The recent trend in the luxury mark

The recent trend in the luxury market emphasizes the relationship between customer and the brand as co-creating the value (Payne et al., 2009). Tynan, McKechnie & Chhuon (2010) highlight the importance of this relationship and added to their luxury consumer value model. Choo et al. (2012) further discuss that the focal element of relationship marketing is to create interaction and connection with customers. Not only does consumer value occur during the point of purchase but also
28
for the whole brand life (Prahalad & Ramaswamy, 2004). Kemp (1998) noted that the requirement of customers being active is necessary for creating value as passive customers do not interact, resulting in no emergence and association of value for both brand and customers. Tynan, McKechnie & Chhuon (2010) supported that comprehending customer interaction is crucial for defining what luxury brands mean to them. This implies that consumers determine the value of a brand, thus luxury brand management prioritizes creating and bonding this relationship.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนวโน้มล่าสุดในตลาดหรูเน้นความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและตราสินค้าเป็นการร่วมสร้างมูลค่า (Payne et al., 2009) Tynan, McKechnie & Chhuon (2010) เน้นความสำคัญของความสัมพันธ์นี้ และเพิ่มความหรูหราผู้บริโภคมูลค่า ชู้ et al (2012) เพิ่มเติมอธิบายว่า องค์ประกอบโฟกัสของความสัมพันธ์ทางการตลาดคือการ สร้างการโต้ตอบและการเชื่อมต่อกับลูกค้า ไม่เพียงแต่ ค่าอุปโภคบริโภคเกิดขึ้นระหว่างจุดซื้อแต่
28
ชีวิตแบรนด์ทั้งหมด (Prahalad & Ramaswamy, 2004) Kemp (1998) กล่าวว่า ความต้องการของลูกค้าที่กำลังใช้งานอยู่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างมูลค่าลูกค้าแฝงโต้ตอบ ผลไม่เกิดขึ้นและความสัมพันธ์ของค่าทั้งแบรนด์และลูกค้า Tynan, McKechnie & Chhuon (2010) สนับสนุนที่ comprehending โต้ตอบลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกำหนดแบรนด์หรูที่หมายไป หมายความว่า ผู้บริโภคกำหนดมูลค่าของแบรนด์ จึง จัดการแบรนด์หรูจัดลำดับความสำคัญการสร้าง และการยึดติดความสัมพันธ์นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แนวโน้มล่าสุดในตลาดหรูที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ที่ร่วมสร้างมูลค่า (เพนและอัล. 2009) Tynan, McKechnie และ Chhuon (2010) เน้นความสำคัญของความสัมพันธ์นี้และเพิ่มความหรูหราแบบผู้บริโภคค่าของพวกเขา Choo ตอัล (2012) หารือเกี่ยวกับว่าองค์ประกอบที่สำคัญของการตลาดเชิงสัมพันธ์คือการสร้างปฏิสัมพันธ์และการเชื่อมต่อกับลูกค้า ไม่เพียง แต่ค่าของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นในระหว่างการจุดของการซื้อ แต่ยัง
 28
สำหรับชีวิตแบรนด์ทั้งหมด (Prahalad และ Ramaswamy, 2004) เคมพ์ (1998) ตั้งข้อสังเกตว่าความต้องการของลูกค้าที่มีการใช้งานเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างมูลค่าเป็นลูกค้าอยู่เฉยๆไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่มีผลในการเกิดและความสัมพันธ์ของค่าทั้งสองแบรนด์และลูกค้า Tynan, McKechnie และ Chhuon (2010) ได้รับการสนับสนุนที่การทำความเข้าใจการโต้ตอบของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกำหนดสิ่งที่แบรนด์หรูหมายถึงพวกเขา นี่ก็หมายความว่าผู้บริโภคในการกำหนดมูลค่าของแบรนด์ที่ทำให้การจัดการแบรนด์หรูจัดลำดับการสร้างและเชื่อมความสัมพันธ์นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนวโน้มล่าสุดในตลาดหรู เน้นความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์ที่ร่วมสร้างมูลค่า ( เพน et al . , 2009 ) ไทนัน , &เมิ่กเคกนี่ chhuon ( 2010 ) เน้นความสำคัญของความสัมพันธ์นี้และเพิ่มคุณค่าของรูปแบบหรูหราของพวกเขา ชู et al .( 2012 ) หารือเกี่ยวกับองค์ประกอบที่สำคัญของการตลาดเชิงสัมพันธ์คือการสร้างปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์กับลูกค้า ไม่เพียง แต่ค่าของผู้บริโภคเกิดขึ้นในจุดของการซื้อ แต่ยัง

28 สำหรับชีวิตแบรนด์ทั้งหมด ( เค พา ลัด& ramaswamy , 2004 ) เคมพ์ ( 1998 ) กล่าวว่า ความต้องการของลูกค้ามีการใช้งานที่จำเป็นสำหรับการสร้างมูลค่าลูกค้าเรื่อยๆ ไม่โต้ตอบส่งผลให้ไม่เกิดคุณค่าและความสัมพันธ์ของทั้งสองแบรนด์และลูกค้า ไทนัน , &เมิ่กเคกนี่ chhuon ( 2010 ) ได้รับการสนับสนุนที่พบปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกำหนดสิ่งที่แบรนด์หรูหมายถึงพวกเขา นี้แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคตรวจสอบค่าของแบรนด์ ดังนั้น การจัดการแบรนด์หรูจนสร้างและเชื่อมความสัมพันธ์นี้ .