regime estimates from the unemploym

regime estimates from the unemployment rate series are also closely aligned to the
official business cycle, the exhaustion rate and average duration regimes do not. In
addition, regime estimates from the average duration model are significantly closer to
the regimes of the exhaustion rate model than the jobless claims model. In contrast,
the regimes from the MS model of the unemployment rate align slightly more closely
with the regimes from the jobless claims model. I conclude that the lag in the recovery
of the job finding rate is responsible for the pattern between the unemployment rate
and the average duration of unemployment.
These results add to growing evidence (see Yashiv 2008; Fujita and Ramey 2009;
Elsby 2009) that the inflows into unemployment are counter-cyclical. This is in contrast
to the behavior of inflows in many Pissarides (1991)-type search models which
rely on evidence from Shimer (2005) to model the separation rate as a constant. In
addition, the notion that the exhaustion rate enters a recovery phase later than jobless
claims supports Fujita and Ramey (2009) results, who find that the separation rate
is counter-cyclical and moves contemporaneously with productivity, while the job
finding rate is pro-cyclical, but moves at a lag to productivity.
The nature of labor market recoveries is not only important to our understanding
of the business cycle, but is also critical to policy decisions, such as the extensions
of UI. The lack of job opportunities is often given as the reason for extending UI
and, consequently, it is important for policymakers to understand the source of movements
in labor market statistics. I find that they seem to understand this quite well.
Periods where legislated extension to UI are in place align closely with the regimes
from the exhaustion rate model and are independent from the regimes from the jobless
claims model. This may suggest that Congress pays close attention to the ability to exit
unemployment rather than the total stock of unemployed when determining if longer
benefits are required.
This paper proceeds as follows. Section 2 describes the methodology. Section 3
details the data and Sect. 4 model selection. Then, Sect. 5 reports and evaluates the
parameter and smoothed probability estimates and Sect. 6 concludes.
2 Methodology
It has long been observed that key economic series, including the unemployment rate,
behave asymmetrically over the business cycle, suggesting fundamentally different
processes in each phase of the economy. For instance, the unemployment rate often
rises sharply during a recession and declines at a much slower rate following the
NBER trough. Neftci (1984) was one of the first to present statistical evidence that
such asymmetries exist. While Sichel (1989) shows that some programming issues
led to Neftci (1984) results, subsequent papers (Rotham 1991, 2008) have shown the
unemployment rate to exhibit asymmetry over the business cycle. In order to evaluate
the phases in various labor market series, I employ Hamilton (1989) MS model which
takes the following form:
yt = αst + βst(L)yt−1 + σst t, for st = 0, 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยังใกล้ชิดใจชิดระบอบประเมินจากชุดอัตราการว่างงานการทางธุรกิจรอบ การเกษียณอัตราและค่าเฉลี่ยระยะเวลาระบอบไม่ ในนอกจากนี้ ประเมินระบอบการปกครองจากรูปแบบระยะเวลาเฉลี่ยใกล้ชิดอย่างมากกับระบอบรุ่นอัตราเกษียณกว่าแบบอ้างว่างงาน ในทางตรงกันข้ามระบอบแบบ MS ของอัตราการว่างงานจากตำแหน่งเล็กน้อยมากด้วยระบอบจากแบบอ้างว่างงาน ผมสรุปที่ความล่าช้าในการฟื้นตัวงาน ค้นหาอัตรารับผิดชอบในรูปแบบระหว่างอัตราการว่างงานและระยะเวลาเฉลี่ยของงานผลลัพธ์เหล่านี้เพิ่มการเติบโตหลักฐาน (ดู Yashiv 2008 ฟูจิตะและ Ramey 2009Elsby 2009) กระแสเข้าเป็นงานทวนวัฏจักร นี่คือตรงกันข้ามลักษณะของกระแสเข้าใน Pissarides ในการ ค้นหา (1991) -ชนิดรุ่นที่อาศัยหลักฐานจาก Shimer (2005) แบบอัตราแยกเป็นค่าคง ในนอกจากนี้ แนวคิดที่ว่า อัตราเกษียณป้อนขั้นตอนกู้คืนหลังว่างงานเรียกร้องสนับสนุนฟูจิตะ Ramey (2009) ผล ซึ่งพบว่าอัตราการแยกเป็นวัฏจักรทวน และย้ายไปผลิต ในขณะที่งาน contemporaneouslyอัตราการค้นหาโปห่วง แต่ย้ายไปผลิตที่ช่วงห่างลักษณะของ recoveries ตลาดแรงงานไม่ต้องทำความเข้าใจของเราวงจรธุรกิจ แต่ยังเป็นความสำคัญต่อการตัดสินใจนโยบาย เช่นนามสกุลของ UI การขาดงานมักจะถูกกำหนดเป็นเหตุผลสำหรับการขยาย UIและ จึง มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายต้องเข้าใจแหล่งที่มาของการเคลื่อนไหวสถิติตลาดแรงงาน พบว่า พวกเขาดูเหมือนจะเข้าใจนี้ค่อนข้างดีรอบระยะเวลาที่ขยาย legislated กับ UI เป็นที่สอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับระบอบการจากแบบจำลองอัตราเกษียณและเป็นอิสระจากระบอบจากว่างงานแบบจำลองเรียกร้อง นี้อาจแนะนำว่า รัฐสภาจ่ายใส่ความสามารถในการออกจากว่างงานมากกว่าหุ้นรวมของตกงานเมื่อกำหนดอีกต่อไปประโยชน์จำเป็นกระดาษนี้ดำเนินดังนี้ ส่วนที่ 2 อธิบายวิธีการ หมวดที่ 3รายละเอียดข้อมูลและเลือกรูปแบบ Sect. 4 แล้ว Sect. 5 รายงาน และประเมินการพารามิเตอร์ และประเมินความน่าเป็นที่ปรับให้โค้ง และ Sect. 6 สรุปวิธีที่ 2มันมีนานแล้วสังเกตที่สำคัญเศรษฐกิจชุด รวมทั้งอัตราการว่างงานทำงาน asymmetrically ผ่านวงจรธุรกิจ แนะนำความแตกต่างกันกระบวนการในแต่ละระยะของเศรษฐกิจ ตัวอย่าง อัตราการว่างงานมักจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงถดถอย และปฏิเสธที่เป็นมากช้ากว่าอัตราดังต่อไปนี้NBER ราง Neftci (1984) เป็นหนึ่งในคนแรกที่นำเสนอหลักฐานทางสถิติที่asymmetries เช่นกัน ในขณะที่ Sichel (1989) แสดงให้เห็นว่าปัญหาบางโปรแกรมนำไปสู่ผลลัพธ์ Neftci (1984) เอกสารภายหลัง (Rotham 1991, 2008) ได้แสดงให้เห็นการอัตราการว่างงานแสดง asymmetry ผ่านวงจรธุรกิจ เพื่อประเมินระยะในต่าง ๆ แรงงานตลาดชุด ฉันจ้างฮามิลตัน (1989) MS รุ่นที่ใช้แบบฟอร์มต่อไปนี้:yt = αst + βst (L) yt−1 + σst t, st = 0, 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประมาณการระบอบการปกครองจากชุดอัตราการว่างงานยังใกล้ชิดกับ
วงจรธุรกิจอย่างเป็นทางการอัตราอ่อนเพลียและระบอบการปกครองที่ระยะเวลาเฉลี่ยไม่ ใน
นอกจากนี้ระบอบการปกครองประมาณการจากแบบจำลองระยะเวลาเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญที่ใกล้ชิดกับ
ระบอบการปกครองของรูปแบบอัตราอ่อนเพลียกว่าผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรูปแบบ ในทางตรงกันข้าม
ระบอบการปกครองจากแบบจำลอง MS ของอัตราการว่างงานที่จัดขึ้นอย่างใกล้ชิดเล็กน้อย
กับระบอบการปกครองจากแบบจำลองขอรับสวัสดิการว่างงาน ผมสรุปได้ว่าความล่าช้าในการกู้คืน
ของงานการหาอัตราการเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับรูปแบบระหว่างอัตราการว่างงาน
. และระยะเวลาเฉลี่ยของการว่างงาน
ผลลัพธ์เหล่านี้เพิ่มหลักฐานที่มากขึ้น (ดู Yashiv 2008; ฟูจิและเมย์ 2009;
Elsby 2009) ว่า เงินทุนไหลเข้าเป็นอัตราการว่างงานอยู่ที่เคาน์เตอร์วงจร นี้เป็นในทางตรงกันข้าม
กับพฤติกรรมของกระแสใน Pissarides หลาย (1991) รุ่นค้นหาชนิดซึ่ง
พึ่งพาหลักฐานจาก Shimer (2005) ในการจำลองอัตราแยกเป็นค่าคงที่ ใน
นอกจากนี้ความคิดที่ว่าอัตราการอ่อนเพลียเข้าสู่ระยะการกู้คืนช้ากว่าว่างงาน
เรียกร้องสนับสนุนฟูจิและเมย์ (2009) ผลที่พบว่าอัตราการแยก
เป็นเคาน์เตอร์วงจรและย้าย contemporaneously กับการผลิตขณะที่งาน
การหาอัตราการเป็นโปร วัฏจักร แต่การเคลื่อนไหวที่ล่าช้าการผลิต.
ลักษณะของการฟื้นตัวของตลาดแรงงานไม่ได้เป็นเพียงสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจของเรา
ของวงจรธุรกิจ แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะตัดสินใจนโยบายเช่นนามสกุล
ของ UI ขาดโอกาสในการทำงานจะได้รับมักจะเป็นเหตุผลสำหรับการขยาย UI
และดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้กำหนดนโยบายที่จะเข้าใจแหล่งที่มาของการเคลื่อนไหว
ในสถิติตลาดแรงงาน ผมพบว่าพวกเขาดูเหมือนจะเข้าใจในเรื่องนี้ค่อนข้างดี.
ระยะเวลาที่ขยายออกกฎหมาย UI อยู่ในสถานที่จัดอย่างใกล้ชิดกับระบอบการปกครอง
จากแบบจำลองอัตราการอ่อนเพลียและมีความเป็นอิสระจากระบอบการปกครองจากว่างงาน
รูปแบบการเรียกร้อง นี้อาจชี้ให้เห็นว่าการมีเพศสัมพันธ์ให้ความสนใจใกล้เคียงกับความสามารถในการออกจาก
การว่างงานมากกว่าหุ้นรวมของอัตราการว่างงานเมื่อพิจารณาอีกต่อไปหาก
ผลประโยชน์ที่จำเป็น.
นี้เงินกระดาษดังต่อไปนี้ ส่วนที่ 2 อธิบายถึงวิธีการ ส่วนที่ 3
รายละเอียดข้อมูลและนิกาย 4 ตัวเลือกรูปแบบ จากนั้นนิกาย 5 รายงานและประเมิน
พารามิเตอร์และประมาณการเกี่ยวกับความน่าจะเป็นเรียบและนิกาย 6 สรุป.
2 วิธี
จะได้รับการตั้งข้อสังเกตว่าชุดทางเศรษฐกิจที่สำคัญรวมทั้งอัตราการว่างงานที่
มีพฤติกรรมไม่สมมาตรกว่าวงจรธุรกิจการบอกเป็นนัยที่แตกต่างกันโดยพื้นฐาน
กระบวนการในขั้นตอนของเศรษฐกิจในแต่ละ ยกตัวอย่างเช่นอัตราการว่างงานมักจะ
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและลดลงในอัตราที่ช้ามากต่อไปนี้
ราง NBER เนฟต์ชี่ (1984) เป็นหนึ่งในครั้งแรกที่จะนำเสนอหลักฐานทางสถิติที่
ไม่เท่าเทียมดังกล่าวอยู่ ในขณะที่ซิเช (1989) แสดงให้เห็นว่าการเขียนโปรแกรมบางส่วน
นำไปสู่การเนฟต์ชี่ (1984) ผลเอกสารที่ตามมา (Rotham 1991 2008) ได้แสดงให้เห็น
อัตราการว่างงานที่จะแสดงความไม่สมดุลในช่วงวงจรธุรกิจ ในการประเมิน
ขั้นตอนในซีรีส์ของตลาดแรงงานต่างๆผมจ้างแฮมิลตัน (1989) รุ่น MS ซึ่ง
ใช้รูปแบบต่อไปนี้:
? yt = αst + βst (L) yt-1 + σstเสื้อสำหรับเซนต์ = 0, 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระบบประเมินจากอัตราการว่างงาน นอกจากนี้ยังมีชุดอย่างใกล้ชิดสอดคล้องกับ
ธุรกิจอย่างเป็นทางการรอบ , อ่อนเพลียและอัตราเฉลี่ยเวลากันไม่ได้ ใน
นอกจากนี้ระบอบการปกครองประมาณการจากแบบจำลองมีระยะเวลาเป็นอย่างใกล้ชิดกับระบอบ
อัตราความเหนื่อยแบบกว่าแบบชะลอ . ในทางตรงกันข้าม
ใต้จาก MS รูปแบบของอัตราการว่างงานจัดเล็กน้อยอย่างใกล้ชิด
กับระบอบการปกครองจากรูปแบบการเรียกร้องว่างงาน ผมสรุปได้ว่า ความล่าช้าในการฟื้นตัว
ของงานค้นหาอัตรารับผิดชอบแบบแผนระหว่างอัตราการว่างงานและระยะเวลาเฉลี่ยของการว่างงาน
.
ผลลัพธ์เหล่านี้เพิ่มเติบโตหลักฐาน ( ดู yashiv 2008 และ 2009 ฟูจิตะ เรมี่ ;
;elsby 2009 ) ที่ไหลเข้าในระดับการว่างงานเป็นเคาน์เตอร์ นี้เป็นในทางตรงกันข้าม
กับพฤติกรรมของตลาดหุ้นในหลาย pissarides ( 1991 ) - ประเภทการค้นหารูปแบบที่
อาศัยหลักฐานจากชิมเมอร์ ( 2005 ) แยกเป็นแบบอัตราคงที่ ใน
นอกจากนี้ความคิดที่เหน็ดเหนื่อยเท่ากันจะเข้าสู่ระยะพักฟื้นหลังตกงาน
เรียกร้องและสนับสนุน ฟูจิตะ เรมี่ ( 2009 ) ผลลัพธ์ที่พบว่า อัตราการแยกบริษัทและย้าย contemporaneously
เป็นเคาน์เตอร์กับผลผลิต ในขณะที่งาน
การหาอัตรา Pro เป็นวงกลม แต่ย้ายที่ล้าหลังเพื่อการผลิต .
ธรรมชาติของตลาดตลาดแรงงานที่ไม่ได้เป็นเพียงที่สำคัญเพื่อความเข้าใจของเรา
ของวัฏจักรธุรกิจ แต่ยังมีปัญหากับการตัดสินใจนโยบาย เช่น นามสกุล
ของ UIขาดโอกาสในการทำงานมักจะให้เหตุผลสำหรับการขยาย UI
และ , จึง , มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนโยบายที่จะเข้าใจแหล่งที่มาของการเคลื่อนไหว
สถิติตลาดแรงงาน ผมพบว่าพวกเขาดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องนี้ดี legislated
ระยะเวลาที่ขยายไป UI ในสถานที่จัดระบอบ
อย่างใกล้ชิดกับจากอัตราการรูปแบบและเป็นอิสระจากระบอบจากแบบจำลอง
ชะลอ . นี้อาจชี้ให้เห็นว่า รัฐสภาจ่ายปิดสนใจกับความสามารถที่จะออกจาก
ว่างงานมากกว่าหุ้นทั้งหมดของการว่างงานเมื่อพิจารณาว่าประโยชน์อีกต่อไป

นี้ใช้กระดาษเงิน ดังนี้ ส่วนที่ 2 อธิบายต่อไป หมวด 3
รายละเอียดข้อมูลและนิกายเลือก 4 แบบ แล้วนิกาย 5 รายงานและประเมินพารามิเตอร์และเรียบประมาณ
ความน่าจะเป็นและนิกาย 6 สรุป .
2 วิธีการ
มันมีนานแล้ว สังเกตว่า ชุดหลักทางเศรษฐกิจ ได้แก่ อัตราการว่างงาน
ทำตัว asymmetrically ผ่านวัฏจักรธุรกิจ แนะนำกระบวนการแตกต่างกันลึกซึ้ง
ในแต่ละช่วงของเศรษฐกิจ ตัวอย่าง อัตราการว่างงานมักจะ
เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและการลดลงในอัตราที่ช้ากว่ามากต่อไปนี้
nber ราง neftci ( 1984 ) เป็นคนแรกที่เสนอสถิติหลักฐาน
เช่นนั่นอยู่ ในขณะที่ซีเคิล ( 1989 ) พบว่าปัญหาบางโปรแกรม
นำไปสู่ neftci ( 1984 ) ผลลัพธ์ที่ตามมา ( เอกสาร rotham 1991 2008 ) ได้แสดง
อัตราการว่างงานแสดงความไม่สมดุลทางวงจรธุรกิจเพื่อประเมินขั้นตอนในตลาดแรงงาน
ชุดต่างๆ ผมจ้างแฮมิลตัน ( 1989 ) MS รุ่นที่ใช้รูปแบบต่อไปนี้ :

YT = α St St บีตา ( L ) YT − 1 σ ST  T สำหรับ St = 0 , 1