With the news of late being dominat

With the news of late being dominated by a narrow range of security-related issues what is being called the worst environmental disaster in Brazil’s history has not been getting the attention it deserved.

We are now more than two weeks into the disaster and the scale of damage is only now becoming visible.

On November 5 a mining dam in the mineral-rich province of Minas Gerais failed, releasing 50 million cubic metres of toxic mud into the River Doce basin. The mudslide’s immediate effects were deadly. It washed away the historic town of Bento Rodrigues, killing 11 people. Another 12 are still missing. But the long-term effects could be deadlier still.

The mud is spoil from mines owned by the world’s number one miner, Anglo-Australian BHP Billeton, in partnership with Brazil’s Vale. Another Brazilian company,
Samarco, manages the mine’s dams in a joint venture. Another two dams servicing the mines have been weakened and could collapse, and emergency work is underway on one to try and prevent that happening.

The mud is rich in iron ore and silica, and contains deadly heavy metals such as mercury, arsenic, chromium, zinc, copper and manganese, all at concentrations that are dangerous for organisms. The Rio Doce is one of Brazil’s most important rivers, and hundreds of thousands of people depend on it for drinking and irrigation water.

It joins the Atlantic east of Linhares at Regência, whose beaches are prized by tourists and locals alike. A village of some 2000 people, it is dependent on tourism, fishing, and marine conservation. This disaster could wipe it and many others like it out.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข่าวของสายถูกครอบงำ โดยช่วงแคบของเรื่อง ถูกเรียกว่าภัยพิบัติสิ่งแวดล้อมเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของบราซิลไม่ได้รับความสนใจมันสมควรขณะนี้เรามีมากกว่าสองสัปดาห์เป็นภัยพิบัติ และขนาดของความเสียหายเฉพาะตอนนี้กลายเป็นมองเห็นบน 5 พฤศจิกายน เขื่อนเหมืองแร่ในการแร่จังหวัดของมินัสเหมืองแร่สเชไรส์เหลว ปล่อย 50 ล้านลูกบาศก์เมตรของโคลนพิษลงแม่น้ำ Doce อ่าง ผลทันทีของโคลนถล่มถึงตายได้ มันล้างไปในประวัติศาสตร์เมืองของเบนโรดริเกวส ฆ่าคนที่ 11 อีก 12 หายไปยัง แต่ผลกระทบระยะยาวอาจจะเฉียบคมยังคงโคลนจะเสียจากเหมืองที่เป็นเจ้าของโลกจำนวนหนึ่งขุดแร่ แองโกลออสเตรเลีย BHP Billeton ร่วมกับเวลของบราซิล บริษัทบราซิลอื่น Samarco จัดการเขื่อนของเหมืองในการร่วมค้า เขื่อนสองอื่นให้บริการเหมืองแร่ได้ลดลง และอาจยุบ และฉุกเฉินเป็นชิ้นที่หนึ่ง และพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นโคลนอุดมไปด้วยแร่เหล็กและซิลิกา และโลหะหนักอันตรายเช่นสารปรอท สารหนู โครเมียม สังกะสี ทองแดง และ แมงกานีส ทั้งหมดที่ความเข้มข้นที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตประกอบด้วย Doce ริโอเป็นหนึ่งในแม่น้ำสำคัญที่สุดของบราซิล และหลายร้อยหลายพันคนอยู่สำหรับน้ำดื่มและการชลประทานมันรวมมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันออกของ Linhares ที่ Regência ที่มีชายหาดเป็น prized โดยนักท่องเที่ยวและชาวบ้านเหมือน หมู่บ้านบางคน 2000 ก็ขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว ตกปลา และอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ภัยพิบัตินี้อาจเช็ดมันและอื่น ๆ อีกมากมายเช่นออก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีข่าวของการมาสายครอบงำโดยช่วงแคบ ๆ ของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยสิ่งที่จะถูกเรียกว่าภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของบราซิลยังไม่ได้รับความสนใจมันสมควรได้รับ

ขณะนี้เรามีมากกว่าสองสัปดาห์ในภัยพิบัติและขนาดของความเสียหายที่เป็นเพียงตอนนี้กลายเป็นที่มองเห็นได้

วันที่ 5 พฤศจิกายนเขื่อนเหมืองแร่ในจังหวัดที่อุดมด้วยแร่ของ Minas Gerais ล้มเหลวปล่อย 50 ล้านลูกบาศก์เมตรของโคลนพิษเข้าไปในลุ่มน้ำ Doce ผลกระทบทันทีโคลนถล่มของคนร้ายแรง มันล้างออกเมืองประวัติศาสตร์ของ Bento Rodrigues ฆ่า 11 คน อีก 12 ยังคงหายไป แต่ผลกระทบระยะยาวอาจจะยังคงคอขาดบาดตาย

โคลนเป็นเสียจากเหมืองเป็นเจ้าของโดยของโลกจำนวนหนึ่ง Miner, แองโกลออสเตรเลีย BHP Billeton ในความร่วมมือกับทเวลของบราซิล บริษัท อื่นบราซิล
Samarco บริหารจัดการเขื่อนเหมืองในกิจการร่วมค้า อีกสองเขื่อนให้บริการการทำเหมืองแร่ที่ได้รับการลดลงและสามารถยุบและการทำงานฉุกเฉินเป็นกำลังในหนึ่งที่จะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นว่า

โคลนที่อุดมไปด้วยแร่เหล็กและซิลิกาและมีโลหะหนักร้ายแรงเช่นปรอทสารหนูโครเมียมสังกะสี, ทองแดงและแมงกานีสทั้งหมดที่ระดับความเข้มข้นที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ริโอ Doce เป็นหนึ่งในแม่น้ำที่สำคัญที่สุดของบราซิลและหลายร้อยหลายพันคนขึ้นอยู่กับมันสำหรับดื่มน้ำและการชลประทาน

มันเชื่อมมหาสมุทรแอตแลนติกทางทิศตะวันออกของ Linhares ที่ Regencia ที่มีหาดทรายที่มีราคาแพงโดยนักท่องเที่ยวและชาวบ้านเหมือนกัน หมู่บ้านบาง 2000 คนก็จะขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว, การประมงและการอนุรักษ์ท้องทะเล ภัยพิบัตินี้สามารถเช็ดมันและอื่น ๆ มากมายเช่นนั้นออกมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กับข่าวสายปกครองโดยช่วงแคบของการรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ถูกเรียกว่าสิ่งแวดล้อมภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของบราซิลยังไม่ได้ได้รับความสนใจมันสมควรแล้วขณะนี้เรามีมากกว่าสองสัปดาห์ในภัยพิบัติ และขนาดของความเสียหายเป็นเพียงตอนนี้กลายเป็นมองเห็นได้เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนเป็นเหมืองแร่ เขื่อนในแร่รวยจังหวัดของรัฐมีนัสเชไรส์ล้มเหลว ปล่อย 50 ล้านลูกบาศก์เมตรของโคลนพิษลงแม่น้ำ Doce ลุ่มน้ำ ผลทันทีของโคลนถล่มเป็นมรณะ มันล้างเมืองประวัติศาสตร์ของ bento Rodrigues , ฆ่า 11 คน อีก 12 หายยัง แต่ผลกระทบระยะยาวอาจจะสังหารอีกอยู่ดีโคลนคือเสียจากเหมืองเป็นเจ้าของเหมือง อันดับหนึ่งของโลก , อังกฤษออสเตรเลีย BHP billeton , ร่วมกับบราซิล Vale บริษัทอื่นที่บราซิลsamarco จัดการเขื่อนของเหมืองในกิจการ อีก 2 เขื่อนให้เหมืองได้รับการลดลงและอาจยุบและงานฉุกเฉินเป็นกําลังหนึ่ง และพยายามป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นโคลนอุดมไปด้วยแร่เหล็กและซิลิกา และประกอบด้วยโลหะหนักที่เป็นอันตราย เช่น ปรอท สารหนู โครเมียม สังกะสี ทองแดง และแมงกานีส ในความเข้มข้นที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต Rio Doce เป็นหนึ่งของบราซิลที่สำคัญที่สุดของแม่น้ำและหลายร้อยหลายพันของคนขึ้นอยู่กับมันสำหรับดื่ม และน้ำชลประทานมันรวมตะวันออกแอตแลนติกของลินเฮิร์สใน reg êนอกจากนั้นยังทำให้เราบรรลุข้อตกลงที่มีชายหาดเป็น prized โดยนักท่องเที่ยวและชาวบ้านเหมือนกัน หมู่บ้านบาง 2 , 000 คน มันขึ้นอยู่กับการท่องเที่ยว การประมง และการอนุรักษ์ทางทะเล ภัยพิบัตินี้สามารถเช็ดและคนอื่น ๆชอบมันออก