งานสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาพืชที่สามาถนำมาผลิตเอทาน การแปล - งานสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาพืชที่สามาถนำมาผลิตเอทาน ไทย วิธีการพูด

งานสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพ

งานสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาพืชที่สามาถนำมาผลิตเอทานอล กระบวนการผลิตและเทคโนโลยีในการผลิตเอทานอล สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศ
ที่มีวัตถุดิบที่ใช้ผลิตได้เอง ส่วนใหญ่มักจะใช้มันสำปะหลัง อ้อย และกากน้ำตาล เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต จากการศึกษากระบวนการผลิตเอทานอล และเทคโนโลยีขึ้นกับวัตถุดิบที่ใช้เมื่อคิดที่กำลังการผลิตเอทานอล 150,000 ลิตรต่อวัน ประกอบด้วย 1)ใช้มันสำปะหลัง ในการเตรียมวัตถุดิบจะต้องใช้ปริมาณ 350-370 ตัน/วัน จะต้องมีความชื้น 13-16% และต้องมีเชื้อแป้ง 65% (well basis) ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1,000 - 1,500 ตัน/วัน การเตรียมวัตถุดิบและการผสมน้ำจะต้องโม่ผสมน้ำร้อนให้ได้ความเข้มข้นประมาณ 17-18% Total Solid การย่อยแป้งเป็นน้ำตาลส่วนใหญ่ใช้ระบบการย่อยและการหมักแบบ โดยย่อย Liquefaction ด้วยเอนไซม์ (alfa-amylase) 95-100°C 2 ชั่วโมง และย่อยSaccharification ด้วย (Glucoamylase) 55 - 65 °C ใช้เวลา 24 ชั่วโมง การหมักใช้กระบวนการหมักแบบต่อเนื่อง โดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 90-91% (น้อยกว่ากากน้ำตาลเนื่องจากสูญเสียประสิทธิภาพในขั้นตอนการย่อยด้วย) การกลั่นและการทำให้บริสุทธิ์ใช้กระบวนการแบบ Dehydration 30- 32 °C ใช้เวลา 48 ชั่วโมง ประสิทธิภาพการกลั่นประมาณ 96.5%โดยใช้เทคนิคการซึมผ่าน Membrane ประสิทธิภาพการแยกสารละลายผสมผ่านเยื่อบางประมาณ 99.5 % ,มีน้ำกากส่าประมาณ 1,400-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีค่า TS 5-7% ค่า COD 40,000-60,000 mg/l และค่า BOD 15,000-35,000 mg/l น้ำเสีย 1,250-1,410 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีค่า TS 4-5% ค่า BOD 35,000 ppm และ COD 50,000 ppm 2) ใช้อ้อยและกากน้ำตาล
ในการเตรียมวัตถุดิบจะต้องใช้ปริมาณ 540-550 ตัน/วัน ต้องมีค่า Tota sugar 48-50% ,80°Brix ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1‚000-1‚300 ตัน/วัน การเตรียมวัตถุดิบและการผสมน้ำจะต้องการกำจัดสิ่งปนเปื้อน (Cadmium) ด้วย H2SO4 และแยกตะกอนออก (อาจไม่มีการทำในบางเทคโนโลยี)เจือจางความเข้มข้นประมาณ 25% จะไม่มีการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล การหมักใช้กระบวนการแบบแบบต่อเนื่อง โดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 92% การกลั่นและการทำให้บริสุทธิ์ใช้การกลั่นแบบ Dehydration อ้อย 32-35 °C ใช้เวลา16 ชั่วโมง กากน้ำตาล 32-35 °C ใช้เวลา 30 ชั่วโมง ประสิทธิภาพการกลั่นประมาณ 96.5% ใช้เทคนิคการซึมผ่าน Membrane ประสิทธิภาพการแยกสารละลายผสมผ่านเยื่อบางประมาณ 99.5 % น้ำกากส่าที่ได้ปริมาณ 1,000-1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีค่า TS 15% ค่า COD 100,000-150,000 mg/l ค่า BOD 40,000-70,000 mg/l นํ้าเสียที่ได้มีปริมาณ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีค่า 10-12% TS ค่า BOD 50,000 ppm ค่า COD 150,000 ppm ในประเทศไทยนิยมนำ มันสำปะหลัง อ้อยและกากน้ำตาล มาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอลซึ่งมีข้อดี – ข้อด้อย ดังนี้ 1) อ้อย /กากน้ำตาล ข้อดีคือ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนในการเตรียมก่อนการหมักเพราะเป็นวัตถุดิบประเภทน้ำตาลเพียงแต่ทำการเจือจางกากน้ำตาลด้วยน้ำให้มีความเข้มข้นที่เหมาะสมก็สามารถนำไปใช้ในการหมักด้วยยีสต์ได้ กากน้ำตาลมีต้นทุนในการผลิตต่ำ ข้อด้อยคือ ขั้นตอนการผลิตมีความซับซ้อนมากกว่าวัตถุดิบจากแป้งและนํ้าตาล การเกิดตะกรันในหอกลั่น ทำให้โรงงานต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อความความสะอาดบ่อยครั้ง น้ำกากส่าจากการกลั่นเอทานอลยังมีสีเข้ม ซึ่งยากแก่การกำจัดสีให้หมดไป เกิดปัญหาในการระบายน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 2) มันสำปะหลัง ข้อดีคือ สามารถลดพลังงานที่ใช้และต้นทุนการผลิตได้ถึง 50% ปล่อยนํ้าเสียที่ไม่มีสีเข้ม กากเหลือใช้จากมันสำปะหลังยังสามารถนำมาใช้ทำอาหารสัตว์ ข้อด้อยคือ มีการปล่อยน้ำเสีย นอกจากการผลิตจะได้เอทานอลเป็นวัตถุดิบหลักแล้วยังมีวัตถุดิบรอง ได้แก่ CO2 DDGS (Dry distillers grains with solubles) ฟลูเซลออยด์ ยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae) และก๊าซชีวภาพ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
งานสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาพืชที่สามาถนำมาผลิตเอทานอลกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีในการผลิตเอทานอลสำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศในการเตรียมวัตถุดิบจะต้องใช้ปริมาณใช้มันสำปะหลังที่มีวัตถุดิบที่ใช้ผลิตได้เองส่วนใหญ่มักจะใช้มันสำปะหลังอ้อยและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตจากการศึกษากระบวนการผลิตเอทานอลและเทคโนโลยีขึ้นกับวัตถุดิบที่ใช้เมื่อคิดที่กำลังการผลิตเอทานอล 150, 000 ลิตรต่อวันประกอบด้วย 1) 350-370 ตัน/วัน.จะต้องมีความชื้น 13-16% และต้องมีเชื้อแป้ง 65% (พื้นฐานดี) ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1000 1500 ตัน/วันการเตรียมวัตถุดิบและการผสมน้ำจะต้องโม่ผสมน้ำร้อนให้ได้ความเข้มข้นประมาณ 17-18% ของแข็งรวมการย่อยแป้งเป็นน้ำตาลส่วนใหญ่ใช้ระบบการย่อยและการหมักแบบโดยย่อย Liquefaction ด้วยเอนไซม์ (อัลฟ่า-amylase) 95-100° C 2 ชั่วโมง และย่อยSaccharification ด้วย (Glucoamylase) 55-65 ° C ใช้เวลา 24 ชั่วโมงการหมักใช้กระบวนการหมักแบบต่อเนื่องโดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 90-91% (น้อยกว่ากากน้ำตาลเนื่องจากสูญเสียประสิทธิภาพในขั้นตอนการย่อยด้วย) การกลั่นและการทำให้บริสุทธิ์ใช้กระบวนการแบบคายน้ำ 30 - 32 ° C ใช้เวลา 48 ชั่วโมงประสิทธิภาพการกลั่นประมาณ 96.5% โดยใช้เทคนิคการซึมผ่านเมมเบรนประสิทธิภาพการแยกสารละลายผสมผ่านเยื่อบางประมาณ 99.5% มีน้ำกากส่าประมาณ 1400 1600 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 5-7% ค่า COD 40000 60000 mg/l และค่า BOD 35000 15000 mg/l 1250 1,410 น้ำเสียลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 4-5% ค่า BOD 35000 ppm และ COD 50000 ppm 2) ใช้อ้อยและกากน้ำตาลในการเตรียมวัตถุดิบจะต้องใช้ปริมาณ 540-550 ตัน/วัน ต้องมีค่า Tota sugar 48-50% ,80°Brix ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1‚000-1‚300 ตัน/วัน การเตรียมวัตถุดิบและการผสมน้ำจะต้องการกำจัดสิ่งปนเปื้อน (Cadmium) ด้วย H2SO4 และแยกตะกอนออก (อาจไม่มีการทำในบางเทคโนโลยี)เจือจางความเข้มข้นประมาณ 25% จะไม่มีการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล การหมักใช้กระบวนการแบบแบบต่อเนื่อง โดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 92% การกลั่นและการทำให้บริสุทธิ์ใช้การกลั่นแบบ Dehydration อ้อย 32-35 °C ใช้เวลา16 ชั่วโมง กากน้ำตาล 32-35 °C ใช้เวลา 30 ชั่วโมง ประสิทธิภาพการกลั่นประมาณ 96.5% ใช้เทคนิคการซึมผ่าน Membrane ประสิทธิภาพการแยกสารละลายผสมผ่านเยื่อบางประมาณ 99.5 % น้ำกากส่าที่ได้ปริมาณ 1,000-1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีค่า TS 15% ค่า COD 100,000-150,000 mg/l ค่า BOD 40,000-70,000 mg/l นํ้าเสียที่ได้มีปริมาณ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีค่า 10-12% TS ค่า BOD 50,000 ppm ค่า COD 150,000 ppm ในประเทศไทยนิยมนำ มันสำปะหลัง อ้อยและกากน้ำตาล มาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอลซึ่งมีข้อดี – ข้อด้อย ดังนี้ 1) อ้อย /กากน้ำตาล ข้อดีคือ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนในการเตรียมก่อนการหมักเพราะเป็นวัตถุดิบประเภทน้ำตาลเพียงแต่ทำการเจือจางกากน้ำตาลด้วยน้ำให้มีความเข้มข้นที่เหมาะสมก็สามารถนำไปใช้ในการหมักด้วยยีสต์ได้ กากน้ำตาลมีต้นทุนในการผลิตต่ำ ข้อด้อยคือ ขั้นตอนการผลิตมีความซับซ้อนมากกว่าวัตถุดิบจากแป้งและนํ้าตาล การเกิดตะกรันในหอกลั่น ทำให้โรงงานต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อความความสะอาดบ่อยครั้ง น้ำกากส่าจากการกลั่นเอทานอลยังมีสีเข้ม ซึ่งยากแก่การกำจัดสีให้หมดไป เกิดปัญหาในการระบายน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 2) มันสำปะหลัง ข้อดีคือ สามารถลดพลังงานที่ใช้และต้นทุนการผลิตได้ถึง 50% ปล่อยนํ้าเสียที่ไม่มีสีเข้ม กากเหลือใช้จากมันสำปะหลังยังสามารถนำมาใช้ทำอาหารสัตว์ ข้อด้อยคือ มีการปล่อยน้ำเสีย นอกจากการผลิตจะได้เอทานอลเป็นวัตถุดิบหลักแล้วยังมีวัตถุดิบรอง ได้แก่ CO2 DDGS (Dry distillers grains with solubles) ฟลูเซลออยด์ ยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae) และก๊าซชีวภาพ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
สำหรับประเทศไทย
ส่วนใหญ่มักจะใช้มันสำปะหลังอ้อยและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตจากการศึกษากระบวนการผลิตเอทานอล 150,000 ลิตรต่อวันประกอบด้วย 1) ใช้มันสำปะหลัง 350-370 ตัน / วันจะต้องมีความชื้น 13-16% และต้องมีเชื้อแป้ง 65% (ดีพื้นฐาน) ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1,000 - 1,500 ตัน / วัน 17-18% รวมเป็นของแข็ง โดยย่อยเหลวด้วยเอนไซม์ (อัลฟ่าอะไมเลส) 95-100 องศาเซลเซียส 2 ชั่วโมงและย่อย saccharification ด้วย (glucoamylase) 55-65 องศาเซลเซียสใช้เวลา 24 ชั่วโมง โดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 90-91% การคายน้ำ 30- 32 องศาเซลเซียสใช้เวลา 48 ชั่วโมงประสิทธิภาพการกลั่นประมาณ 96.5% โดยใช้เทคนิคการซึมผ่านเมมเบรน 99.5% มีน้ำกากส่าประมาณ 1,400-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 5-7% ค่าซีโอดี 40,000-60,000 mg / l และค่าบีโอดี 15,000-35,000 mg / l น้ำเสีย 1,250-1,410 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 4-5% ค่า BOD 35,000 ppm และซีโอดี 50,000 ppm 2)
540-550 ตัน / วันต้องมีค่า Tota น้ำตาล 48-50%, 80 ° Brix ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1,000-1,300 ตัน / วัน (Cadmium) ด้วย H2SO4 และแยกตะกอนออก 25% จะไม่มีการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาล โดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 92% การคายน้ำอ้อย 32-35 องศาเซลเซียสใช้เวลา 16 ชั่วโมงกากน้ำตาล 32-35 องศาเซลเซียสใช้เวลา 30 ชั่วโมงประสิทธิภาพการกลั่นประมาณ 96.5% ใช้เทคนิคการซึมผ่านเมมเบรน 99.5% น้ำกากส่าที่ได้ปริมาณ 1,000-1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 15% ค่าซีโอดี 100,000-150,000 mg / l ค่า BOD 40,000-70,000 mg / l นํ้าเสียที่ได้มีปริมาณ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า 10 -12% ค่าบีโอดีทีเอส 50,000 ppm ค่าซีโอดี 150,000 ppm ในประเทศไทยนิยมนำมันสำปะหลังอ้อยและกากน้ำตาล - ข้อด้อยดังนี้ 1) อ้อย / กากน้ำตาลข้อดีคือ กากน้ำตาลมีต้นทุนในการผลิตต่ำข้อด้อยคือ การเกิดตะกรันในหอกลั่น ซึ่งยากแก่การกำจัดสีให้หมดไป 2) มันสำปะหลังข้อดีคือ 50% ปล่อยนํ้าเสียที่ไม่มีสีเข้ม ข้อด้อยคือมีการปล่อยน้ำเสีย ได้แก่ DDGS CO2 (สำหรับผิวแห้งธัญพืชกลั่นกับ solubles) ฟลูเซลออยด์ยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae) และก๊าซชีวภาพ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
งานสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาพืชที่สามาถนำมาผลิตเอทานอลกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีในการผลิตเอทานอลสำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศ
ที่มีวัตถุดิบที่ใช้ผลิตได้เองส่วนใหญ่มักจะใช้มันสำปะหลังอ้อยและกากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตจากการศึกษากระบวนการผลิตเอทานอลและเทคโนโลยีขึ้นกับวัตถุดิบที่ใช้เมื่อคิดที่กำลังการผลิตเอทานอล 150000 ลิตรต่อวันประกอบด้วย 1 ) ใช้มันสำปะหลังในการเตรียมวัตถุดิบจะต้องใช้ปริมาณ 350-370 ตัน / ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าจะต้องมีความชื้น 13-16 % และต้องมีเชื้อแป้ง 65% ( ดีพื้นฐาน ) ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1000 - 1500 ตัน / ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าการเตรียมวัตถุดิบและการผสมน้ำจะต้องโม่ผสมน้ำร้อนให้ได้ความเข้มข้นประมาณ 17-18 % ปริมาณของแข็งการย่อยแป้งเป็นน้ำตาลส่วนใหญ่ใช้ระบบการย่อยและการหมักแบบโดยย่อย , ด้วยเอนไซม์ ( อัลฟาอะไมเลส ) 95-100 องศา C 2 ชั่วโมงด้วย ( ม ) 55 - 65 ° C ใช้เวลา 24 ชั่วโมงการหมักใช้กระบวนการหมักแบบต่อเนื่องโดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 90-91 % ( น้อยกว่ากากน้ำตาลเนื่องจากสูญเสียประสิทธิภาพในขั้นตอนการย่อยด้วย )น้ำ 30 - 32 องศา C ใช้เวลา 48 ชั่วโมงประสิทธิภาพการกลั่นประมาณ 96 .5 % โดยใช้เทคนิคการซึมผ่านเยื่อประสิทธิภาพการแยกสารละลายผสมผ่านเยื่อบางประมาณ 99.5% มีน้ำกากส่าประมาณ 1400-1600 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 5-7% ค่า COD 40000-60000 mg / l และค่า BOD 15000-35000 mg / l 1250-1 น้ำเสีย ,410 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 4-5 % BOD COD ค่า 35000 ppm และ 50 , 000 ppm 2 ) ใช้อ้อยและกากน้ำตาล
ในการเตรียมวัตถุดิบจะต้องใช้ปริมาณ 540-550 ตัน / ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าต้องมีค่าคาโต้ น้ำตาล 48-50 %80 องศาบริกซ์ใช้น้ำในกระบวนการผลิต 1 ‚ 000-1 ‚ 300 ตัน / ได้รับเลือกตั้งผ่านกระบวนการประชาธิปไตยของพม่าการเตรียมวัตถุดิบและการผสมน้ำจะต้องการกำจัดสิ่งปนเปื้อน ( แคดเมียม ) ด้วยกรดซัลฟิวริกและแยกตะกอนออก ( อาจไม่มีการทำในบางเทคโนโลยี ) เจือจางความเข้มข้นประมาณ 25%การหมักใช้กระบวนการแบบแบบต่อเนื่องโดยใช้ยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ประสิทธิภาพการหมักประมาณ 92% การกลั่นและการทำให้บริสุทธิ์ใช้การกลั่นแบบ dehydration อ้อย 32-35 ° C ใช้เวลา 16 ชั่วโมงกากน้ำตาล 32-35 ° C ใช้เวลา 30 ชั่วโมง96 .5 % ใช้เทคนิคการซึมผ่านเยื่อประสิทธิภาพการแยกสารละลายผสมผ่านเยื่อบางประมาณ 99.5% น้ำกากส่าที่ได้ปริมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่า TS 15% ค่า COD 100000-150000 mg / l ค่า BOD 40000 บาท- 70 , 000 mg / l นํ้าเสียที่ได้มีปริมาณ 1600 ลูกบาศก์เมตรต่อวันมีค่าเก่า % ts ค่า bod 50000 ppm ค่า cod ศูนย์000 ppm ในประเทศไทยนิยมนำมันสำปะหลังอ้อยและกากน้ำตาลมาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอลซึ่งมีข้อดี–ข้อด้อยดังนี้ 1 ) อ้อย / กากน้ำตาลข้อดีคือกากน้ำตาลมีต้นทุนในการผลิตต่ำข้อด้อยคือขั้นตอนการผลิตมีความซับซ้อนมากกว่าวัตถุดิบจากแป้งและนํ้าตาลการเกิดตะกรันในหอกลั่นทำให้โรงงานต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อความความสะอาดบ่อยครั้งซึ่งยากแก่การกำจัดสีให้หมดไปเกิดปัญหาในการระบายน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ 2 ) มันสำปะหลังข้อดีคือสามารถลดพลังงานที่ใช้และต้นทุนการผลิตได้ถึง 50% ปล่อยนํ้าเสียที่ไม่มีสีเข้มข้อด้อยคือมีการปล่อยน้ำเสียนอกจากการผลิตจะได้เอทานอลเป็นวัตถุดิบหลักแล้วยังมีวัตถุดิบรองได้แก่ CO2 DDGs ( บริการการกลั่นธัญพืชกับ solubles ) ฟลูเซลออยด์ยีสต์ ( Saccharomyces cerevisiae ) และก๊าซชีวภาพ
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: