Research methodology This research

Research methodology
This research is theoretical research and involves collection, integration and
systematisation of organisational agility research, supply chain research and ISs research.
Webster and Watson (2002) advocated for literature review as it creates strong basis for
advancing knowledge. Moreover, they noted the need for a review on emergent issues in
which the authors’ contribution would be fresh theoretical foundations suggested in
developing a conceptual model.
Literature review was thoroughly conducted with the aim of developing strategic
agility constructs, their relationship and the role of IT in a SC setting. Moreover, a
systematic literature review (Kitchenham et al., 2009) was conducted but a detailed
account of the review results will not be discussed in this paper as it is not the research
focus. The most close research work on strategic agility is by Doz and Kosonen (2008).
However, there is also related constructs such as operational agility (Sambamurthy et al.,
2003) and enterprise agility (Overby et al., 2006) which were utilised in developing
strategic agility construct. In developing the strategic agility construct the required IT
services were thereby mapped. Järvinen (2012) suggest that concepts are mechanisms for
differentiating items and grouping them and they form the basis for conceptual and empirical analyses and synthesis. In this research strategic agility concept was defined
and furthermore considered in SC setting

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระเบียบวิธีวิจัย งานวิจัยนี้เป็นวิจัยทฤษฎี และเกี่ยวข้องกับการรวบรวม รวม และ systematisation ความว่องไว organisational วิจัย วิจัยห่วงโซ่อุปทาน และวิจัย ISs เว็บสเตอร์และ Watson (2002) advocated เป็นเป็นสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการทบทวนวรรณกรรม ความก้าวหน้าความรู้ นอกจากนี้ พวกเขาตั้งข้อสังเกตต้องทบทวนในเรื่องโผล่ออกมาใน ซึ่งสัดส่วนของผู้เขียนจะเป็นรากฐานทฤษฎีสดที่แนะนำใน พัฒนารูปแบบแนวคิด การทบทวนวรรณกรรมได้ดำเนินการกับจุดมุ่งหมายของการพัฒนาเชิงกลยุทธ์อย่างละเอียด โครงสร้างความคล่องตัว ความสัมพันธ์ และบทบาทของมันในการตั้งค่า SC นอกจากนี้ การ ได้ดำเนินการทบทวนวรรณกรรมระบบ (Kitchenham et al., 2009) แต่มีรายละเอียด บัญชีผลการตรวจสอบจะไม่ได้กล่าวถึงในเอกสารนี้ไม่ได้วิจัย โฟกัส งานวิจัยส่วนใหญ่ปิดในความว่องไวกลยุทธ์เป็น Doz และ Kosonen (2008) อย่างไรก็ตาม มีโครงสร้างที่เกี่ยวข้องเช่นความคล่องตัวในการดำเนินงาน (Sambamurthy et al., 2003) และองค์กรความคล่องตัว (Overby และ al., 2006) ซึ่งถูกใช้ในการพัฒนา สร้างความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์ ในการพัฒนาความว่องไวกลยุทธ์สร้างที่ต้องใช้มัน จึงถูกแมปบริการ Järvinen (2012) แนะนำแนวคิดใช้กลไก ความแตกต่างสินค้า และการจัดกลุ่มพวกเขาและพวกเขาเป็นพื้นฐานแนวคิด และผลการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ในงานวิจัยนี้ ได้กำหนดแนวคิดเชิงกลยุทธ์ความว่องไว และนอกจากนี้พิจารณาใน SC

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระเบียบวิธีวิจัย
งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทฤษฎีและเกี่ยวข้องกับคอลเลกชันบูรณาการและ
systematisation ของการวิจัยความคล่องตัวขององค์กรวิจัยห่วงโซ่อุปทานและการวิจัย ISS.
เว็บสเตอร์และวัตสัน (2002) สนับสนุนให้ทบทวนวรรณกรรมที่จะสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับ
ความรู้ที่ก้าวหน้า นอกจากนี้พวกเขาสังเกตเห็นความจำเป็นในการตรวจสอบในประเด็นที่โผล่ออกมาใน
ที่มีส่วนร่วมของผู้เขียนจะเป็นรากฐานทางทฤษฎีสดข้อเสนอแนะใน
การพัฒนารูปแบบความคิด.
ทบทวนวรรณกรรมได้ดำเนินการอย่างทั่วถึงโดยมีวัตถุประสงค์ของการพัฒนาเชิงกลยุทธ์
สร้างความคล่องตัวและความสัมพันธ์ของพวกเขาและบทบาทของ ไอทีในการตั้งค่า SC นอกจากนี้
การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (Kitchenham et al., 2009) ได้ดำเนินการ แต่รายละเอียด
บัญชีของผลการตรวจสอบจะไม่ได้รับการกล่าวถึงในบทความนี้มันไม่ได้เป็นงานวิจัยที่
มุ่งเน้น งานวิจัยที่ใกล้ชิดมากที่สุดในความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์คือการ Doz และ Kosonen (2008).
แต่มีโครงสร้างที่ยังเกี่ยวข้องเช่นความคล่องตัวในการดำเนินงาน (Sambamurthy et al.,
2003) และความคล่องตัวขององค์กร (Overby et al., 2006) ซึ่งถูกนำมาใช้ ในการพัฒนา
ความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์สร้าง ในการพัฒนาความคล่องตัวเชิงกลยุทธ์สร้างไอทีที่จำเป็นต้องใช้
บริการที่ถูกแมปจึง Järvinen (2012) ชี้ให้เห็นว่าแนวความคิดที่เป็นกลไกในการ
สร้างความแตกต่างและการจัดกลุ่มรายการที่พวกเขาและพวกเขาเป็นพื้นฐานสำหรับการวิเคราะห์แนวคิดและการทดลองและการสังเคราะห์ ในคอนเซ็ปต์ความคล่องตัวการวิจัยครั้งนี้ถูกกำหนดยุทธศาสตร์
และการพิจารณานอกจากนี้ในการตั้งค่า SC

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีการวิจัย การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทฤษฎี และเกี่ยวข้องกับการรวบรวมและบูรณาการ
systematisation เพื่อความคล่องตัวขององค์กรการวิจัยและการวิจัยปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
เว็บสเตอร์ วัตสัน ( 2002 ) การสนับสนุนสำหรับการทบทวนวรรณกรรมที่สร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับ
advancing ความรู้ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาระบุต้องทบทวนในประเด็นเร่งด่วนใน
ซึ่งผู้เขียนจะสดผลงานทฤษฎีพื้นฐาน ~
การพัฒนาแบบจำลอง . ทบทวนวรรณกรรมคืออย่างละเอียด
กับกลุ่มเป้าหมายของยุทธศาสตร์การพัฒนาความคล่องตัว
โครงสร้าง ความสัมพันธ์และบทบาทของมันใน SC การตั้งค่า นอกจากนี้ การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ (
kitchenham et al . , 2009 ) มีวัตถุประสงค์ แต่รายละเอียด
บัญชีตรวจสอบผลลัพธ์จะไม่กล่าวถึงในบทความนี้ ไม่ใช่เน้นวิจัย

งานวิจัยใกล้ที่สุดในกลยุทธ์และความคล่องตัวโดยโหล kosonen ( 2008 )
แต่ยังมีที่เกี่ยวข้องเช่นการสร้างความคล่องตัว ( sambamurthy et al . ,
2003 ) องค์กรและความคล่องตัว ( โอเวอร์บี้ et al . , 2006 ) ซึ่งถูกใช้ในการพัฒนายุทธศาสตร์
ความคล่องตัวสร้างในการพัฒนายุทธศาสตร์สร้างความคล่องตัวใช้บริการ
มีงบแมป . J และ rvinen ( 2012 ) ชี้ให้เห็นว่าแนวคิดกลไก
ทั้งรายการและการจัดกลุ่มพวกเขาและพวกเขาในรูปแบบพื้นฐานและแนวคิดเชิงวิเคราะห์และสังเคราะห์ ในงานวิจัยนี้ได้นิยามและแนวคิดเชิงกลยุทธ์ ความคล่องตัวในการพิจารณา
นอกจากนี้ วท ม อ