Pearson and Hutton (2002) completed

Pearson and Hutton (2002) completed a controlled trial that compared the ability of foam swabs and toothbrushes to remove dental plaque and to quantify any differences. They concluded that toothbrushing skills must be taught to nurses and clinical support staff. Schleder (2003) reviewed the pathogenesis of bacteria; identified risk factors, including colonization of the oropharynx; and recommended the following approaches:

Use good oral hygiene, including toothbrushing, on all patients.

Implement oral-hygiene assessments and intervention strategies for all patients at risk for developing VAP.

Decontaminate devices that come into contact with the respiratory tract.

Implement the hand-hygiene guidelines released by the CDC in 2003. The guidelines include decontaminating hands by washing them with antimicrobial soap and water or by using an alcohol-based, waterless antiseptic agent if hands are not visibly contaminated. In addition, gloves should be worn when handling respiratory secretions or objects contaminated with the respiratory secretions of any patient (Schleder, 2003; Tablan et al., 2004).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพียร์สันและฮัตตัน (2002) เสร็จสิ้นการทดลองควบคุมว่าเมื่อเทียบความสามารถของ swabs โฟมและแปรงสีฟันที่จะลบคราบฟันและปริมาณความแตกต่างใด ๆ พวกเขาสรุปว่าทักษะการแปรงฟันจะต้องสอนให้พยาบาลและพนักงานให้ความช่วยเหลือทางคลินิก Schleder (2003) การตรวจสอบการเกิดโรคของเชื้อแบคทีเรีย; ระบุปัจจัยเสี่ยงรวมถึงการตั้งรกรากของ oropharynx นั้น และแนะนำวิธีการต่อไปนี้: สุขอนามัยช่องปากที่ดีการใช้งานรวมถึงการแปรงฟันในผู้ป่วยทุกราย. ดำเนินการประเมินสุขอนามัยช่องปากและกลยุทธ์การแทรกแซงของผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการพัฒนา VAP. ปนเปื้อนอุปกรณ์ที่เข้ามาติดต่อกับทางเดินหายใจ. ดำเนินการด้วยมือ แนวทางสุขอนามัยที่ออกโดย CDC ในปี 2003 แนวทางการรวมมือ decontaminating พวกเขาโดยการล้างด้วยสบู่และน้ำยาต้านจุลชีพหรือโดยการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้ยาฆ่าเชื้อ waterless ถ้ามือไม่ได้ปนเปื้อนอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ถุงมือควรจะสวมใส่เมื่อจัดการสารคัดหลั่งหรือวัตถุปนเปื้อนกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วยใด ๆ (Schleder 2003. Tablan, et al, 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพียร์สัน และ ฮัตตัน ( 2545 ) ได้เสร็จสิ้นการทดลองควบคุมที่เปรียบเทียบความสามารถของลำตัวโฟมและแปรงสีฟันเพื่อลบคราบฟันและปริมาณความแตกต่างใด ๆ . พวกเขาสรุปว่าทักษะการแปรงฟันจะต้องสอนให้พยาบาลและเจ้าหน้าที่สนับสนุนทางคลินิก schleder ( 2003 ) ตรวจทานตรวจหาแบคทีเรีย ; ระบุปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ การล่าอาณานิคมของคอหอยส่วนปาก ;และแนะนำแนวทางดังนี้

ใช้อนามัยช่องปากที่ดี รวมถึงการแปรงฟันในผู้ป่วยทั้งหมด

ใช้การประเมินสุขภาพช่องปากและกลยุทธ์การแทรกแซงสำหรับผู้ป่วยทั้งหมดที่มีความเสี่ยงสำหรับการพัฒนาแว็ป

ขจัดสิ่งปนเปื้อนอุปกรณ์ที่เข้ามาติดต่อกับระบบทางเดินหายใจ

ใช้ทำความสะอาดมือแนวทางออกโดยกรมควบคุมโรคในปี 2003 .แนวทางรวมถึง decontaminating มือโดยซักด้วยสบู่และน้ำ โดยการใช้ยาต้านจุลชีพ หรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ waterless , ตัวแทนถ้ามือไม่เป็นตัวเป็นตน ปนเปื้อน นอกจากนี้ ควรสวมถุงมือเมื่อจัดการหลั่งระบบทางเดินหายใจหรือวัตถุปนเปื้อนกับหลั่งระบบทางเดินหายใจของผู้ป่วย ( schleder , 2003 ; tablan et al . , 2004 )