่างเป็น P 0
สันนิษฐานว่าบริษัทอื่นๆปฏิกริยากับนี้และช่วยลดราคาของตนเอง. เราอาจ
ซึ่งจะช่วยเรียกว่า"มีผลของความต้องการความโค้งมน.
ที่รอยขดอยู่ในความต้องการความโค้งมนจะทำให้ที่พักหรือไม่ตลอดเรื่อยไปในที่นายความโค้งมน.
ที่ผลของโรงแรมแห่งนี้คือที่หากที่ก้ำกึ่งต้นทุนทำงานกะจากที่เดิม
ฟังก์ชัน MC 1 ขึ้นหรือลงในช่วงจาก MC 2 เพื่อ
mc3 ,แล้วผลิต - การเพิ่มที่จะยังคงอยู่ใน Q 0 และราคาจะ
ยังคงอยู่ที่ P 0 นับตั้งแต่ความโค้งมน MC จะผ่านความโค้งมนนายที่อยู่ในแนวตั้ง
ซึ่งจะช่วยทำให้ ในทำนองเดียวกันถ้าหากความต้องการความโค้งมนกะจาก D 1 D 2 ความโค้งมนนายที่จะเปลี่ยนไปทางด้านขวามือ
ซึ่งจะช่วยให้นาย 2 แต่ความโค้งมนจากเดิมที่จะได้ผ่านการหยุดพักในแนวตั้งที่ยัง.
นี้หมายความว่าเอาต์พุตกำไร - เพิ่มจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 0 ถึงไตรมาสที่ 1
ซึ่งจะช่วยแต่ราคาจะยังคงเป็นแบบเดิมที่ P 0 เหตุผลที่ทำให้โรงแรมแห่งนี้คือที่พักในแนวตั้งที่
ซึ่งจะช่วยให้เกิดขึ้นด้านล่างรอยขดเป็นรูปโค้งความต้องการที่จะอยู่ที่ราคาอยู่ในเกณฑ์ที่ p0 .
ที่ด้านบนของรุ่นสามารถวิจารณ์ในสามพื้นที่หลัก:
1 ใช้เวลาเดินทางราคาอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับไม่มีความพยายามในการอธิบายถึงวิธีการราคา
ซึ่งจะช่วยได้ชัยชนะนี้จะถูกกำหนดไว้ในสถานที่ที่เป็นครั้งแรก