ABSTRACTNowadays the growth of tech

ABSTRACT
Nowadays the growth of technology influences the changes in group collaboration's process either for the
professional or for the students. The requirement of interaction in group collaboration while doing task forces the
students to schedule their meeting in order to finish the task given. So the technology starts to influence the
process of group collaboration as a communication and interaction media between students in doing their tasks.
The purpose of this research is to analyze factors from technology characteristics that drive the students to use
collaborative tools, and the implication of using collaborative tools in group collaboration to the group
performance. Our research model was validated using Structural Equation Modeling (SEM) technique with
LISREL 8.8 tool on 196 respondents from undergraduate and postgraduate students of Faculty of Computer
Science, Universitas Indonesia. Our findings showed that the ease of use and perceived usefulness of the
collaborative tools drive the students to use collaborative tools when doing their tasks. The existence of
collaborative learning is also a driving factor for the students to use collaborative tools. In addition, the use of
collaborative tools also showed a positive influence to the team performance.
INTRODUCTION
Good quality education is one key to improve the human resource capacity. Data from Human Development
Index (HDI) placed Indonesia at rank 121 out of 185 countries in 2013 (United Nations Development
Programme, 2013). This shows the level of quality of human resources in Indonesia is still far from the expected.
One of the efforts made to improve the human resource is the transformation of education, shifting from teachercentered
learning to student-centered learning. One of the student-centered methods applied in many universities
in Indonesia is collaborative learning which requires students to work in group.
Doing the task in group requires an ability to manage and adjust time each other, so they can do the discussion
which lead them to solve the problem in the assignment. Process of communication, coordination, and other
factors like trust, understanding each other, cohesion, and conflicts will become concerns in a group
collaboration that separated by location and time (Naik & Kim, 2010). With the existence of information
technology, students will not need to think about how to adjust physical meeting schedule. They can do the
discussion even from different location. Information technology tools that support student’s collaboration
activities to accomplish the task are called collaborative tools (Munkvold, 2003).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อปัจจุบันการเติบโตของเทคโนโลยีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการกลุ่มทำงานร่วมกันสำหรับการมืออาชีพ หรือนักเรียน ความต้องการของในกลุ่มความร่วมมือในขณะที่ทำงานกองการนักเรียนจัดตารางประชุมของพวกเขาเพื่อทำงานให้ ดังนั้นเทคโนโลยีเริ่มมีอิทธิพลต่อการกระบวนการกลุ่มร่วมมือกันเป็นการสื่อสารและโต้ตอบระหว่างนักเรียนในการทำงานวัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เป็นการ วิเคราะห์ปัจจัยจากลักษณะเทคโนโลยีที่นักเรียนที่จะใช้ไดรฟ์ร่วมมือ และเนื่องจากการใช้เครื่องมือร่วมมือร่วมกลุ่มกับกลุ่มประสิทธิภาพของ รูปแบบการวิจัยของเราถูกตรวจสอบโดยใช้เทคนิคการสร้างโมเดลสมการของโครงสร้าง (SEM) ด้วยเครื่องมือ LISREL 8.8 ในตอบ 196 จากระดับปริญญาตรีและนักศึกษาคณะคอมพิวเตอร์วิทยาศาสตร์ ฮัมอินโดนีเซีย ผลการวิจัยของเราพบว่าความง่ายในการใช้และการรับรู้ประโยชน์ของการเครื่องมือร่วมกันขับรถนักเรียนที่จะใช้เครื่องมือร่วมกันทำงาน การดำรงอยู่ของเรียนรู้ร่วมกันเป็นปัจจัยผลักดันสำหรับนักเรียนที่จะใช้เครื่องมือร่วมกัน นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือร่วมกันยังแสดงให้เห็นอิทธิพลที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานของทีมงานแนะนำคุณภาพการศึกษาเป็นสำคัญหนึ่งในการปรับปรุงกำลังการผลิตทรัพยากรมนุษย์ ข้อมูลจากการพัฒนามนุษย์ดัชนี (HDI) วางอินโดนีเซียที่อันดับ 121 จากทั้งหมด 185 ประเทศในปี 2013 (พัฒนาสหประชาชาติโครงการ 2013) แสดงระดับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอินโดนีเซียจะยังคงพักที่คาดหนึ่งในความพยายามที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นการเปลี่ยนแปลงของการศึกษา การขยับจาก teachercenteredเรียนรู้การเรียนรู้ที่นักเรียนเป็นศูนย์ วิธีแปลกนักศึกษาใช้ในมหาวิทยาลัยมากมายในอินโดนีเซียมีการเรียนรู้ร่วมกันซึ่งต้องศึกษาการทำงานในกลุ่มทำงานในกลุ่มต้องสามารถจัดการ และปรับเวลากัน เพื่อให้พวกเขาสามารถทำการสนทนาซึ่งนำพวกเขาไปแก้ปัญหาในการกำหนด กระบวนการสื่อสาร ประสานงาน และอื่น ๆปัจจัยเช่นความน่าเชื่อถือ การทำความเข้าใจกัน สามัคคี และความขัดแย้งจะกลายเป็น ความกังวลในกลุ่มร่วมมือกันที่แยกตามสถานและเวลา (Naik และคิม 2010) กับการมีอยู่ของข้อมูลเทคโนโลยี นักเรียนจะไม่ได้คิดเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงกำหนดการประชุมจริง สามารถทำการสนทนาได้จากตำแหน่งที่ตั้งอื่น เทคโนโลยีสารสนเทศเครื่องมือร่วมกันของนักเรียนที่สนับสนุนกิจกรรมการทำงานเรียกว่าเครื่องมือทำงานร่วมกัน (Munkvold, 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
ปัจจุบันการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการของการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มทั้งสำหรับ
มืออาชีพหรือสำหรับนักเรียน ความต้องการของการทำงานร่วมกันในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มในขณะที่ทำงานที่บังคับให้
นักเรียนเพื่อกำหนดตารางการประชุมของพวกเขาเพื่อที่จะเสร็จงานที่กำหนด ดังนั้นเทคโนโลยีเริ่มที่จะมีอิทธิพลต่อ
กระบวนการของการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มการสื่อสารและสื่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนในการทำงานของพวกเขา.
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการวิเคราะห์ปัจจัยจากลักษณะเทคโนโลยีที่ผลักดันให้นักเรียนที่จะใช้
เครื่องมือการทำงานร่วมกันและความหมายของการใช้ เครื่องมือการทำงานร่วมกันในการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มกับกลุ่ม
ผลการดำเนินงาน รูปแบบการวิจัยของเราได้รับการตรวจสอบโดยใช้สมการโครงสร้างการสร้างแบบจำลอง (SEM) เทคนิคที่มี
ลิสเรล 8.8 เครื่องมือบน 196 ผู้ตอบแบบสอบถามจากนักศึกษาระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษาของคณะคอมพิวเตอร์
วิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าใช้งานง่ายและมีประโยชน์การรับรู้ของ
เครื่องมือร่วมกันผลักดันให้นักเรียนที่จะใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกันเมื่อทำงานของพวกเขา การดำรงอยู่ของ
การเรียนรู้การทำงานร่วมกันนอกจากนี้ยังมีปัจจัยผลักดันสำหรับนักเรียนที่จะใช้เครื่องมือการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้การใช้
เครื่องมือร่วมกันนอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่ามีอิทธิพลในเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของทีม.
บทนำ
การศึกษาที่มีคุณภาพดีเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการปรับปรุงความสามารถของทรัพยากรมนุษย์ ข้อมูลที่ได้จากการพัฒนามนุษย์
Index (HDI) วางอินโดนีเซียอันดับที่ 121 จาก 185 ประเทศทั่วโลกในปี 2013 (United Nations Development
Programme, 2013) นี้แสดงให้เห็นระดับของคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอินโดนีเซียยังคงห่างไกลจากที่คาดว่าจะ.
หนึ่งของความพยายามทำเพื่อปรับปรุงทรัพยากรมนุษย์คือการเปลี่ยนแปลงของการศึกษาขยับจาก teachercentered
การเรียนรู้ในการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นศูนย์กลาง หนึ่งในวิธีการเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางนำมาใช้ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง
ในประเทศอินโดนีเซียเป็นเรียนรู้ร่วมกันซึ่งจะต้องมีนักเรียนที่จะทำงานในกลุ่ม.
ทำงานในกลุ่มต้องใช้ความสามารถในการจัดการและปรับเวลาแต่ละอื่น ๆ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำอภิปราย
ซึ่งนำพวกเขาไป แก้ปัญหาได้ในที่ได้รับมอบหมาย กระบวนการของการสื่อสารประสานงานและอื่น ๆ
ปัจจัยเช่นความไว้วางใจความเข้าใจซึ่งกันและกันทำงานร่วมกันและความขัดแย้งจะกลายเป็นความกังวลในกลุ่มที่
ทำงานร่วมกันที่แยกจากกันโดยสถานที่และเวลา (ขี่และคิม 2010) กับการดำรงอยู่ของข้อมูล
เทคโนโลยีนักเรียนจะไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับวิธีการปรับตารางการประชุมทางกายภาพ พวกเขาสามารถทำ
อภิปรายแม้จะมาจากสถานที่ที่แตกต่างกัน เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันของนักเรียน
กิจกรรมในการทํางานที่เรียกว่าเครื่องมือร่วมกัน (Munkvold 2003)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
ทุกวันนี้การเติบโตของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการกลุ่มร่วมมือทั้งสำหรับ
มืออาชีพหรือสำหรับนักเรียน ความต้องการของการปฏิสัมพันธ์ในความร่วมมือกลุ่มในขณะที่ทำงานบังคับ
นักเรียนตารางการประชุมของพวกเขาในการสั่งซื้อเพื่อให้เสร็จงานที่ได้รับ ดังนั้น เทคโนโลยีเริ่มมีอิทธิพลต่อ
กระบวนการความร่วมมือกลุ่มเป็นสื่อการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนในการทำงานของพวกเขา .
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยจากเทคโนโลยีลักษณะที่ขับรถให้นักเรียนใช้
เครื่องมือ และความหมายของการใช้เครื่องมือดังกล่าวในกลุ่มสมรรถนะกลุ่ม

รูปแบบการวิจัยของเราคือการตรวจสอบ โดยใช้แบบจำลองสมการโครงสร้าง ( SEM ) ด้วยเทคนิคพิเศษด้วยเครื่องมือ
196 คน จากนักศึกษาระดับปริญญาตรีและนักศึกษาปริญญาโท คณะคอมพิวเตอร์
วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าง่ายในการใช้และการรับรู้ประโยชน์ของ
ร่วมกันเครื่องมือไดรฟ์ให้นักเรียนใช้เครื่องมือ เมื่อทำงานของพวกเขาการดำรงอยู่ของ
การเรียนรู้ร่วมกันยังเป็นปัจจัยผลักดันให้นักเรียนใช้เครื่องมือร่วมกัน นอกจากนี้การใช้
เครื่องมือยังพบอิทธิพลบวกกับผลงานของทีม ระดับคุณภาพดี แนะนำ

เป็นคีย์หนึ่งเพื่อพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ข้อมูลจากการพัฒนาของมนุษย์ดัชนีอยู่ในอันดับที่ 121 จากอินโดนีเซีย 185 ประเทศในปี 2013 ( มติการพัฒนา
( 2013 ) นี้แสดงให้เห็นระดับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอินโดนีเซีย ยังห่างจากที่คาดไว้
หนึ่งในความพยายามที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คือการเปลี่ยนแปลงของการศึกษา ขยับจาก teachercentered
การเรียนรู้เพื่อการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง .หนึ่งในเทคนิควิธีการที่ใช้ในมหาวิทยาลัยหลายอย่าง
ในประเทศอินโดนีเซียมีการเรียนรู้ร่วมกันซึ่งต้องใช้นักเรียนทำงานกลุ่ม
ทำงานในกลุ่มต้องมีความสามารถในการจัดการและปรับเวลาแต่ละอื่น ๆเพื่อให้พวกเขาสามารถทำให้การอภิปราย
ซึ่งนำพวกเขาที่จะแก้ปัญหาในส่วนที่ได้รับมอบหมาย กระบวนการของการสื่อสาร การประสานงาน และปัจจัยอื่น ๆ
อย่างไว้ใจความเข้าใจซึ่งกันและกัน สามัคคี และความขัดแย้งจะกลายเป็นความกังวลในกลุ่ม
ความร่วมมือที่แยกตามสถานที่และเวลา ( โดย&คิม , 2010 ) กับการมีอยู่ของข้อมูล
เทคโนโลยี นักเรียนจะไม่ต้องคิดเกี่ยวกับวิธีการที่จะปรับตารางเวลาการประชุมทางกายภาพ พวกเขาสามารถทำจากสถานที่ที่แตกต่างกันอภิปรายแม้แต่
.เทคโนโลยีสารสนเทศและเครื่องมือความร่วมมือ
สนับสนุนนักเรียนของกิจกรรมบรรลุงานเรียกว่าเครื่องมือ ( munkvold , 2003 )