2.การตรวจสอบงานเชื่อมโครงสร้าง
รายละเอียดของขั้นตอนในกระบวนการทํางาน
การตรวจสอบก่อนการเชื่อม
๑. ตรวจสอบความสะอาดของแผ่นเหล็กบริเวณที่จะทําการเชื่อม
เป็นการตรวจสอบความพร้อมของแผ่นเหล็กที่จะทําการเชื่อม โดยบริเวณที่จะทําการเชื่อมต้องสะอาด
ปราศจากสนิม ขอบแผ่นเหล็กต้องเรียบไม่ขรุขระ ไม่มีรอยบกพร่อง
๒. ตรวจสอบลวดเชื่อม
ลวดเชื่อมที่ใช้ต้องเป็นไปตามข้อกําหนดของกระบวนการเชื่อม (WPS) และต้องมีฉลากบอกชนิดและ
มาตรฐานของลวดเชื่อมด้วย
๓. ตรวจสอบ Fit up
เป็นการตรวจสอบชิ้นงานก่อนการเชื่อม เพื่อตรวจความถูกต้องของระยะต่างๆ ตามแบบ หรือตามที่
มาตรฐานกําหนด โดยแยกเกณฑ์การตรวจสอบตามชนิดของแนวเชื่อม
การตรวจสอบขณะเชื่อม
ตรวจสอบแนวเชื่อมแรก ( Root Weld )
เป็นการตรวจสอบแนวเชื่อมแรก โดยปกติจะใช้ตรวจสอบโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ เช่น การตรวจสอบการเชื่อม Block ตัวเรือ เป็นต้น ซึ่งวิธีการตรวจสอบและเกณฑ์มาตรฐาน รวมถึงแบบฟอร์มบันทึกข้อมูลจะใช้เหมือนกับการตรวจสอบ Final Weld ที่จะกล่าวในหัวข้อต่อไป
การตรวจสอบหลังการเชื่อม
ตรวจสอบแนวเชื่อมที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ( Final Weld ) เป็นการตรวจสอบว่าแนวเชื่อมได้ขนาด และมีรอยบกพร่องยอมรับได้ตามเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งรอยบกพร่องที่นํามาอธิบายในการจัดการความรู้ฉบับนี้ มักเป็นรอยบกพร่องที่สามารถพบเห็นได้บ่อย โดยแบ่งหัวข้อของการตรวจสอบ ดังนี้
๑. ตรวจสอบความสะอาด
- รอยเชื่อมต้องปราศจาก slag สี และ spatter ที่มีความยาวหรือ เส้นผ่านศก.มากกว่า ๑ /๘ นิ้ว
3. สภาพการชำรุดเสียหายของพื้นถนน
การสำรวจข้อมูลสภาพทางจาเป็นต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบงานทาง เนื่องจากแต่ละหน่วยงานมีข้อจากัดในด้านงบปริมาณความพร้อมในการดำเนินงาน บุคลากร ตลอดจนเครื่องมือในการสำรวจเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน สาหรับแนวทางการพัฒนาวิธีการสำรวจและประเมินสภาพความเสียหายของทางได้สรุปแนวทางการดำเนินการสำรวจและประเมินสภาพความเสียหายทาง ออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ การประเมินสภาพความเสียหายเบื้องต้น และการประเมินสภาพความเสียหายละเอียด
การสำรวจความเสียหายละเอียด ดำาเนินการเฉพาะผิวทางลาดยาง เพื่อสำรวจปริมาณความเสียหายในแต่ละประเภทความเสียหาย เพื่อใช้ในการวิเคราะห์วิธีการซ่อมบำรุง และวิเคราะห์งบประมาณในการซ่อมบำรุงการจัดทาข้อมูลตรวจสอบและประเมินสภาพความเสียหายทางและแบบฟอร์มการตรวจสอบและประเมินความเสียหายของสายทางเพื่อประโยชน์ต่อการใช้งานในทางปฏิบัติของหน่วยงานโดยสรุปความเสียหายดังนี้
จึงสามารถสะท้อนให้เห็นคะแนนความเสียหายจากเส้นทางที่เลือกใช้เป็นตัวแทนว่าถนนสายซอยนภาวีมีระดับคะแนนความเสียหายมาก เส้นทางซอยศาลาแดงมีระดับคะแนนความเสียหายปานกลาง และเส้นทางซอยสนามกอล์ฟไม่มีความเสียหายซึ่งข้อมูลที่ได้เป็นกรณีศึกษาเบื้องต้น เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ วิธีการซ่อมบำรุง และวิเคราะห์งบประมาณในการซ่อมแซมถนนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและเพิ่มอายุการใช้งาน ให้ยืนยาวมากยิ่งขึ้นต่อไป
ข้อเสนอแนะจากการสำรวจสภาพความชารุดเสียหายของผิวถนน
ข้อมูลจากการสำรวจสภาพความชำรุดเสียหายของผิวถนนหากได้ข้อมูลที่ละเอียดเก็บทุกประเภทของความชำรุดเสียหายและทุกๆระยะทาง (Station) จะทำให้ข้อมูลในการสำรวจสามารถแบ่งแยกความเสียหายและเลือกเส้นทางที่เหมาะสมสาหรับการวางแผน ปรับปรุง ซ่อมแซม และจัดสรรงบประมาณได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้นในการประเมินสภาพความชำรุดเสียหายของผิวถนนเบื้องต้นและการประเมินสภาพความชำรุดเสียหายละเอียดควรดา เนินการเลือกเส้นทางที่มีระยะทางสั้นๆเพื่อทำความเข้าใจและปรับการให้คะแนนความชำรุดเสียหายเนื่องจากจะทำให้ประหยัดเวลาในการจัดทำการสำรวจข้อมูลเพื่อการวางแผนปรับปรุงซ่อมแซมและการจัดสรรงบประมาณได้เร็วขึ้น
4. การตรวจสอบแผงอิเล็กทรอนิกส์
งานวิจัยนี้ศึกษาการตรวจสอบในกระบวนการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ โดยพบว่ามีของเสียได้ถูกส่งไปยังลูกค้าจานวนมากของเสียที่พบมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์สามารถมองเห็นและตรวจพบได้ด้วยสายตา จากผลการวิเคราะห์ระบบการตรวจสอบเดิมพบว่าผลการตรวจสอบขาดความถูกต้องและการตรวจสอบซ้าให้ผลไม่เหมือนกัน พิจารณาได้จากค่าประสิทธิผลด้านไบอัสและประสิทธิผลด้านรีพีททะบิลิตี้มีค่าเท่ากับ 43 เปอร์เซ็นต์และ 47 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ ซึ่งไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 95 เปอร์เซ็นต์ จึงได้ทำการปรับปรุงระบบการตรวจสอบและประเมินผลพนักงานอีกครั้งค่าดัชนีความมีประสิทธิผลทั้งสองดัชนีเพิ่มขึ้นเป็น 97 เปอร์เซ็นต์ หลังจากวิธีการตรวจสอบที่พัฒนาแล้วได้ถูกนาว่าใช้และกำหนดเป็นมาตรฐาน แผนการสุ่มตัวอย่างจึงได้ถูกนามาใช้ในตอนท้ายของกระบวนการผลิต แผนการสุ่มตัวอย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นไปตามมาตรฐาน(AmericanNationalStandards Institute/AmericanSocietyofQualityControlZ1.4)แผนนี้ได้ให้ค่าขีดจากัดด้านคุณภาพของการตรวจสอบ(AverageOutgoing QualityLimit : AOQL) เป็น 0.0147 เปอร์เซ็นต์
กรณีศึกษานี้ต้องการระดับคุณภาพของลอตหลังการตรวจสอบที่ 0.005 เปอร์เซ็นต์ จึงได้นาเสนอการออกแบบใหม่ของแผนการสุ่มตัวอย่างที่มีค่าขีดจากัดด้านคุณภาพของการตรวจสอบที่ 0.005 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้มีการแสดงการเปรียบเทียบระหว่างประสิทธิภาพของแผนการสุ่มตัวอย่างด้วยเส้นโค้งปฏิบัติการแผนการสุ่มตัวอย่าง (OperatingCharacteristicCurve : OC curve) และค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ พบว่าเส้นโค้งปฏิบัติการแผนการสุ่มตัวอย่างที่นาเสนอให้ผลการตรวจสอบระหว่างลอตดีและลอตเสียที่ชัดเจนกว่าแผนการสุ่มตัวอย่างปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบลดลง 50 เปอร์เซ็นต์จากแผนการสุ่มตัวอย่างในปัจจุบัน