เรื่องราวมันเกิดขึ้น ในช่วงวันหยุดยาวของการปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวเราอยากจะหาเวลาพักผ่อนด้วยกัน ในสถานที่ที่มีบรรยากาศเย็นสบาย รอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ซึ่งครั้งนี้ครอบครัวฉันได้สรุปเลือก หาดเจ้าหลาว จังหวัดจันทบุรี ในการไปพักผ่อนหยอนใจ จึงได้เตรียมการจองที่พักล่วงหน้า ช่วยกันหาข้อมูลและ คิดว่าที่นี่แหละมันใช่ที่สุด สำหรับการไปเที่ยวพักผ่อน
เมื่อถึงวันเดินทางพวกเราออกเดินทางแวะซื้อของกินตามภาษานักท่องเที่ยว กว่าจะไปถึงโรงแรมก็ประมาณบ่ายๆ ประตูทางเข้าโรงแรม มีป้ายแจ้งว่าให้รับบัตร แต่ตอนมาถึงกลับไม่มีผู้รักษาความปลอดภัยเฝ้าที่ประตูทางเข้าเลย และเหล็กกั้นก็โดนเลื่อนออกไปด้านข้าง ทำให้สามารถขับเข้าได้เลย พวกเราจอดรถรออยู่สักพักไม่เห็นวี่แววเจ้าหน้าที่ จึงขับเข้ารีสอร์ทโดยไม่ต้องรับบัตร
(ในใจก็คิดนิดหน่อย ว่าเข้ามาได้เลยแบบนี้ จะมีป้ายรับบัตรเพื่ออะไร ในเมื่อบางคันได้รับ บางคันไม่ได้รับบัตร)
พ่อได้ขับรถมาจอดที่หน้าห้องพักที่ได้จองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราได้ช่วยกันขนสัมภาระจากในรถออกมาเก็บไว้ในที่พัก นั่งพักผ่อนกันเล็กน้อย ก่อนจะออกไปหาอาหารมื้อเย็น รับประทานกัน แต่พวกเราก็ไม่ได้ลืมเช็คความเรียบร้อยภายในบ้าน ปิดหน้าต่าง เลื่อนผ้าม่านที่ประตูมาปิดไว้ ล็อกประตูทางเข้าทั้ง 2 บาน บานนึงต้องล็อกจากภายในบ้าน และออกทางประตูที่ทางโรงแรมให้กุญแจไว้เพียง 1 ดอก
ฉันแอบสงสัยน่ะว่าทำไมโรงแรมให้กุญแจทั้งบ้านมาแค่ดอกเดียว ทั้งๆ ที่ข้างในมีห้องนอนแยกอีกตั้งหลายห้อง แต่ดันไม่มีกุญแจของแต่ละห้องให้ด้วย แต่พวกฉันก็ไม่ได้สงสัยอะไรมาก
พวกเราจึงขับรถออกไปร้านอาหารซึ่งไกลออกไปประมาณนึง ในที่สุดก็เจอร้านอาหารที่ตั้งใจมา นั่งกินข้าวเฮฮากันไป ตื่นตาตื่นใจกับอาหารทะเลแต่ละเมนูที่สั่งมา ขากลับแวะร้านสะดวกซื้อ หาซื้อขนมเล็กๆ น้อยๆ มากินเล่นและสังสรรค์กันต่อที่บ้านพักในเวลากลางคืน ด้วยความไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง จึงทำให้กลับถึงที่พักประมาณ 22.00 น.
แต่ความสุขจากกินอาหารทะเลแสนอร่อย กุ้ง ปู ตัวโตๆ ขนมถุงใหญ่ที่ไปซื้อมาเตรียมพร้อมสนุกกันต่อ ก็ต้องจบลงเมื่อกลับไปถึงบ้านพักแล้วพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น นั่นคือประตูหน้าที่พักยังปิดอยู่ แต่กลับไม่ได้ล็อคและม่านที่ปิดไว้ ถูกเปิดออกบางส่วนถึงจุดนี้ใจหล่นไปที่ตาตุ่ม คิดว่าคงเจอดีเข้าแล้ว
ฉันรีบเข้าห้องตัวเองเพื่อเข้าไปเช็คของที่ทิ้งไว้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพเป็นหลัก เพราะมันเป็นของที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ปรากฏว่ามันยังอยู่ จึงทำให้ฉันโล่งใจขึ้นมาก
แต่ฉันก็เริ่มแปลกใจว่ากระเป๋าเสื้อผ้าของฉันมันหายไปไหน ก็เริ่มตรวจสอบใหม่ และเมื่อเห็นสีหน้าของคนในครอบครัวของฉัน อีกหลายคน ก็เริ่มเข้าใจตรงกันว่าทรัพย์สินมากมายหลายรายการ ที่นำมาเก็บไว้ก่อนออกไปกินข้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็น โน๊ตบุ๊ค กล้องถ่ายรูป อุปกรณ์ต่างๆ และสิ่งของอื่นๆ รวมมูลค่าหลายบาท ตอนนี้ได้หายไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อพอจะตั้งสติได้ พ่อของฉันก็รีบแจ้งไปยังรีสอร์ทและติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการแจ้งความ
เมื่อไปสอบถามและเดินสำรวจสิ่งต่างๆ ในรีสอร์ท ก็พบว่า
ทางเข้า ทางออก ที่เหมือนจะมีการรักษาความปลอดภัย ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติที่จริงจัง ตัวอย่างเช่น การให้รับบัตรที่ประตูทางเข้ารีสอร์ท
แม่ของฉันเลยลองถามผู้จัดการว่า ตอนที่เรามาทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่เลย ผู้จัดการตอบว่า "สงสัยไปเข้าห้องน้ำพอดี"
เมื่อเดินไปสำรวจรอบๆ รีสอร์ท พบว่ามีทางออกอีกด้านด้วย!! แต่ไม่ใช่ทางออกธรรมดานะครับ แต่เป็นช่องทางออกที่เปิดกว้าง ไม่มีการตรวจเช็คการเข้าออกใดๆ และสามารถผ่าออกไปยังถนนได้เลย
หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ขอดูกล้องวงจรปิด กล้องบริเวณหน้าบ้านพักเรานั้น ไม่มีเนื่องจากซ่อมบำรุงอยู่ ส่วนกล้องมุมอื่นๆ ที่มีก็คุณภาพของภาพแย่มาก แทบจะไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย
ถึงตอนนี้ความเชื่อมั่นในความปลอดภัยไม่เหลือแล้วค่ะ
เมื่อพ่อของฉันดำเนินการเรื่องที่เกิดขึ้นเสร็จเรีบยร้อย พวกเราจึงไม่คิดที่จะอยู่ต่อ พวกเราจึงได้เก็บของและเดินทางกลับบ้านทันที ระหว่างทางกลับบ้าน เราก็ได้แวะกินข้าวที่ร้านอาหารร้านหนึ่งที่อยู่ข้างทาง เมื่อครอบครัวของเราเดินเข้าไปที่โต๊ะและก็สั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อย ระหว่างที่เรากำลังนั่งคุยและชมบรรยากาศกันอย่าเพลิดเพลิน พนักงานเสริฟก็เดินถืออาหารตรงเข้ามาที่ฉัน ทันใดนั้นเค้าก็สะดุดขาเก้าอี้หกล้ม และทำให้ถาดอาหารที่อยู่ในมือเค้า ซึ่งในถาดนั้นมีน้ำซุปร้อนๆวางอยู่ ทำให้น้ำซุปถ้วยนั้น ลาดลงมาที่หลังของฉัน
ฉันร้องกรี้ดดังมากเพราะด้วยความตกใจและความร้อนของน้ำซุปนั้น หลังของฉันได้พองและมีบาดแผลจากอุบัติเหตุในครั้งนี้อย่าไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น ฉันคิดในใจว่าวันนี้มันเป็นวันโชคร้ายอะไรของเค้าเนี่ย พึ่งเจอเหตุคนขโมยของมายังต้องมาเจอน้ำร้อนลวกอีก
เมื่อทุกคนรับประทานข้าวและฉันก็ได้ทำแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราจึงได้ออกเดินทางต่อ ระหว่างทางฉันกำลังจะเอาแบตสำรองขึ้นมาชาร์ต แต่พอหาในกระเป๋าทุกกระเป๋าแล้วก็ไม่เจอ ฉันนั่งคิดไปคิดมา แล้วฉันก็คิดออกว่าเอ๋อ ฉันลืมมันไว้ที่รีสอร์ท ฉันอยากจะร้องให้ฉันเสียใจมากเพราะมันมีราคาค่อนข้างสูง ประสบการณ์ครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับฉันและครอบครัวของฉัน เป็นอย่างมาก ทำให้ความรู้สึกสนุกสนาน มีความสุข ที่เกิดขึ้นในการมาเที่ยวในครั้งนี้ ได้หายไปหมด กลายเป็นความกังวลและตกใจ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไปเที่ยวในครั้งนี้จึงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีที่ฉันจะไม่มีวันลืม