Cachexia is a serious but underreco

Cachexia is a serious but underrecognised consequence of many chronic diseases. Its prevalence ranges from 5–15 % in end-stage chronic heart failure to 50–80 % in advanced cancer. Cachexia is also part of the terminal course of many patients with chronic kidney disease, chronic obstructive pulmonary disease (COPD) and rheumatoid arthritis. Mortality rates of patients with cachexia range from 10–15 % per year in COPD through 20–30 % per year in chronic heart failure and chronic kidney disease to 80 % in cancer. The condition is also associated with poor quality of life. In the industrialised world, the overall prevalence of cachexia (due to any disease and not necessarily associated with hospital admission) is growing and it currently affects around 1 % of the patient population, i.e. around 9 million people. It is also a significant health problem in other parts of the globe. Recently there have been advances in our understanding of the multifactorial nature of the condition, and particularly of the role of inflammatory mediators and the imbalance of anabolism and catabolism. Several promising approaches to treatment have failed to live up to the challenge of phase III clinical trials, but the ghrelin receptor agonist anamorelin seems to have fulfilled at least some early promise. Further advances are urgently needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Cachexia เป็นผลร้ายแรง แต่ underrecognised ของโรคเรื้อรังหลายชนิด ความชุกช่วงจากหัวใจล้มเหลวเรื้อรังระยะสุดท้าย 5 – 15% ถึง 50-80% มะเร็งขั้นสูง Cachexia คือยัง เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรเทอร์มินัลของผู้ป่วยที่เป็นโรคไตเรื้อรัง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคไขข้ออักเสบ อัตราการตายของผู้ป่วยมี cachexia ตั้งแต่ 10 – 15% ต่อปีในผู้ป่วย COPD ผ่าน 20 – 30% ต่อปีในหัวใจล้มเหลวเรื้อรังและโรคไตเรื้อรังถึง 80% ในการรักษามะเร็ง สภาพยังเป็นที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตที่แย่ เติบโตในโลกอุตสาหกรรม ความชุกโดยรวมของ cachexia (เนื่องจากโรคใด ๆ และไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาล) และในปัจจุบันมีผลต่อประมาณ 1% ของประชากรผู้ป่วย เช่นประมาณ 9 ล้านคน มันยังเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในส่วนอื่น ๆ ของโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับความก้าวหน้าในความเข้าใจของลักษณะ multifactorial ของเงื่อนไข และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของการอักเสบและความไม่สมดุลของแอแนบอลิซึมและแคแทบอลิซึม วิธีการแนวโน้มต่าง ๆ การรักษาล้มเหลวเพื่อให้ความท้าทายของการทดลองทางคลินิกระยะที่ III แต่ ghrelin เป็นเอก anamorelin ดูเหมือนว่าจะ มีการปฏิบัติตามสัญญาอย่างน้อยต้น ต่อความก้าวหน้ามีความจำเป็นเร่งด่วน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

cachexia เป็นผลร้ายแรง แต่ underrecognised ของโรคเรื้อรังหลาย ความชุกของมันมีตั้งแต่ 5-15% ในระยะสุดท้ายหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง 50-80% ในการรักษามะเร็งขั้นสูง cachexia ยังเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรขั้วของผู้ป่วยจำนวนมากที่มีโรคเรื้อรังไตเรื้อรังโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และโรคไขข้ออักเสบ อัตราการตายของผู้ป่วยที่มีช่วง cachexia 10-15% ต่อปีในปอดอุดกั้นเรื้อรังผ่าน 20-30% ต่อปีในภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังและโรคไตเรื้อรังถึง 80% ในการรักษามะเร็ง สภาพยังเกี่ยวข้องกับคุณภาพของชีวิต ในโลกอุตสาหกรรมที่นิยมกันอย่างแพร่หลายโดยรวมของ cachexia (เนื่องจากโรคใด ๆ และไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการเข้าโรงพยาบาล) มีการเจริญเติบโตและขณะนี้ส่งผลกระทบต่อประมาณ 1% ของประชากรผู้ป่วยคือประมาณ 9 ล้านคน นอกจากนี้ยังเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในส่วนอื่น ๆ ของโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้มีความก้าวหน้าในความเข้าใจของธรรมชาติ multifactorial ของเงื่อนไขของเราและโดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของผู้ไกล่เกลี่ยการอักเสบและความไม่สมดุลของ anabolism และ catabolism ที่ วิธีการที่มีแนวโน้มหลายประการในการรักษาจะยังไม่ได้มีชีวิตอยู่กับความท้าทายของการทดลองระยะที่ III คลินิก แต่ anamorelin ghrelin ตัวเอกดูเหมือนว่าจะได้ปฏิบัติตามอย่างน้อยบางส่วนสัญญาในช่วงต้น ความก้าวหน้าต่อไปจะจำเป็นเร่งด่วน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการผอมแห้งเป็นร้ายแรง แต่ underrecognised ผลของโรคเรื้อรังมากมาย ความชุกของช่วงจาก 5 – 15 % ในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย 50 – 80% ในมะเร็งขั้นสูง อาการผอมแห้งเป็นส่วนหนึ่งของอาคารของผู้ป่วยหลายรายที่มีโรคไตเรื้อรังโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ( COPD ) และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ อัตราตายของผู้ป่วยที่มีอาการผอมแห้ง จากช่วง 10 - 15 % ต่อปีในปอดอุดกั้นเรื้อรังถึง 20 - 30% ต่อปีในผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลวและโรคไตเรื้อรังถึง 80% ในมะเร็ง เงื่อนไขคือยังเกี่ยวข้องกับคุณภาพของชีวิต ในอุตสาหกรรมโลก ความชุกโดยรวมของอาการผอมแห้ง ( เนื่องจากโรคใด ๆ และไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ) จะเติบโตและขณะนี้ส่งผลกระทบต่อประมาณ 1 % ของผู้ป่วย ประชากร คือ ประมาณ 9 ล้านคน นอกจากนี้ยังเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในส่วนอื่น ๆของโลก เมื่อเร็วๆนี้มีความก้าวหน้าในความเข้าใจของธรรมชาติ multifactorial ของเงื่อนไขและโดยเฉพาะบทบาทของผู้ไกล่เกลี่ย และการอักเสบที่เกิดจากกระบวนการสร้าง และกระบวนการสลาย . หลายวิธีที่สัญญาว่าจะรักษาได้ล้มเหลวที่จะอยู่ถึงความท้าทายของระยะที่ 3 การทดลองทางคลินิก แต่กรีลินรีเซพเตอร์อะโกนิสต์ anamorelin ดูเหมือนจะสำเร็จอย่างน้อยบางต้นสัญญา ความก้าวหน้าต่อไป จำเป็นเร่งด่วน