Approximately 6 million deaths rela

Approximately 6 million deaths related to tobacco use occur each year, including 600,000 in persons who breathe secondhand smoke. Unless trends reverse, by 2030, approximately 8 million persons will die from tobacco use each year. Approximately 80% of these deaths are expected to occur among person living in low-income and middle-income countries (1).

In 1987, the World Health Organization (WHO) created World No Tobacco Day to draw global attention to the health risks of tobacco use. Another important contribution of WHO to conceiving a long-term solution to the global tobacco problem is the development of the WHO Framework Convention on Tobacco Control. The treaty was adopted by the World Health Assembly in 2003 and is one of the most widely embraced treaties in United Nations history (2).

The treaty commits countries to protect the public's health by adopting various measures to reduce demand for tobacco. One measure of the treaty requires countries to provide widely accessible, comprehensive information regarding the addictive nature, risks, and health threats of exposure to tobacco smoke (3). Antismoking messages in the mass media are one means to accomplish this goal. This issue of MMWR includes a review of data from 17 countries, finding an association between awareness of antismoking messages and intention to quit smoking.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประมาณ 6 ล้านคนเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาสูบเกิดขึ้นในแต่ละปีรวม 600,000 คนที่หายใจควันมือสอง เว้นแต่แนวโน้มย้อนกลับในปี 2030 ประมาณ 8 ล้านคนจะตายจากการใช้ยาสูบในแต่ละปี ประมาณ 80% ของการเสียชีวิตเหล่านี้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในหมู่ผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง (1)

. ในปี 1987องค์การอนามัยโลก (WHO) สร้างโลกวันยาสูบที่จะดึงดูดความสนใจทั่วโลกเพื่อความเสี่ยงต่อสุขภาพของการใช้ยาสูบ อีกบทบาทสำคัญของผู้ที่จะตั้งครรภ์แก้ปัญหาระยะยาวที่จะแก้ไขปัญหายาสูบทั่วโลกคือการพัฒนากรอบการประชุมที่เกี่ยวกับการควบคุมการบริโภคยาสูบสนธิสัญญาเป็นลูกบุญธรรมที่ประชุมสุขภาพโลกในปี 2003 และเป็นหนึ่งในสนธิสัญญากอดกันอย่างกว้างขวางมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหประชาชาติ (2).

สนธิสัญญากระทำประเทศในการปกป้องสุขภาพของประชาชนโดยการใช้มาตรการต่างๆเพื่อลดความต้องการยาสูบ หนึ่งในมาตรการของสนธิสัญญาประเทศต้องมีเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวางข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับลักษณะของเสพติดความเสี่ยงและภัยคุกคามสุขภาพจากการสัมผัสกับควันบุหรี่ (3) antismoking ข้อความในสื่อมวลชนเป็นหนึ่งหมายถึงการบรรลุเป้าหมายนี้ ปัญหาของ mmwr นี้รวมถึงการทบทวนข้อมูลจาก 17 ประเทศพบความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ของข้อความ antismoking และความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ตาย

ประมาณ 6 ล้านเกิดขึ้นแต่ละปี รวมถึง 600000 คนที่หายใจ secondhand ควัน ถ้าแนวโน้มกลับ ปี 2030 ประมาณ 8 ล้านคนจะตายจากการใช้ยาสูบแต่ละปี คาดว่าประมาณ 80% ของการเสียชีวิตเหล่านี้เกิดขึ้นระหว่างคนในประเทศแนซ์ และคอร์รัปชั่น (1)

ใน 1987 องค์กรสุขภาพโลก (คน) สร้างโลกวันสูบบุหรี่ไม่ดูดความสนใจสุขภาพความเสี่ยงของการสูบบุหรี่ทั่วโลก อื่นสำคัญส่วนที่จะตั้งครรภ์การแก้ไขปัญหายาสูบโลกระยะยาวคือ การพัฒนาการที่อนุสัญญาควบคุมยาสูบ สนธิสัญญาที่นำ โดยสุขภาพโลกใน 2003 และเป็นหนึ่งในสนธิสัญญา embraced อย่างกว้างขวางที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหประชาชาติ (2)

สนธิทำประเทศเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน โดยการใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อลดความต้องการสูบบุหรี่ วัดหนึ่งของสนธิสัญญาต้องการประเทศให้สามารถเข้าถึงได้อย่างกว้างขวาง ครอบคลุมข้อมูลเกี่ยวกับธรรมชาติเสพติด ความเสี่ยง และภัยสุขภาพของการสัมผัสกับควันยาสูบ (3) Antismoking ข้อความในสื่อมวลชนเป็นวิธีหนึ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ปัญหาของ MMWR รวมทบทวนข้อมูลจาก 17 ประเทศ ค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ของข้อความ antismoking และความตั้งใจที่จะเลิกสูบบุหรี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประมาณ 6 ล้านคนจากการเสียชีวิตทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเกิดขึ้นแต่ละปีรวมถึง 600,000 ในคนที่ได้สูดควันบุหรี่มือสอง เว้นแต่แนวโน้มย้อนกลับโดย 2030 ประมาณ 8 ล้านคนจะต้องตายจากการใช้ยาแต่ละปี ประมาณ 80% ของการเสียชีวิตในครั้งนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นในหมู่ผู้ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศมีรายได้น้อยและรายได้ระดับกลาง( 1 )

ในปี 1987องค์กรอนามัยโลก( WHO )ที่สร้างโลกไม่มีโรงงานยาสูบวันเพื่อดึงดูดความสนใจทั่วโลกเพื่อความเสี่ยงต่อ สุขภาพ ของการใช้ยา สนับสนุนสำคัญอื่นๆของผู้ที่จะอธิบายโซลูชันระยะยาวให้กับปัญหาโรงงานยาสูบที่เป็นการพัฒนาที่กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบสนธิสัญญาที่ได้นำมาใช้โดยระดับโลกเพื่อ สุขภาพ ชุดที่ในปี 2003 และเป็นหนึ่งในสนธิสัญญายอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศสหรัฐอเมริกาประเทศ( 2 )

สนธิสัญญาที่กระทำในประเทศในการป้องกัน สุขภาพ ของประชาชนโดยมีการปรับใช้มาตรการต่างๆในการลดปริมาณความต้องการของโรงงานยาสูบ วัดได้ในสนธิสัญญาที่ต้องใช้ประเทศเพื่อจัดให้บริการข้อมูลที่ครอบคลุมอย่างกว้างขวางสามารถเข้าถึงได้เกี่ยวกับธรรมชาติตัวอย่างบริการที่ความเสี่ยงและ ภัย คุกคาม สุขภาพ จากการสัมผัสกับควันบุหรี่( 3 ) ข้อความ antismoking ในสื่อมวลชนที่เป็นหนึ่งเดียวในการทำงานให้สำเร็จหมายถึงเป้าหมายนี้ ปัญหานี้ของ mmwr รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลจาก 17 ประเทศในการค้นหาการเชื่อมโยงระหว่างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อความ antismoking และความตั้งใจในการออกแบบปลอดบุหรี่