. Most notably, and inscience even

. Most notably, and in
science even more than in some other school subjects, achievement tests are topic and course-specific, and the majority of
studies use achievement measures specifically constructed for the task at hand. As a consequence, the quality of instruments
is hard to assess, and in many studies, the experimenter-made measures are more aligned with the content taught in the
experimental condition than with the content in the control condition (e.g., inquiry skills are needed on the test, or the
questions are posed in context-rich format). On the other hand, one may argue with some ground that standardized tests are
often more aligned with the outcomes of the traditional curriculum. Slavin and Madden (2011), focusing on mathematics and
reading studies reviewed in the U.S. Department of Education's WhatWorks Clearinghouse (WWC), found that measures that
are “inherent” to the treatment (covering content not taught in the control group) are associated with effect sizes that are
much higher compared to measures of the curriculum taught in experimental as well as control groups (d ¼ 0.45 vs.
d ¼ 0.03). By contrast, Schroeder et al. (2007) in their meta-analysis, where 47 out of 62 achievement tests were locally
constructed, found no difference in outcome (d ¼ 0.73 and d ¼ 0.75 resp.).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในขณะที่ผลผลสำคัญ พวกเขาควรไม่ไปค่าใช้จ่ายที่รับรู้ผลการเรียนรู้ ความสำเร็จอาจดูเหมือนมากตรงไปตรงมาทำ แต่ผลสำเร็จก่อให้เกิดความท้าทายตัวเอง สะดุดตาที่สุด และในวิทยาศาสตร์ยิ่งกว่าในบางวิชาเรียนอื่น ๆ การทดสอบมีหัวข้อ และหลักสูตรเฉพาะ และส่วนใหญ่การศึกษาใช้วัดความสำเร็จที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับงานในมือ เป็นผล คุณภาพของเครื่องมือยากที่จะประเมิน และในการศึกษามากมาย มาตรการที่ทำ experimenter ให้มากขึ้นสอดคล้องกับเนื้อหาที่สอนในการเงื่อนไขการทดลองกว่ากับเนื้อหาในสภาพควบคุม (เช่น สอบถามต้องมีทักษะในการทดสอบ หรือคำถามที่หนักอึ้งในบริบทหลากหลายรูปแบบ) บนมืออื่น ๆ หนึ่งอาจเถียงกับบางสนามที่ได้มาตรฐานทดสอบมักเพิ่มเติมสอดคล้องกับผลลัพธ์ของหลักสูตรแบบดั้งเดิม Slavin และ Madden (2011), เน้นคณิตศาสตร์ และอ่านทบทวนที่สหรัฐฯ แผนกการศึกษาของการศึกษา WhatWorks Clearinghouse (WWC), พบว่ามาตรการที่มี "ธรรมชาติ" ในการรักษา (ครอบคลุมเนื้อหาที่สอนในกลุ่มควบคุมไม่ได้) เกี่ยวข้องกับขนาดของผลที่สูงมากเมื่อเทียบกับมาตรการของหลักสูตรสอนในการทดลองเช่นควบคุมกลุ่ม (d ¼ 0.45 vsทาง d ที่¼ 0.03) โดยคมชัด Schroeder et al. (2007) ในการวิเคราะห์ ที่ 47 จาก 62 สำเร็จทดสอบได้ภายในสร้าง พบไม่มีความแตกต่างในผล (d ¼ 0.73 และชอบ d ¼ 0.75)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่ผลของอารมณ์ที่มีความสำคัญที่พวกเขาไม่ควรจะไปที่ค่าใช้จ่ายของผลการเรียนรู้องค์ความรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
อาจดูเหมือนตรงไปตรงมามากขึ้นในการสร้างกรอบความคิด แต่ผลสัมฤทธิ์ทางการก่อให้เกิดความท้าทายของตัวเอง ที่สะดุดตาที่สุดและใน
วิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้นกว่าในบางวิชาอื่น ๆ ในโรงเรียนการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่มีหัวข้อและหลักสูตรที่เฉพาะเจาะจงและส่วนใหญ่ของ
การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการใช้มาตรการสร้างมาโดยเฉพาะสำหรับงานในมือ เป็นผลให้คุณภาพของเครื่องมือ
เป็นเรื่องยากที่จะประเมินและในการศึกษาหลายมาตรการทดลองทำมีความสอดคล้องมากขึ้นกับเนื้อหาที่สอนใน
สภาพการทดลองกว่าที่มีเนื้อหาอยู่ในสภาพที่ควบคุม (เช่นทักษะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่มีความจำเป็นในการ ผลการทดสอบหรือ
คำถามถูกวางในรูปแบบบริบทที่อุดมไปด้วย) ในทางกลับกันบางคนอาจเถียงกับพื้นดินบางอย่างที่ทดสอบที่ได้มาตรฐานจะ
มักจะชิดมากขึ้นกับผลของการเรียนการสอนแบบดั้งเดิม Slavin และ Madden (2011) โดยมุ่งเน้นที่คณิตศาสตร์และ
การศึกษาการอ่านการตรวจสอบในภาควิชาศึกษา WhatWorks Clearinghouse (สน) สหรัฐอเมริกาพบว่ามาตรการที่
เป็น "ธรรมชาติ" เพื่อการรักษา (ครอบคลุมเนื้อหาไม่ได้สอนในกลุ่มควบคุม) จะเกี่ยวข้องกับ ขนาดผลที่
สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับมาตรการของหลักสูตรการเรียนการสอนในการทดลองเช่นเดียวกับกลุ่มควบคุม (D ¼ 0.45 เมื่อเทียบกับ
D ¼? 0.03) โดยคมชัดชโรเดอ et al, (2007) ในการวิเคราะห์ของพวกเขาที่ 47 จาก 62 การทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในประเทศที่ถูก
สร้างขึ้นพบว่าไม่มีความแตกต่างในผล (D ¼ 0.73 และ 0.75 D ¼รับผิดชอบ.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในขณะที่อารมณ์ผลลัพธ์สำคัญ พวกเขาควรไปที่ค่าของผลลัพธ์การเรียนรู้ การรับรู้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอาจดูเหมือนตรงไปตรงมามากขึ้นที่จะคิด แต่ผลมีผลก่อให้เกิดความท้าทายของพวกเขาเอง โดยเฉพาะ และในวิทยาศาสตร์มากกว่าในบางวิชาที่โรงเรียน อื่น ๆ , แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและมีหัวข้อหลักสูตรที่เฉพาะเจาะจง และส่วนใหญ่ของการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและใช้มาตรการเฉพาะสำหรับงานในมือ ผลที่ตามมา , คุณภาพของเครื่องมือเป็นเรื่องยากที่จะประเมิน และในการศึกษามาก การทดลองทำมาตรการเพิ่มเติมที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่สอนในเงื่อนไขการทดลองมากกว่ากับเนื้อหาให้อยู่ในภาวะควบคุมได้ ( เช่น ทักษะการสอบถาม จำเป็นในการสอบ หรือคำถามที่ถูกวางในบริบทรูปแบบรวย ) บนมืออื่น ๆ หนึ่งอาจโต้แย้งกับบางพื้นที่ทดสอบมาตรฐานเป็นมักจะสอดคล้องกับผลของหลักสูตรแบบดั้งเดิม สเลวินและ Madden ( 2011 ) , เน้นคณิตศาสตร์อ่านศึกษาดู ในแผนกของการศึกษา whatworks Clearinghouse สหรัฐ ( ดับเบิลยูดับเบิลยูซี ) พบว่า มาตรการที่" แท้จริง " การรักษาไม่ครอบคลุมเนื้อหาที่สอนในกลุ่มควบคุม ) จะเกี่ยวข้องกับผลกระทบที่เป็นขนาดที่สูงมากเมื่อเทียบกับมาตรการของหลักสูตรสอนในการทดลอง ตลอดจนกลุ่มควบคุม ( D ¼ 0.45 vs .D ¼ 0.03 ) ในทางตรงกันข้าม ชโรเดอร์ et al . ( 2007 ) ในการวิเคราะห์ของพวกเขา ที่ 47 จาก 62 ทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นภายในสร้างขึ้น พบว่าไม่มีความแตกต่างในผล ( D ¼ 0.73 และ D ¼ 0.75 RESP )