Challenges for future effectiveness

Challenges for future effectiveness research on problem-based learning
Overall, the evidence-base on the effectiveness of PBL still needs strengthening in terms of quality
and disciplinary coverage (Box 7). In a report on a systematic review and meta-analysis on the
effectiveness of PBL in higher education for health professionals, Newman (2003, p. 5) pointed out that
“existing overviews of the field do not provide high quality evidence with which to provide robust answers
to questions about the effectiveness of PBL”. In addition, many studies do not provide sufficient theoretical
frameworks for the assessed variables and constructs, data to calculate effect sizes to synthesise the study
results and/or description of either the experimental or control interventions (e.g. Belland, French and
Ertmer, 2009). Sanson-Fisher and Lynagh (2005) state that research designs and alternative
methodological approaches with an acceptable standard of scientific rigour are needed to examine the
effectiveness of educational interventions and related contextual factors. Earlier studies also submitted that
there was not enough research to draw reliable conclusions (e.g. Albanese and Mitchell, 1993; Vernon and
Blake, 1993). Furthermore, major reviews mainly include studies of PBL interventions in health education.
Therefore, more research on the short and long-term effectiveness of using a PBL approach is needed
(Savery, 2006) – also in fields outside medical education.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความท้าทายสำหรับเรียนปัญหาวิจัยประสิทธิภาพในอนาคตโดยรวม ฐานหลักฐานประสิทธิผลของ PBL ยังคงต้องสร้างความเข้มแข็งในแง่ของคุณภาพและความคุ้มครองทางวินัย (ช่อง 7) ในรายงานตรวจสอบระบบและ meta-analysis ในการประสิทธิภาพของ PBL ในการศึกษาต่อสำหรับบุคลากร นิวแมน (2003, p. 5) ชี้ให้เห็นว่า"ภาพที่มีอยู่ของฟิลด์ไม่ให้หลักฐานคุณภาพสูงที่จะให้คำตอบที่สมบูรณ์ถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของ PBL" นอกจากนี้ การศึกษาจำนวนมากไม่ได้ให้เพียงพอตามทฤษฎีกรอบงานสำหรับตัวแปรประเมินและโครงสร้าง ข้อมูลการคำนวณขนาดของผลให้ synthesise การศึกษาผลลัพธ์ หรือคำอธิบายใดที่ทดลอง หรือแทรกแซงการควบคุม (เช่น Belland ฝรั่งเศส และErtmer, 2009) ฟิชเชอร์ Sanson และรัฐ Lynagh (2005) ที่วิจัยออกแบบและทางเลือกวิธีวิธีมาตรฐานยอมรับได้ของความรุนแรงทางวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องตรวจสอบการประสิทธิภาพของกิจกรรมการศึกษาและปัจจัยที่เกี่ยวข้องตามบริบท การศึกษาก่อนหน้านี้ยังส่งมาที่ไม่วิจัยพอจะสรุปความน่าเชื่อถือ (เช่น Albanese และมิทเชล 1993 เวอร์นอน และเบลค 1993) นอกจากนี้ หลักความคิดเห็นส่วนใหญ่ได้แก่การศึกษาแบบ PBL ในการแทรกแซงการศึกษาสุขภาพดังนั้น จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิผลระยะสั้น และระยะยาวของการใช้วิธีการแบบ PBL(Savery, 2006) – นอกจากนี้ในเขตข้อมูลภายนอกการศึกษาทางการแพทย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความท้าทายสำหรับการวิจัยในอนาคตมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาการเรียนรู้
โดยรวม, หลักฐานฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ PBL ยังคงต้องการเสริมสร้างความเข้มแข็งในแง่ของคุณภาพ
และความคุ้มครองทางวินัย (กล่อง 7) ในรายงานเกี่ยวกับการตรวจสอบระบบและ meta-analysis บนที่
มีประสิทธิภาพของ PBL ในการศึกษาที่สูงขึ้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพนิวแมน (2003, น. 5) ชี้ให้เห็นว่า
"ภาพรวมที่มีอยู่ของสนามไม่ได้ให้หลักฐานที่มีคุณภาพสูงด้วยที่จะให้ คำตอบที่แข็งแกร่ง
สำหรับคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ PBL ว่า " นอกจากนี้การศึกษาจำนวนมากไม่ให้ทฤษฎีเพียงพอ
กรอบสำหรับการประเมินตัวแปรและโครงสร้างข้อมูลในการคำนวณขนาดของผลกระทบต่อการศึกษาสังเคราะห์
ผลและ / หรือคำอธิบายของทั้งการทดลองหรือการควบคุมการแทรกแซง (เช่น Belland ฝรั่งเศสและ
Ertmer 2009) Sanson-ฟิชเชอร์และ Lynagh (2005) รัฐว่าการออกแบบการวิจัยและทางเลือก
วิธีการระเบียบวิธีการที่มีมาตรฐานที่ยอมรับได้ของความรุนแรงทางวิทยาศาสตร์ที่มีความจำเป็นในการตรวจสอบ
ประสิทธิภาพของการแทรกแซงการศึกษาและปัจจัยบริบทที่เกี่ยวข้อง การศึกษาก่อนหน้านี้ยังส่งที่
มีไม่มากพอที่จะวิจัยสรุปผลที่เชื่อถือได้ (เช่นเนสและเซรั่ม 1993; เวอร์นอนและ
เบลค 1993) นอกจากนี้ความคิดเห็นที่สำคัญส่วนใหญ่รวมถึงการศึกษาของการแทรกแซง PBL ในการศึกษาสุขภาพ.
ดังนั้นการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพในระยะสั้นและระยะยาวของการใช้วิธีการ PBL เป็นสิ่งจำเป็น
(Savery 2006) - ยังอยู่ในเขตนอกการศึกษาทางการแพทย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความท้าทายสำหรับอนาคตประสิทธิภาพการวิจัยในการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นหลักรวมหลักฐานฐานเกี่ยวกับประสิทธิผลของ PBL ยังต้องการเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านคุณภาพและความคุ้มครองทางวินัย ( ช่อง 7 ) ในรายงานการทบทวน และการวิเคราะห์ในประสิทธิผลของการใช้ปัญหาเป็นหลักในระดับที่สูงขึ้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ นิวแมน ( 2546 , หน้า 5 ) ชี้ให้เห็นว่า" ภาพรวมของสาขาที่มีอยู่ไม่ได้ให้หลักฐานที่มีคุณภาพสูงซึ่งให้คำตอบที่แข็งแกร่งคำถามเกี่ยวกับประสิทธิผลของ PBL " นอกจากนี้การศึกษาจำนวนมากไม่มีทฤษฎีพอเพียงกรอบการประเมินตัวแปรและสร้างข้อมูลเพื่อคำนวณค่าขนาดอิทธิพลที่จะสังเคราะห์ ศึกษาผลลัพธ์และ / หรืออธิบายให้ทดลองและควบคุมการแทรกแซง ( เช่น belland , ฝรั่งเศส และertmer , 2009 ) แซนเซิ่น ฟิชเชอร์ และ lynagh ( 2548 ) ระบุว่า การออกแบบการวิจัยและทางเลือกแนวทางวิธีการที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของความรุนแรงทางวิทยาศาสตร์จะต้องตรวจสอบประสิทธิผลของการแทรกแซงการศึกษาและปัจจัยบริบทที่เกี่ยวข้อง การศึกษาก่อนหน้านี้ก็ส่งไปที่มีงานวิจัยไม่เพียงพอที่จะสรุปผลที่เชื่อถือได้ ( เช่น ? และมิเชล , 1993 ; เวอร์นอน และเบลค , 1993 ) นอกจากนี้ ความคิดเห็น หลักส่วนใหญ่รวมถึงการศึกษาจากการแทรกแซงในการศึกษาสุขภาพดังนั้นการวิจัยเพิ่มเติมในระยะสั้นและระยะยาวผลของการใช้วิธีการ PBL เป็น( เซฟเวอรี่ , 2006 ) และในเขตนอกการศึกษาทางการแพทย์