The mechanism in cyanobacteria cell

The mechanism in cyanobacteria cells can increase PHB accumulation under nitrogen limitation (Balaji et al, 2012). The biochemical pathway of the PHB synthesis, cyanobacteria synthesize PHB by substrate as acetyl-CoA. Acetate will be chemically transformed into acetyl-CoA under presence of free CoA; as a result, acetyl-CoA can be transformed into PHB (Poirier 2002; Abed et al. 2009). However, supplying excess carbon can cause accumulation of PHB or by-product (i.e. fatty acid, glycogen). And nitrogen limitation is predicted to block amino acid synthesis in tricarboxylic acid cycle (TCA cycle), resulting in the increase of the substrate of PHB synthesis such as the nicotinamide adenine dinucleotide phosphate (NADPH). As a result, the PHB synthesis increases (Balaji et al, 2012). Thus, NADPH is likely to be response in enhanced PHB accumulation in nitrogen-limiting cells. For an effect of phosphorus limitation on PHB synthesis, it might involve in the increase allocation of carbon-type substrates to the PHB synthetic pathway but does not relate to the enzyme activities in PHB synthesis (Gonzalez-Fernandez and Ballesteros, 2012).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลไกในเซลล์ cyanobacteria สามารถเพิ่มสะสม PHB ภายใต้ข้อจำกัดของไนโตรเจน (บาลา et al, 2012) ทางเดินชีวเคมีของการสังเคราะห์ PHB, cyanobacteria สังเคราะห์ PHB โดยพื้นผิวเป็น acetyl-CoA Acetate จะมีสารเคมีเปลี่ยนเป็น acetyl-CoA ภายใต้สถานะของ CoA ฟรี ดังนั้น เปลี่ยน acetyl-CoA จะเป็น PHB (Poirier 2002 Abed et al. 2009) อย่างไรก็ตาม การขายคาร์บอนส่วนเกินสามารถทำให้สะสม PHB หรือผลพลอยได้ (เช่นกรดไขมัน ไกลโคเจน) และไนโตรเจนจำกัดคาดว่า จะบล็อกการสังเคราะห์กรดอะมิโนในวัฏจักรกรด tricarboxylic (วัฏจักร TCA), ที่เป็นผลในการเพิ่มขึ้นของพื้นผิวของการสังเคราะห์ PHB เช่นฟอสเฟต nicotinamide adenine dinucleotide (NADPH) ดัง สังเคราะห์ PHB เพิ่ม (บาลา et al, 2012) ดังนั้น NADPH เป็นแนวโน้มที่จะตอบสนองในขั้นสูงสะสม PHB ในไนโตรเจนจำกัดเซลล์ สำหรับผลของการสังเคราะห์ PHB จำกัดฟอสฟอรัส มันอาจเกี่ยวข้องกับในการปันส่วนการเพิ่มขึ้นของคาร์บอนชนิดพื้นผิวการทางเดินในการสังเคราะห์ PHB แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของเอนไซม์ในการสังเคราะห์ PHB (เฟอร์นานเด Gonzalez และ Ballesteros, 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลไกในเซลล์ไซยาโนแบคทีเรียสามารถเพิ่มการสะสมภายใต้ข้อ จำกัด PHB ไนโตรเจน (Balaji et al, 2012) วิถีทางชีวเคมีของการสังเคราะห์ PHB ที่ไซยาโนแบคทีเรียสังเคราะห์ PHB โดยพื้นผิวเป็น acetyl-CoA Acetate จะถูกเปลี่ยนสารเคมีเข้าไปใน acetyl-CoA ภายใต้การปรากฏตัวของ CoA ฟรี เป็นผลให้ acetyl-CoA สามารถเปลี่ยนเป็น PHB (Poirier 2002; เอ et al, 2009). อย่างไรก็ตามการจัดหาคาร์บอนส่วนเกินอาจทำให้เกิดการสะสมของ PHB หรือโดยผลิตภัณฑ์ (เช่นกรดไขมันไกลโคเจน) และข้อ จำกัด ไนโตรเจนเป็นที่คาดการณ์เพื่อป้องกันการสังเคราะห์กรดอะมิโนในวงจรกรด tricarboxylic (รอบ TCA) ที่มีผลในการเพิ่มขึ้นของพื้นผิวของการสังเคราะห์ PHB ที่เช่น Nicotinamide adenine dinucleotide ฟอสเฟต (NADPH) เป็นผลให้การเพิ่มขึ้นของการสังเคราะห์ PHB นี้ (Balaji et al, 2012) ดังนั้น NADPH มีแนวโน้มที่จะตอบสนองในการสะสม PHB เพิ่มไนโตรเจนในเซลล์ จำกัด สำหรับผลกระทบจากข้อ จำกัด ในการสังเคราะห์ฟอสฟอรัส PHB มันอาจเกี่ยวข้องในการจัดสรรเพิ่มขึ้นของพื้นผิวคาร์บอนชนิดเดินสังเคราะห์ PHB แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของเอนไซม์ในการสังเคราะห์ PHB (กอนซาเล-นันและบาเยสเตรอ 2012)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลไกในการฆ่าเซลล์สามารถเพิ่มการสะสม PHB ภายใต้ข้อจำกัดไนโตรเจน ( Balaji et al , 2012 ) ชีวเคมีของการสังเคราะห์พอลิ , สังเคราะห์ PHB โดยไซยาโนแบคทีเรียพื้นผิวเป็นอะ COA . อะซิเตตจะเคมีกลายเป็นอะ COA ภายใต้สถานะของสินค้าฟรี เป็นผลให้อาเซ COA สามารถเปลี่ยนเป็นไนโตรเจน ( poirier 2002 ; Abed et al . 2009 ) อย่างไรก็ตามขายคาร์บอนส่วนเกินอาจทำให้เกิดการสะสม PHB หรือผลพลอยได้ ( เช่นกรดไขมัน ไกลโคเจน ) และการจำกัดไนโตรเจนได้ปิดกั้นการสังเคราะห์กรดอะมิโนในวัฏจักรกรด tricarboxylic ( TCA Cycle ) , ผลในการเพิ่มขึ้นของพื้นผิวของ PHB สังเคราะห์เช่นปูใบ้ ( nadph ) ผล เพิ่มการสังเคราะห์พอลิ ( Balaji et al , 2012 ) ดังนั้นnadph มีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบสนองในการสะสมไนโตรเจนไนโตรเจน จำกัด เซลล์ สำหรับผลของฟอสฟอรัสต่อการสังเคราะห์พอลิจำกัด มันอาจเกี่ยวข้องกับการจัดสรรของคาร์บอนเพิ่มประเภทพื้นผิวเพื่อสังเคราะห์ PHB ทางเดิน แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเอนไซม์ในการสังเคราะห์พอลิ ( กอนซาเลซ เฟอร์นันเดซ และ Ballesteros , 2012 )