Document (Attached file)Field Marsh

Document (Attached file)
Field Marshal Plaek Phibunsongkhram was one of the leaders of the 1932 revolution that ended absolute monarchy in Siam. He later went on to rule the country as prime minister and then dictator from 1938–1944, and 1948–1957. During this time, there were many initiatives to increase Thai nationalism and improve (in his opinion) the culture of the country. The Wikipedia article about Plaek Phibunsongkhram states that during his rule
“a series of Cultural Mandates were issued by the government. These mandates encouraged that all Thais were to salute the flag in public places, know the new national anthem, and use the Thai language, not regional dialects. People were encouraged to adopt western attire, as opposed to the traditional dress of Thai men and women. Similarly, people were encouraged to eat with a fork and spoon, rather than their traditional hands. In Phibunsongkhram’s perspective, these policies were necessary for Thailand to change the minds of foreigners that Thailand was an undeveloped and barbaric country. In the interest in progressivism, Thailand needed to be recognized by foreigners as a civilized and modernized country.
In 1939, Phibunsongkhram changed the country's name from Siam to Thailand. In 1941, in the midst of World War II, he decreed January 1 the official start of the new year instead of the traditional April 13.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอกสาร (ไฟล์แนบ)จอมพลแปลกพิบูลสงครามเป็นหนึ่งในผู้นำการปฏิวัติปี 1932 ที่สิ้นสุดสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสยาม เขาในภายหลังก็จะปกครองประเทศเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเผด็จการ จาก 1938 – 1944, 1948-1957 ในช่วงเวลานี้ มีโครงการมากมายเพื่อเพิ่มชาตินิยมไทย และปรับปรุง (ในความคิดของเขา) วัฒนธรรมของประเทศ บทความวิกิพีเดียเกี่ยวกับพิบูลสงครามระบุว่า ระหว่างกฎของเขา"ชุดของวัฒนธรรมเอกสารที่ออก โดยรัฐบาล เอกสารเหล่านี้ส่งเสริมให้คนไทยทุกคนได้ทักทายธงชาติในสถานสาธารณะ รู้ว่าเพลงชาติใหม่ และใช้ภาษาไทย ภาษาภูมิภาคไม่ คนให้นำการแต่งกายตะวันตก ตรงข้ามกับการแต่งกายแบบดั้งเดิมของผู้ชายไทยและผู้หญิงได้ ในทำนองเดียวกัน คนถูกให้กิน ด้วยส้อม และช้อน มากกว่ามือแบบดั้งเดิมของพวกเขา นโยบายเหล่านี้ก็ไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทยการเปลี่ยนแปลงจิตใจของชาวต่างชาติว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ป่าเถื่อน และ undeveloped ในมุมมองของ Phibunsongkhram ในสนใจใน progressivism ไทยต้องรับรู้ โดยชาวต่างชาติเป็นประเทศอารย และทันสมัยในปีพ.ศ. 2482, Phibunsongkhram เปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามประเทศไทย 1941 ท่ามกลางสงครามโลก เขา decreed วันที่ 1 มกราคมปีใหม่แทนเดิม 13 เมษายนเริ่มอย่างเป็นทางการ"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เอกสาร (ไฟล์แนบ)
จอมพลแปลกพิบูลสงครามเป็นหนึ่งในผู้นำของการปฏิวัติ 1932 ที่สิ้นสุดการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสยาม หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่ปกครองประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรีแล้วเผด็จการ from 1938-1944 และ 1948-1957 ในช่วงเวลานี้มีความคิดริเริ่มที่จะเพิ่มหลายชาตินิยมไทยและปรับปรุง (ในความคิดของเขา) วัฒนธรรมของประเทศ บทความเกี่ยวกับวิกิพีเดียแปลกพิบูลสงครามกล่าวว่าในช่วงการปกครองของเขา
"ชุดวัฒนธรรมเอกสารที่ออกโดยรัฐบาล เอกสารเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนที่คนไทยทุกคนที่จะแสดงความยินดีธงในสถานที่สาธารณะรู้ว่าเพลงชาติใหม่และใช้ภาษาไทยไม่ได้ภาษาในระดับภูมิภาค คนได้รับการสนับสนุนที่จะนำเครื่องแต่งกายตะวันตกเมื่อเทียบกับการแต่งกายแบบดั้งเดิมของชายไทยและหญิง ในทำนองเดียวกันคนที่ได้รับการสนับสนุนที่จะกินด้วยส้อมและช้อนมากกว่ามือแบบดั้งเดิมของพวกเขา ในมุมมองของพิบูลสงคราม, นโยบายเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับประเทศไทยที่จะเปลี่ยนความคิดของชาวต่างชาติว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ได้รับการพัฒนาและป่าเถื่อน อยู่ในความสนใจใน progressivism ประเทศไทยจำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากชาวต่างชาติที่เป็นประเทศที่เจริญและทันสมัย.
ในปี 1939, พิบูลสงครามเปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามประเทศไทย ในปี 1941 ในท่ามกลางของสงครามโลกครั้งที่สองที่เขากำหนด 1 มกราคมเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของปีใหม่แทนแบบดั้งเดิม 13 เมษายน "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เอกสาร ( ไฟล์แนบ )
จอมพล แปลก พิบูลสงคราม เป็นหนึ่งในผู้นำของการปฏิวัติ 2475 ที่สิ้นสุดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสยาม หลังจากนั้นเขาก็จะปกครองประเทศได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เผด็จการจาก 2481 - 2487 และ 1948 – 1957 . ระหว่างนี้ มีหลายโครงการที่จะเพิ่มไทยชาตินิยม และปรับปรุง ( ในความคิดของเขา ) วัฒนธรรมของประเทศวิกิพีเดียบทความเรื่องแปลก พิบูลสงคราม ระบุว่า ในระหว่างที่เขาปกครอง
" ชุดของเอกสารทางวัฒนธรรมที่ออกโดยรัฐบาล เอกสารเหล่านี้ให้คนไทยทุกคนได้แสดงความเคารพธงในที่สาธารณะว่าเพลงชาติใหม่ และใช้ภาษาไทย ไม่ใช่ภาษาภูมิภาค คนสนับสนุนอุปการะเครื่องแต่งกายตะวันตกตรงข้ามกับเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมของคนไทย และผู้หญิง ในทำนองเดียวกัน คนสนับสนุนให้กินด้วยส้อมและช้อนมากกว่ามือแบบดั้งเดิมของพวกเขา ใน phibunsongkhram มองว่า นโยบายเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับประเทศไทยที่จะเปลี่ยนจิตใจของชาวต่างชาติที่ประเทศไทยเป็นแกน และป่าเถื่อน ประเทศ สนใจ Progressivism ใน ,ประเทศไทยต้องการที่จะได้รับการยอมรับโดยชาวต่างชาติเป็นอารยะ และ modernized ประเทศ .
ใน 1939 , phibunsongkhram เปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามเป็นไทย ในปี 1941 ในท่ามกลางของสงครามโลกครั้งที่สอง เขาจึงเริ่มต้นอย่างเป็นทางการวันที่ 1 มกราคมของปีใหม่แทนแบบดั้งเดิมวันที่ 13 เมษายน "
.