The distribution problem and inequa

The distribution problem and inequality of nurse workforce adversely affect health services in terms
of effectiveness and operational efficiency in health system and also affect the quality of health services.
Nurse workforce should be investigated for solving these problems. This study aimed to investigate
geographical distributions of Thai nurse workforce and to estimate nurse workforce inequality in Thailand.
Those data were obtained from two data sources, Thai Nurses Cohort Study: Health and Working
Life and surveys and the database of the Ministry of Public Health during the year 2005 - 2009. We
analyzed data by frequency and percentage to reflect the distribution of nurse workforce and Gini coefficients
were used to estimate the inequality. The study found that the distribution of nurse during the year
2005 - 2009, the north-east region has the highest ratio of population per nurse (825.30 to 1009.38) while
Bangkok has the lowest ratio (240.19 to 430.70). The level of nurse workforce inequality ranged between
11.42-18.91% and the trend of Gini coefficients demonstrated that the situation of nurse workforce inequality
tends to decrease in the year 2009.
Fulltext

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาการกระจายและความไม่เท่าเทียมกันของบุคลากรพยาบาลมีผลต่อสุขภาพในแง่ ประสิทธิผลและประสิทธิภาพการทำงานในระบบสุขภาพ และมีผลต่อคุณภาพของบริการสุขภาพ บุคลากรพยาบาลควรถูกตรวจสอบในการแก้ปัญหาเหล่านี้ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบ การกระจายทางภูมิศาสตร์ ของไทยพยาบาลบุคลากร และ การประเมินความไม่เท่าเทียมกันของบุคลากรพยาบาลในประเทศไทย ข้อมูลเหล่านั้นได้รับมาจากแหล่งข้อมูลสอง ศึกษาตามแผนการพยาบาลไทย: สุขภาพและการทำงาน ชีวิต และการสำรวจ และฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระหว่างปี 2005-2009 เรา วิเคราะห์ข้อมูล โดยความถี่และเปอร์เซ็นต์เพื่อสะท้อนการกระจายของบุคลากรพยาบาลและสัมประสิทธิ์ Gini ใช้ในการประเมินความไม่เท่าเทียมกัน การศึกษาพบว่าการกระจายของพยาบาลระหว่างปี 2005 - 2009 ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราสูงสุดของประชากรต่อพยาบาล (825.30 กับ 1009.38) ในขณะที่ กรุงเทพมหานครมีอัตราส่วนต่ำสุด (240.19 ถึง 430.70) ระดับของความไม่เท่าเทียมกันของบุคลากรพยาบาลที่อยู่ในช่วงระหว่าง 11.42 18.91% และแนวโน้มของค่าสัมประสิทธิ์ Gini แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของความไม่เท่าเทียมกันของบุคลากรพยาบาล มีแนวโน้มที่ ลดลงในปี 2552แบบเต็มหน่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาการจัดจำหน่ายและความไม่เท่าเทียมกันของแรงงานพยาบาลส่งผลกระทบต่อการให้บริการสุขภาพในแง่
ของประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานในระบบสุขภาพและยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการบริการสุขภาพ.
พยาบาลแรงงานควรได้รับการตรวจสอบสำหรับการแก้ปัญหาเหล่านี้ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา
การกระจายทางภูมิศาสตร์ของแรงงานพยาบาลไทยและเพื่อประเมินความไม่เท่าเทียมกันพยาบาลแรงงานในประเทศไทย.
ข้อมูลผู้ที่ได้รับจากสองแหล่งข้อมูลพยาบาลไทยศึกษาการศึกษา: สุขภาพและการทำงาน
ชีวิตและการสำรวจและฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในช่วง ปี 2005 ปี - ปี 2009 เรา
ได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยความถี่และร้อยละที่จะสะท้อนให้เห็นถึงการกระจายตัวของแรงงานพยาบาลและค่าสัมประสิทธิ์จินี
ถูกนำมาใช้ในการประมาณการความไม่สมดุลกัน ผลการศึกษาพบว่าการกระจายของพยาบาลในช่วงปี
2005 - 2009, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลางมีสัดส่วนที่สูงที่สุดของประชากรต่อพยาบาล (825.30-1,009.38) ในขณะที่
กรุงเทพฯมีอัตราส่วนต่ำสุด (240.19-430.70) ระดับของความไม่เท่าเทียมกันพยาบาลแรงงานอยู่ระหว่าง
11.42-18.91% และแนวโน้มของค่าสัมประสิทธิ์จินีแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ความไม่เท่าเทียมกันของพยาบาลแรงงาน
มีแนวโน้มที่จะลดลงในปี 2009
Fulltext

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญหาและความไม่เท่าเทียมกันของการกระจายบุคลากรพยาบาล ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในด้านต่างๆประสิทธิผลและประสิทธิภาพการดำเนินงานในระบบสุขภาพ และยังมีผลต่อคุณภาพของการบริการสุขภาพบุคลากรพยาบาล ควรจะตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการกระจายทางภูมิศาสตร์ของพยาบาลไทย แรงงาน และการประมาณการของบุคลากรพยาบาลในไทยข้อมูลที่ได้จากสองแหล่งข้อมูล พยาบาลไทยศึกษาเข้าศึกษา : สุขภาพและการทำงานชีวิตและการสำรวจและฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขในระหว่างปี 2005 - 2009 เราวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่และค่าร้อยละ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการกระจายของบุคลากรพยาบาล และสัมประสิทธิ์จินีถูกนำมาใช้เพื่อประเมินความไม่เท่าเทียมกัน . ผลการศึกษาพบว่า การกระจายของพยาบาลในช่วงปี2548 - 2552 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสัดส่วนสูงสุดของประชากรต่อพยาบาล ( 825.30 เพื่อ 1009.38 ) ในขณะที่กรุงเทพมหานครมีสัดส่วนน้อยที่สุด ( 240.19 เพื่อ 430.70 ) ระดับของความไม่เท่าเทียมกันระหว่างบุคลากรพยาบาลระหว่าง11.42-18.91 % และแนวโน้มของสัมประสิทธิ์จินี แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ของความไม่เท่าเทียมกันด้านพยาบาลมีแนวโน้มลดลงในปี 2552เต็ม Query