vegetables during the third trimest

vegetables during the third trimester of pregnancy.
These findings are encouraging as there appears
to be an increase in healthy eating compared to
a previous Irish report, which found that less
than 50% of women during pregnancy met the
recommendations for each group of the food
pyramid (O’Neill et al, 2011). The findings of this
study are evidence that public health education
initiatives on healthy eating can have a positive
impact; however, continuous reinforcement of
health-enhancing awareness is required.
Although the majority of women thought that
they had a healthy diet, over a third of women
during both stages of pregnancy observed in this
study were overweight as calculated by their BMI.
Maternal obesity during pregnancy is linked to a
number of adverse outcomes for both the mother
and baby. Obesity in pregnancy has been identified
as an increased risk of complications including
gestational diabetes mellitus, pre-eclampsia and
venous thromboembolism. Obesity can also result
in higher incidence of obstetric interventions such
as caesarean section births, as well as haemorrhage
and infection (O’Dwyer and Turner, 2012). Weight
can be a sensitive subject and it is important
that information about obesity and its risks is
communicated in an informative, understanding
manner. Women who are underweight, overweight
or obese should be seen for pre-pregnancy dietary
counselling, ideally in the community, to optimise
weight prior to conception and therefore reduce
associated risks during pregnancy (HSE, 2013).
Another major lifestyle behaviour in pregnancy
is exercise. The introduction of recommendations
for physical activity during pregnancy is
relatively new, and both the American College
of Obstetricians and Gynecologists (ACOG)
and the UK’s Royal College of Obstetricians and
Gynaecologists (RCOG) recommend 30 minutes
of daily moderate-intensity physical activity for
women who are pregnant (ACOG, 2002; RCOG,
2006). In Ireland, a previous study reported that
the majority of women (76%) do not reach the
recommended levels of exercise during pregnancy
(Walsh et al, 2011). This study found that more
women are now exercising during pregnancy,
with 35% (in the first trimester) and 46% (in the
third trimester) exercising more than three times
a week. However, disappointingly, there are still a
lot of women who do not carry out any exercise.
Almost half of the women in this study never
exercised during the first trimester of pregnancy.
Regular exercise is promoted for its overall health
benefits for mother and baby. Pregnant women
should be informed that beginning or continuing
a moderate course of exercise during pregnancy
is not associated with adverse outcomes to the
mother or the baby (NICE, 2008). All health
professionals should be educated regarding the
benefits of physical activity in pregnancy and
should be encouraged to pass on these messages
to women.
It is apparent from the findings of this study
that women do not always follow healthy lifestyle
behaviour recommendations before and during
pregnancy. Clustering of factors contributing to
an unhealthy lifestyle during pregnancy is also
evident. Up to 47% of women who engaged
in unhealthy lifestyle choices were found to
be engaging in not only one, but two or more
unhealthy behaviours during the first and third
trimester of pregnancy. This study suggests that
a large number of women do not comply with
lifestyle behaviour recommendations during

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผักในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์ผลการวิจัยเหล่านี้จะกระตุ้นมีปรากฏเป็น การเพิ่มการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ไอริชรายงาน ซึ่งพบว่าน้อยกว่ากว่า 50% ของหญิงในระหว่างตั้งครรภ์ตามคำแนะนำสำหรับแต่ละกลุ่มของอาหารพีระมิด (O'Neill et al, 2011) ผลการวิจัยนี้การศึกษาเป็นหลักฐานการศึกษาสาธารณสุขที่ริเริ่มในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพได้บวกผลกระทบ อย่างไรก็ตาม การเสริมแรงอย่างต่อเนื่องของจำเป็นต้องสร้างความตระหนักเสริมสร้างสุขภาพแม้ว่าผู้หญิงส่วนใหญ่คิดว่า ที่พวกเขามีอาหารเพื่อสุขภาพ มากกว่าหนึ่งในสามของผู้หญิงในระหว่างขั้นตอนทั้งการตั้งครรภ์ในนี้ศึกษาได้น้ำหนักตามที่คำนวณโดย BMI ของเชื่อมโยงกับโรคอ้วนมารดาในระหว่างตั้งครรภ์การจำนวนของผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์สำหรับทั้งแม่และเด็ก มีการระบุในการตั้งครรภ์เป็นความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนรวมทั้งครรภ์เบาหวาน eclampsia ก่อน และอุดตันที่หลอดเลือดดำ โรคอ้วนยังสามารถส่งผลในสูติกรรมแทรกแซงดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเกิดคลอด เช่นเป็นตกและการติดเชื้อ (O'Dwyer และตะหลิว 2012) น้ำหนักเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นสิ่งสำคัญข้อมูลเกี่ยวกับโรคอ้วนและเสี่ยงจะในการข้อมูล เข้าใจการสื่อสารลักษณะ ผู้หญิงที่อยู่ได้แก่ น้ำหนักเกินหรืออ้วนควรเห็นสำหรับอาหารท้องให้คำปรึกษา โรงแรมในชุมชน การเพิ่มประสิทธิภาพน้ำหนักก่อนคิด และดังนั้นจึง ลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในระหว่างตั้งครรภ์ (HSE, 2013)พฤติกรรมไลฟ์สไตล์สำคัญอื่นในการตั้งครรภ์คือออกกำลังกาย แนะนำแนะนำสำหรับกิจกรรมทางกายภาพในระหว่างตั้งครรภ์ค่อนข้างใหม่ และ วิทยาลัยอเมริกันสูติแพทย์และขอน (ACOG)และวิทยาลัยสูติแพทย์หลวงของสหราชอาณาจักร และGynaecologists (RCOG) ขอแนะนำ 30 นาทีของกิจกรรมทางกายภาพความเข้มปานกลางประจำวันสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ (ACOG, 2002 RCOG2006) . การศึกษาก่อนหน้านี้ในไอร์แลนด์ รายงานว่าผู้หญิง (76%) ส่วนใหญ่ไม่ถึงการระดับแนะนำออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์(วอลช์ et al, 2011) การศึกษานี้พบว่าเพิ่มเติมผู้หญิงตอนนี้ออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์35% (ในไตรมาสแรก) และ 46% (ในการไตรมาสที่ 3) ออกกำลังกายมากกว่า 3 ครั้งสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม disappointingly ยังคงมีการจำนวนมากของผู้หญิงที่ไม่ดำเนินการการออกกำลังกายเกือบครึ่งหนึ่งของผู้หญิงในการศึกษานี้ไม่ใช้ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์คือการส่งเสริมการออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพโดยรวมสิทธิประโยชน์สำหรับแม่และเด็ก หญิงตั้งครรภ์ควรทราบที่เริ่มต้น หรือต่อเนื่องหลักสูตรปานกลางออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์ไม่เกี่ยวข้องกับผลเสียต่อการแม่หรือเด็ก (ดี 2008) สุขภาพทั้งหมดผู้เชี่ยวชาญควรจะศึกษาเกี่ยวกับการประโยชน์ของกายในหญิงตั้งครรภ์ และควรจะสนับสนุนการส่งข้อความเหล่านี้ผู้หญิงคนนี้จากผลการศึกษานี้จะว่า ผู้หญิงเสมอตามวิถีชีวิตสุขภาพคำแนะนำเกี่ยวกับพฤติกรรมก่อน และระหว่างตั้งครรภ์ คลัสเตอร์ของปัจจัยที่เอื้อต่อการมีไลฟ์สไตล์ไม่แข็งแรงระหว่างตั้งครรภ์เห็นได้ชัด ถึง 47% ของผู้หญิงที่มีส่วนร่วมในไลฟ์สไตล์ที่ไม่แข็งแรง ทางเลือกพบว่ามีในไม่ แต่สอง หนึ่งพฤติกรรมที่ไม่แข็งแรงในช่วงแรกและที่สามไตรมาสของการตั้งครรภ์ การศึกษานี้แนะนำที่ผู้หญิงจำนวนมากไม่สอดคล้องกับแนะนำพฤติกรรมไลฟ์สไตล์ระหว่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผักในช่วงไตรมาสที่สามของการตั้งครรภ์. การค้นพบนี้จะส่งเสริมให้เป็นดูเหมือนจะเป็นเพิ่มขึ้นในการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเมื่อเทียบกับรายงานไอริชก่อนหน้านี้ซึ่งพบว่าน้อยกว่า50% ของผู้หญิงในช่วงการตั้งครรภ์ได้พบกับคำแนะนำสำหรับแต่ละกลุ่มของอาหารที่ปิรามิด(โอนีล et al, 2011) ผลการวิจัยจากนี้การศึกษาเป็นหลักฐานว่าการศึกษาสาธารณสุขความคิดริเริ่มในการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะมีบวกผลกระทบ; แต่การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของการรับรู้การเสริมสร้างสุขภาพที่จะต้อง. แม้ว่าส่วนใหญ่ของผู้หญิงที่คิดว่าพวกเขามีการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าหนึ่งในสามของผู้หญิงในระหว่างขั้นตอนทั้งสองของการตั้งครรภ์ตั้งข้อสังเกตในการศึกษามีน้ำหนักเกินตามที่คำนวณจากค่าดัชนีมวลกายของพวกเขา. โรคอ้วนของมารดาในช่วง การตั้งครรภ์ที่มีการเชื่อมโยงไปยังหมายเลขของผลที่ไม่พึงประสงค์สำหรับทั้งแม่และลูกน้อย โรคอ้วนในการตั้งครรภ์ได้รับการระบุว่าเป็นความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของภาวะแทรกซ้อนรวมทั้งเบาหวานเบาหวานขณะตั้งครรภ์ก่อนeclampsia และอุดตันหลอดเลือดดำ โรคอ้วนนอกจากนี้ยังสามารถส่งผลในอุบัติการณ์สูงขึ้นของการแทรกแซงการคลอดบุตรดังกล่าวเป็นวันเกิดซีซาร์ส่วนเช่นเดียวกับอาการตกเลือดและการติดเชื้อ(O'Dwyer และเทอร์เนอ 2012) น้ำหนักอาจเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและเป็นสิ่งสำคัญว่าข้อมูลเกี่ยวกับโรคอ้วนและความเสี่ยงของมันคือการสื่อสารในข้อมูลความเข้าใจลักษณะ ผู้หญิงที่มีความหนัก, มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนควรจะเห็นก่อนตั้งครรภ์อาหารที่ให้คำปรึกษาอยู่ในชุมชนเพื่อเพิ่มน้ำหนักก่อนที่จะมีความคิดและดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในระหว่างตั้งครรภ์(HSE 2013). อีกพฤติกรรมการดำเนินชีวิตที่สำคัญในการตั้งครรภ์คือการออกกำลังกาย. การแนะนำของคำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์เป็นที่ค่อนข้างใหม่และทั้งสองอเมริกันวิทยาลัยสูตินรีแพทย์และนรีแพทย์(ACOG) และสหราชอาณาจักรของราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์และGynaecologists (RCOG) แนะนำ 30 นาทีของทุกวันความเข้มปานกลางการออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ (ACOG 2002; RCOG, 2006) ในไอร์แลนด์การศึกษาก่อนหน้ารายงานว่าส่วนใหญ่ของผู้หญิง (76%) ไม่ได้ถึงระดับที่แนะนำของการออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์(วอลช์ et al, 2011) การศึกษาครั้งนี้พบว่าผู้หญิงที่อยู่ในขณะนี้การออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์35% (ในระยะแรก) และ 46% (ในไตรมาสที่สาม) การออกกำลังกายมากกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์ แต่ผิดหวัง, ยังมีผู้หญิงจำนวนมากที่ไม่ได้ดำเนินการออกกำลังกายใดๆ . เกือบครึ่งหนึ่งของผู้หญิงในการศึกษาครั้งนี้ไม่เคยใช้สิทธิในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์. ออกกำลังกายเป็นประจำคือการส่งเสริมเพื่อสุขภาพโดยรวมของผลประโยชน์ให้กับแม่และลูก หญิงตั้งครรภ์ควรทราบจุดเริ่มต้นหรือต่อเนื่องเป็นหลักสูตรในระดับปานกลางของการออกกำลังกายในระหว่างตั้งครรภ์ไม่เกี่ยวข้องกับผลที่ไม่พึงประสงค์ให้กับแม่หรือทารก(NICE, 2008) สุขภาพมืออาชีพควรจะมีการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของการออกกำลังกายในการตั้งครรภ์และควรได้รับการสนับสนุนที่จะส่งข้อความเหล่านี้ให้กับผู้หญิง. มันเห็นได้ชัดจากผลการศึกษานี้ว่าผู้หญิงไม่เคยทำตามวิถีชีวิตสุขภาพคำแนะนำพฤติกรรมก่อนและระหว่างการตั้งครรภ์ การจัดกลุ่มของปัจจัยที่เอื้อต่อการดำเนินชีวิตที่ไม่แข็งแรงในระหว่างตั้งครรภ์นอกจากนี้ยังเป็นที่เห็นได้ชัด ได้ถึง 47% ของผู้หญิงที่มีส่วนร่วมในการเลือกวิถีชีวิตที่ไม่แข็งแรงพบว่ามีส่วนร่วมในการไม่เพียงหนึ่งแต่สองคนหรือมากกว่าพฤติกรรมที่ไม่แข็งแรงในช่วงแรกและที่สามไตรมาสของการตั้งครรภ์ การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นจำนวนมากของผู้หญิงที่ไม่สอดคล้องกับคำแนะนำพฤติกรรมการดำเนินชีวิตในช่วง