ราษฎรส่วนมากในตำบลหัวรอเป็นคนท้องถิ

ราษฎรส่วนมากในตำบลหัวรอเป็นคนท้องถิ่น แต่ก่อนพื้นที่รวมกับตำบลพลายชุมพล โดยมีชื่อตำบลวัดตาล ต่อมาแยกเป็น 2 ตำบล โดยอาศัยแม่น้ำน่านเป็นเส้นแบ่งเขตตำบล โดยที่ตำบลหัวรอ อยู่ฝั่งตะวันออก ตำบลพลายชุมพล อยู่ฝั่งตะวันตก ตั้งชื่อว่า “ หัวรอ ” เนื่องจาก หมู่ที่ 4 (บ้านตาปะขาวหาย) ซึ่งมีแม่น้ำน่านไหลผ่าน มีสถานที่อยู่แห่งหนึ่ง แม่น้ำไหลโค้ง กัดเซาะตลิ่ง ชาวบ้าน จึงนำเสามาปักกันดินริมตลิ่ง ซึ่งเสาไม้นี้ เรียกตามภาษาพื้นบ้านว่า “หลักรอ” หรือ “เสารอ” และเรียกชื่อบ้านว่า “บ้านศีรษะรอ” ซึ่งจะยังคงปรากฏอยู่ในโฉนดที่ดินฉบับเก่าๆ ต่อมาเรียกสั้นๆ ว่า “หัวรอ” เมื่อแยกเขตตำบลใหม่เลยใช้ชื่อว่า “ตำบลหัวรอ”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หมู่ที่เนื่องจากแต่ก่อนพื้นที่รวมกับตำบลพลายชุมพลโดยมีชื่อตำบลวัดตาลต่อมาแยกเป็น 2 ตำบลโดยอาศัยแม่น้ำน่านเป็นเส้นแบ่งเขตตำบลโดยที่ตำบลหัวรออยู่ฝั่งตะวันออกตำบลพลายชุมพลอยู่ฝั่งตะวันตกตั้งชื่อว่า "หัวรอ" ราษฎรส่วนมากในตำบลหัวรอเป็นคนท้องถิ่น (บ้านตาปะขาวหาย) 4 ซึ่งมีแม่น้ำน่านไหลผ่านมีสถานที่อยู่แห่งหนึ่งแม่น้ำไหลโค้งกัดเซาะตลิ่งชาวบ้านจึงนำเสามาปักกันดินริมตลิ่งซึ่งเสาไม้นี้เรียกตามภาษาพื้นบ้านว่า "หลักรอ" หรือ "เสารอ" และเรียกชื่อบ้านว่า "บ้านศีรษะรอ" ซึ่งจะยังคงปรากฏอยู่ในโฉนดที่ดินฉบับเก่า ๆ ต่อมาเรียกสั้น ๆ ว่า "หัวรอ" เมื่อแยกเขตตำบลใหม่เลยใช้ชื่อว่า "ตำบลหัวรอ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่ก่อนพื้นที่รวมกับตำบลพลายชุมพลโดยมีชื่อตำบลวัดตาลต่อมาแยกเป็น โดยที่ตำบลหัวรออยู่ฝั่งตะวันออกตำบลพลายชุมพลอยู่ฝั่งตะวันตกตั้งชื่อว่า ต่อมาเรียกสั้น ๆ ว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ราษฎรส่วนมากในตำบลหัวรอเป็นคนท้องถิ่นแต่ก่อนพื้นที่รวมกับตำบลพลายชุมพลโดยมีชื่อตำบลวัดตาลต่อมาแยกเป็น 2 ตำบลโดยอาศัยแม่น้ำน่านเป็นเส้นแบ่งเขตตำบลโดยที่ตำบลหัวรออยู่ฝั่งตะวันออกตำบลพลายชุมพลตั้งชื่อว่า " หัวรอ " เนื่องจากหมู่ที่ 4 ( บ้านตาปะขาวหาย ) ซึ่งมีแม่น้ำน่านไหลผ่านมีสถานที่อยู่แห่งหนึ่งแม่น้ำไหลโค้งกัดเซาะตลิ่งชาวบ้านจึงนำเสามาปักกันดินริมตลิ่งซึ่งเสาไม้นี้เรียกตามภาษาพื้นบ้านว่าค็อค " เสารอ " และเรียกชื่อบ้านว่า " บ้านศีรษะรอ " ซึ่งจะยังคงปรากฏอยู่ในโฉนดที่ดินฉบับเก่าๆต่อมาเรียกสั้นๆว่า " หัวรอ " เมื่อแยกเขตตำบลใหม่เลยใช้ชื่อว่า " ตำบลหัวรอ "