Fiji is fighting a campaign to save

Fiji is fighting a campaign to save sea turtles from becoming the dinners of Pacific islanders as environmentalists warn the animals are threatened with extinction.
The pacific island nation this week called for funds from international agencies, foreign embassies and businesses to fund a program to protect the endangered sea turtles.
Fiji has already banned the eating of turtle meat during 1995, declared year of the Turtles by the South Pacific Regional Environmental Program which is fighting to save them.
Program director Don Stewart this week called on Fiji to extend its moratorium, warning that the South Pacific turtle species-the green, Hawksbill, leatherback, loggerhead and flatback turtles- were endangered.
“Due to the increase in human population within the PacificIsland, coastal people are hunting more turtles to sell or feed their family, causing a decrease in numbers ,”he said.
“This could soon lead to extinction of some turtle populations.”
The dangers to sea turtle populations might not become apparent for 20 to 50 years, the time it took for turtles to become adults and for females to start laying eggs, Stewart cautioned.
Signs of the damage to turtles, which often travel long distances to lay their eggs on the beaches of their birth, are already evident in areas of the Pacific.
In Australia, the number of nesting loggerhead turtles, which grow to about a meters in length, has dropped an estimated 50 to 80 per cent in the past decade.
In Fiji, a 1994 report found no nesting loggerhead turtles in some sites and sharply reduced numbers of females in others. The population of loggerhead turtles in Fiji was estimated at 100.
Stewart’s organization reckoned there were only 3,000 to5,000 female green turtles breeding each year throughout the Pacific, 500 to 1,000 female hawksbills and only a few hundred leatherbacks.
Sea turtles are valued throughout the region and are often used in traditional ceremonies. Their flesh is eaten, skin used to make leather products, oils used in cosmetics and the shells into jewellery.
Now Fiji is seeking to protect the surviving population.
Aside from the hunting moratorium, the island nation has established a turtle hatchery on an uninhabited island with the capacity to raise up 1,000 babies a season for release after a year of care.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟิจิกำลังต่อสู้รณรงค์เพื่อบัน​​ทึกเต่าทะเลให้กลายเป็นอาหารของชาวเกาะแปซิฟิกเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนสัตว์ถูกคุกคามด้วยการสูญเสีย.
ประเทศเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกสัปดาห์เรียกเงินจากหน่วยงานระหว่างประเทศ, สถานทูตต่างประเทศและธุรกิจนี้กองทุนเพื่อการโปรแกรมที่จะปกป้อง เต่าทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์.
ฟิจิได้ห้ามแล้วการกินเนื้อเต่าในช่วงปี 1995 ประกาศปีของเต่าโดยโปรแกรมแปซิฟิกใต้สิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาคท​​ี่มีการต่อสู้เพื่อช่วยพวกเขา.
ผู้อำนวยการโครงการดอนสจ๊วตสัปดาห์เรียกฟิจิเพื่อขยายการประกาศพักชำระหนี้ของตนนี้เตือนว่าใต้ เต่าแปซิฟิกสายพันธุ์คนโง่สีเขียวกระ leatherback และ flatback เต่าถูกใกล้สูญพันธุ์.
"เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ภายใน pacificisland คนชายฝั่งล่าเต่าทะเลมากขึ้นในการขายหรือเลี้ยงครอบครัวของพวกเขาก่อให้เกิดการลดลงของตัวเลข" เขากล่าว.
"เร็ว ๆ นี้อาจนำไปสู่​​การสูญเสียของบางประชากรเต่า."
อันตรายไปในทะเลประชากรเต่าไม่อาจจะกลายเป็นที่เห็นได้ชัดสำหรับ 20 ถึง 50 ปีเวลาที่ใช้สำหรับเต่าทะเลที่จะกลายเป็นผู้ใหญ่และสำหรับสตรีที่จะเริ่มวางไข่สจ๊วตเตือน. สัญญาณ
จากความเสียหายให้กับเต่าซึ่งมักจะเดินทางไกลไปวางไข่บนหาดทรายที่เกิดของพวกเขาที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ที่เห็นได้ชัดจาก แปซิฟิก.
ในออสเตรเลียจำนวนของเต่าคนโง่ทำรังซึ่งเติบโตถึงประมาณเมตรยาว,ได้ลดลงประมาณ 50 ถ​​ึง 80 เปอร์เซ็นต์ในทศวรรษที่ผ่านมา.
ในฟิจิ, 1994 รายงานพบเต่าคนโง่ไม่มีการทำรังในบางเว็บไซต์และตัวเลขลดลงอย่างรวดเร็วของเพศหญิงในคนอื่น ๆ จำนวนประชากรของเต่าคนโง่ในฟิจิอยู่ที่ประมาณ 100.
องค์กรของสจ๊วตคาดคิดมีเพียง 3,000 to5, 000 เต่าเขียวหญิงผสมพันธุ์แต่ละปีตลอดแปซิฟิก, 500-1,000 hawksbills หญิงและเพียงไม่กี่ร้อย leatherbacks.
เต่าทะเลมีมูลค่าทั่วทั้งภูมิภาคและมักจะใช้ในพิธีแบบดั้งเดิม เนื้อของพวกเขาจะกินผิวหนังใช้ในการทำผลิตภัณฑ์เครื่องหนังน้ำมันที่ใช้ในเครื่องสำอางและเปลือกหอยเป็นเครื่องประดับ.
ฟิจิขณะนี้คือการแสวงหาเพื่อปกป้องประชากรที่รอดตาย.
นอกเหนือจากการประกาศพักชำระหนี้การล่าสัตว์,เกาะแห่งชาติได้จัดตั้งโรงเพาะฟักเต่าบนเกาะห่างไกลผู้คนที่มีความจุเพิ่มขึ้น 1,000 ทารกในฤดูกาลสำหรับการเปิดตัวหลังจากปีของการดูแล.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟิจิจะต่อสู้จะบันทึกเต่าจากการเป็น อาหารเย็นของชาวแปซิฟิกเป็น environmentalists เตือนสัตว์ถูกคุกคาม ด้วยดับ
ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกสัปดาห์นี้เรียกเงินจากหน่วยงานต่างประเทศ สถานฑูตต่างประเทศ และธุรกิจการเงินโปรแกรมป้องกันเต่าทะเลใกล้สูญพันธุ์
ฟิจิมีห้ามกินเนื้อเต่าระหว่าง 1995 แล้วประกาศปีเต่าใต้แปซิฟิกภูมิภาคสิ่งแวดล้อมโปรแกรมซึ่งต่อสู้เพื่อบันทึก
สจ๊วตดอนกรรมการโปรแกรมสัปดาห์นี้เรียกในฟิจิเพื่อขยายเป็นการชั่วคราว คำเตือนที่ แปซิฟิกใต้เต่าพันธุ์เขียว พบ มะเฟือง หัวค้อน และ flatback เต่า - ถูกทำ
"เนื่องจากการเพิ่มประชากรมนุษย์ภายใน PacificIsland การ คนชายฝั่งมีล่าเต่ามากกว่า ไปขายเลี้ยงครอบครัวของพวกเขา ทำให้เกิดการลดตัวเลข เขากล่าวว่า .
"นี้เร็ว ๆ นี้อาจจะสูญพันธุ์ของประชากรบางเต่าได้"
อันตรายเพื่อประชากรเต่าทะเลไม่อาจชัดเจน 20-50 ปี เวลาจะเอาเต่าเป็น ผู้ใหญ่ และหญิงจะเริ่มวางไข่ สจ๊วตเตือน.
ของเต่า ซึ่งมักจะเดินทางระยะไกลไปวางไข่บนชายหาดเกิด ความเสียหายอยู่เห็นได้ชัดในพื้นที่ของแปซิฟิก
ในออสเตรเลีย จำนวนซ้อนหัวค้อนเต่า ซึ่งเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเมตรในความยาว, ได้ลดลงเป็นประมาณ 50-80 ร้อยในอดีตทศวรรษ.
ในฟิจิ 1994 รายงานพบเต่าหัวค้อนไม่ซ้อนในบางเว็บไซต์ และหมายเลขของฉันอื่นที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ประชากรของเต่าหัวค้อนในฟิจิได้ประมาณ 100.
องค์กรของสจ๊วต reckoned มีเฉพาะ to5 3000, 000 หญิงเขียวเต่าพันธุ์แต่ละปีทั่วแปซิฟิก 500 ต่อ 1หญิง hawksbills 000 กเพียงไม่กี่ร้อย leatherbacks
เต่าบริษัททั่วภูมิภาค และมักจะใช้ในพิธีแบบดั้งเดิม กินเนื้อของพวกเขา ผิวที่ใช้ในการทำผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง น้ำมันที่ใช้ในเครื่องสำอางและเปลือกหอยเป็นเครื่องประดับ
ฟิจิตอนนี้กำลังป้องกันรอดตายประชากร.
นอกจากชั่วคราวล่าสัตว์ ประเทศไอซ์แลนด์ได้ก่อตั้งเป็นโรงเพาะเต่าบนเกาะยังมีกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้น 1000 ทารกมีฤดูกาลสำหรับรุ่นหลังจากปีของการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟิจิคือการต่อสู้กับแคมเปญที่จะบันทึกเต่าทะเลจากการเป็นอาหารมื้อค่ำของชาวเกาะแปซิฟิกและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนสัตว์ที่ถูกคุกคามด้วยการสูญพันธุ์.
ประเทศเกาะแปซิฟิกที่สัปดาห์นี้เรียกว่าสำหรับเงินทุนจากต่างประเทศและธุรกิจสถานฑูตต่างประเทศเป็นเงินทุนโปรแกรมที่จะปกป้องเต่าทะเลสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ที่.
ฟิจิได้ประกาศห้ามให้การรับประทานอาหารของเต่าเนื้อในระหว่างปี 1995 ,ประกาศปีของเต่าโดยทางตอนใต้มหาสมุทรแปซิฟิกในระดับ ภูมิภาค เพื่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นการต่อสู้เพื่อบันทึก.
โครงการดอน—ไบลีย์อลันสจ๊วต, City of อาทิตย์ที่จะถึงนี้เรียกว่าในฟิจิประกาศพักชำระหนี้เพื่อการขยายของ,การเตือนที่ South Pacific เต่าชนิดที่สีเขียว,กระ,หุ้มหนัง, loggerhead และ flatback เต่า - เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์.
"เนื่องจากมีการเพิ่มขึ้นของประชากรมนุษย์ใน pacificisland ที่ผู้คนแถบชายฝั่งทะเลมีการล่าเต่ามากขึ้นในการขายหรืออาหารในแบบครอบครัวของเขาทำให้ลดลงในหมายเลข"เขากล่าว.
"แห่งนี้ไม่สามารถนำไปสู่การสูญพันธุ์ของประชากรเต่าบางส่วนในเร็วๆนี้."สัญลักษณ์
อันตรายที่จะประชากรเต่าทะเลอาจไม่ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ใช้บริการ 20 ถึง 50 ปีเวลาที่เอาเต่าเป็นผู้ใหญ่และสำหรับเพศหญิงจะเริ่มวางไข่—ไบลีย์อลันสจ๊วต, City of จุดมุ่งหมาย.
สัญญาณของความเสียหายที่เกิดกับเต่าที่มักจะเดินทางระยะไกลในการวางไข่ของพวกเขาบนชายหาดที่เกิดมามีหลักฐานอยู่แล้วในพื้นที่ของมหาสมุทรแปซิฟิก.
ในประเทศออสเตรเลียจำนวนของเต่า loggerhead ซ้อนซึ่งขยายตัวถึงเมตรในความยาวมีแนวโน้มปรับตัวลดลงโดยประมาณ 50 ถึง 80% ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแต่ที่.
ในฟิจิ 1994 รายงานที่พบไม่มีเต่า loggerhead ซ้อนในเว็บไซต์บางแห่งลดลงอย่างรวดเร็วและหมายเลขของหญิงในคนอื่น ประชากรของเต่า loggerhead ในฟิจิได้รับการประเมินอยู่ที่องค์กรของ—ไบลีย์อลันสจ๊วต, City of 100 .
เหมือนกันมีเพียง 3 , 000 เพื่อ 5,000 เต่าสีเขียวตัวเมียผสมพันธุ์แต่ละปีตลอดทั่วทั้งพื้นที่แปซิฟิกที่ 500 ถึง 1000 hawksbills ผู้หญิงและมีเพียงไม่กี่ร้อย leatherbacks .เต่า
ทะเลมีความสำคัญกับคุณในฐานะตลอดทั่วทั้งพื้นที่และมีการใช้ในงานพิธีแบบดั้งเดิมอยู่บ่อยครั้ง เนื้อของมันคือกินผิวใช้เพื่อทำให้น้ำมันจาก ผลิตภัณฑ์ เครื่องหนังใช้ในเครื่องสำอางและฝาครอบเข้ากับเครื่องประดับ.
ตอนนี้ประเทศฟิจิกำลังมองหาในการคุ้มครองประชากรที่ยังคงหลงเหลืออยู่.
ออกจากประกาศพักชำระหนี้เพื่อการล่าสัตว์ที่ประเทศเกาะแห่งนี้มีสถานที่ฟักตัวเต่าที่สร้างขึ้นบนเกาะที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยที่พร้อมด้วยความสามารถในการเพิ่มขึ้น 1 , 000 ลูกปรุงรสที่สำหรับการปล่อยหลังจากปีที่มีการดูแล.