One emulates, or seeks a close spir

One emulates, or seeks a close spiritual relationship with, the Buddhist deity or magical guru in these rituals. In Tibetan tradition, Buddhist spiritual leaders and teachers are called “lamas.”

The goal of the Vajrayana practitioner, as in Mahayana, is to become a bodhisattva.

That means that one seeks enlightenment, but postpones final nirvana so as to stay in the world of samsara and help others reach nirvana first.

This is of course different from Theravada, where one aspires to be an arhat (one who attains enlightenment and then never comes back to samsara).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่ง emulates หรือหาความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณที่ใกล้กับ พระพุทธศาสนาหรือกูรูขลังในพิธีกรรมเหล่านี้ ในประเพณีทิเบต ครูและผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวพุทธเรียกว่า "lamas"เป้าหมายของผู้ประกอบการวัชรยาน ในมหายาน เป็น พระโพธิสัตว์ได้ ที่หมาย ถึง หนึ่งมุ่งตรัสรู้ postpones เนอวานาสุดท้ายเพื่ออยู่ในโลกของ samsara และช่วยให้ผู้อื่นเข้าถึงนิพพานก่อนนี้เป็นหลักสูตรที่แตกต่างจากเถรวาท ที่หนึ่งเป็นพระอรหันต์ (ใคร attains ตรัสรู้แล้ว ไม่เคยกลับมาเพื่อ samsara) จะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งจำลองหรือแสวงหาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจิตวิญญาณเทพพุทธหรือกูรูที่มีมนต์ขลังในพิธีกรรมเหล่านี้ ในประเพณีทิเบตผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวพุทธและครูที่เรียกว่า "ส." เป้าหมายของผู้ประกอบการวัชรยานเช่นเดียวกับในมหายานคือการเป็นพระโพธิสัตว์ได้. นั่นหมายความว่าหนึ่งพยายามที่ตรัสรู้ แต่เลื่อนนิพพานสุดท้ายเพื่อที่จะอยู่ในโลก ของสังสารวัฏและช่วยให้คนอื่นเข้าถึงนิพพานครั้งแรก. นี้เป็นหลักสูตรที่แตกต่างจากเถรวาทที่หนึ่งปรารถนาที่จะเป็นอรหันต์ (คนที่บรรลุการตรัสรู้แล้วไม่เคยกลับมาสังสารวัฏ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่ง emulates หรือพยายามใกล้ชิดจิตวิญญาณความสัมพันธ์กับ เทพพุทธหรือกูรูขลังในพิธีกรรมเหล่านี้ ในประเพณีของชาวทิเบตพุทธจิตวิญญาณผู้นำ และครู จะเรียกว่า " ลามะ "

เป้าหมายของวัชรยาน ) เป็นมหายาน คือเป็นพระโพธิสัตว์

หมายความว่าหนึ่งแสวงหาธรรมแต่ postpones นิพพานสุดท้ายเพื่อที่จะอยู่ในโลกของสังสารวัฏ และช่วยให้ผู้อื่นเข้าถึงนิพพานก่อน

นี้แน่นอนแตกต่างจากฝ่ายเถรวาทที่ปรารถนาเป็นพระอรหันต์ ( ผู้ได้ตรัสรู้แล้วไม่เคยกลับมา







สังสารวัฏ )