The North American deserts are rain

The North American deserts are rain-shadow deserts. The wet westerly winds that blow towards the continent across the Pacific Ocean first meet the great western mountain barrier and are forced to rise, dropping their rain on the seaward side. Past the peaks the winds are dry and desert conditions prevail on the extensive plains beyond.
The deserts are not completely barren, but contain an intermittent vegetation consisting of cacti and other succulent plants, normally growing as single specimens, each widely separated from one another. The barren soil surface between the plants conceals a vast network of roots spreading out to collect enough water for each plant to survive.
Among the roots lives the rootsucker, Palatops spp., an animal heavily armoured to protect it from desiccation rather than to defend it from attack. Its head is shielded by a broad spade-like plate and its back is covered by a shiny nut-like shell composed of compacted hair. Its tail and feet are also armoured, but with articulated plates that permit total mobility. The rootsucker moves through the sand using its broad feet like paddles and its head shield as a shovel to reach the roots of succulents on which it feeds, gnawing them with the edge of its head shield and lower incisors.
Among the thorns found in the vertical grooves of cactus stems lives the little desert spickle, Fistulostium setosum, its narrow body covered by spines that are partly for defence and partly for camouflage among the cactus thorns. It has no teeth and subsists entirely on the nectar of cactus flowers which it drinks through its long snout. When collecting nectar it often picks up pollen on its head. The pollen is eventually deposited on the stigmas of other flowers, thus effecting the cross-pollination of the cacti. Living almost solely on nectar, the spickle's digestive system is a very primitive affair, since nectar is very easily broken down.
Lizards and other reptiles do not have the sophisticated mechanisms that mammals and birds have for regulating body temperature. Their temperature is entirely dependent on the surroundings. Several desert reptiles have, however, developed rudimentary devices for keeping themselves cool. The fin lizard, Velusarus bipod, for instance, a small bipedal reptile, has a system of erectile fins and dewlaps on its neck and tail which it raises into the wind when its body becomes too hot. The heat is transferred through the fins via the blood stream into the air. When cooling itself, the lizard typically balances on one leg while keeping the other off the hot desert surface to get maximum benefit from the system.
Small mammals of the desert, like the desert spickle and the fin lizard, are preyed on by ground-dwelling birds such as the long-legged quail, Deserta catholica. Its eggs, which are laid in sand scrapes in sheltered spots beneath bushes or overhanging rocks, are sat on continuously to protect them from the extremes of heat and cold that are typical of the desert climate's daily temperature range.
The breeding cycle of this and many other desert birds is dependent on the rainy season, the birds nesting as soon as the first spring rains appear and continuing as long as the wet season lasts. In unusually dry years no breeding takes place.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทะเลทรายอเมริกาเหนือเป็นทะเลทรายเงาฝน บริเวณลมฝนที่พัดข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังทวีปแรกพบอุปสรรคขุนแผนตะวันตก และถูกบังคับให้ขึ้น ปล่อยฝนที่ตกด้าน seaward อดีตแห่ง ลมจะแห้ง และเหนือกว่าสภาพทะเลทรายบนราบที่กว้างขวางเกินทะเลทรายไม่สมบูรณ์เป็นหมัน แต่ประกอบด้วยพืชไม่ต่อเนื่องประกอบด้วยแคคตัสและพืชอวบน้ำอื่น ๆ ปกติเติบโตเป็นไว้เป็นตัวอย่างเดียว แต่ละแยกออกจากกันอย่างกว้างขวาง พื้นดินแห้งแล้งระหว่างพืช conceals เครือข่ายใหญ่ของรากที่แพร่กระจายออกไปเก็บน้ำเพียงพอสำหรับแต่ละโรงงานเพื่อความอยู่รอดระหว่างรากอยู่ rootsucker โอ Palatops สัตว์หนักหุ้มเกราะป้องกัน desiccation มากกว่า การปกป้องจากการถูกโจมตี ใหญ่มีร่ม โดยจานเหมือนสเปดกว้าง และครอบคลุม โดยเปลือกถั่วเหมือนเงาประกอบด้วยผมกระชับหลังของมัน หางและเท้ามันจะหุ้มเกราะยัง แต่ มีแผ่นพูดชัดแจ้ง ที่อนุญาตให้มีการเคลื่อนไหวทั้งหมด Rootsucker การเลื่อนผ่านทรายที่ใช้เท้าความกว้างเช่น paddles และโล่ของใหญ่เป็นจอบถึงรากของซัคคิวซึ่งจะฟีด gnawing กับขอบของโล่หัวล่าง incisorsระหว่างหนามที่พบในร่องแนวตั้งของชีวิตลำต้นแคคตัส spickle ทะเลทรายน้อย Fistulostium setosum ร่างกายแคบครอบคลุม spines ที่บางส่วน สำหรับป้องกัน และบางส่วน สำหรับพรางระหว่างหนามกระบองเพชร มีฟันไม่ และ subsists ในน้ำหวานของดอกแคคตัสที่มันดื่มผ่าน snout ความยาว เมื่อเก็บน้ำหวานที่มักจะเลือกค่าละอองเกสรบนหัวของมัน ละอองเกสรมีการฝากเงินในที่สุดบน stigmas ของดอกไม้อื่น ๆ จึง มีผลต่อการผสมเกสรของแคคตัส ชีวิตเกือบจะแยกจากน้ำหวาน ระบบทางเดินอาหารของ spickle ได้เรื่องดึกดำบรรพ์ เนื่องจากเสียน้ำหวานลงได้อย่างง่ายดายมากกิ้งก่าและสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ ไม่มีกลไกซับซ้อนที่เลี้ยงลูกด้วยนม และนกมีการควบคุมอุณหภูมิร่างกาย อุณหภูมิของพวกเขาทั้งหมดขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมได้ สัตว์เลื้อยคลานทะเลทรายหลายอย่างไรก็ตาม ได้ พัฒนาอุปกรณ์ rudimentary สำหรับรักษาตัวเย็น ฟินจิ้งจก Velusarus bipod เช่น ตัวเล็ก bipedal สัตว์เลื้อยคลาน มีระบบลุกครีบและ dewlaps ของคอและหางซึ่งมันเพิ่มเป็นลมเมื่อร่างกายร้อนเกินไป ความร้อนจะถ่ายโอนผ่านครีบผ่านทางกระแสเลือดไปในอากาศ เมื่อเย็นเอง จิ้งจกโดยปกติยอดดุลในขาข้างหนึ่งในขณะที่เก็บอื่น ๆ ปิดพื้นทะเลทรายร้อนจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบเลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กของทะเลทราย spickle ทะเลทรายและจิ้งจกหู มี preyed บน โดยนกพื้นที่อยู่อาศัยเช่นที่ขายาวกระทา Deserta catholica ของไข่ ที่วางในทรายสามารถในจุดกำบังภายใต้พุ่มไม้หรือหิน overhanging ที่นั่งบนอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องพวกเขาจากสุดขั้วของความร้อนความเย็นที่เป็นปกติของสภาพภูมิอากาศทะเลทรายช่วงอุณหภูมิประจำวันรอบผสมพันธุ์นี้และนกทะเลทรายหลายอื่น ๆ ได้ขึ้นอยู่กับฝน นกวิวสามารถเป็นฝนฤดูใบไม้ผลิแรกปรากฏ และดำเนินต่อไปตราบใดที่เวลาช่วงฤดูฝน ในปีปกติแห้ง พันธุ์ไม่เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทะเลทรายในทวีปอเมริกาเหนือเป็นทะเลทรายฝนเงา ลมตะวันตกเปียกที่พัดไปทางทวีปข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรกพบกับอุปสรรคภูเขาตะวันตกที่ดีและถูกบังคับให้เพิ่มขึ้นลดลงฝนของพวกเขาในด้านทะเล ที่ผ่านมายอดลมแห้งและเงื่อนไขทะเลทรายเหนือกว่าบนที่ราบกว้างขวางเกินกว่า.
ทะเลทรายไม่ได้เป็นหมันอย่างสมบูรณ์ แต่มีพืชสม่ำเสมอประกอบด้วย cacti และอื่น ๆ พืชอวบน้ำปกติเติบโตเป็นตัวอย่างเดียวแต่ละคนแยกกันอย่างกว้างขวางจากคนอื่น ผิวดินที่แห้งแล้งระหว่างพืชปกปิดเครือข่ายที่กว้างขวางของรากแพร่กระจายออกไปเพื่อเก็บน้ำเพียงพอสำหรับพืชแต่ละชนิดเพื่อความอยู่รอด.
ท่ามกลางรากอาศัยอยู่ rootsucker, Palatops spp. สัตว์เกราะหนักเพื่อปกป้องมันจากผึ่งให้แห้งมากกว่าที่จะปกป้องมัน จากการถูกโจมตี หัวของมันถูกบังแผ่นจอบเหมือนในวงกว้างและหลังของมันถูกปกคลุมด้วยเปลือกถั่วเหมือนเงาประกอบด้วยผมอัด หางและเท้าของมันมีการหุ้มเกราะยัง แต่ด้วยแผ่นก้องที่อนุญาตให้มีการเคลื่อนไหวทั้งหมด rootsucker เคลื่อนผ่านทรายใช้เท้ากว้างเช่นพายและโล่หัวของมันเป็นพลั่วไปถึงรากของ succulents ที่มันฟีดแทะพวกเขาด้วยคมโล่หัวของมันและฟันล่าง.
ท่ามกลางหนามที่พบในแนวตั้ง ร่องลำต้นของต้นกระบองเพชรชีวิต spickle ทะเลทรายเล็ก ๆ น้อย ๆ Fistulostium setosum ร่างกายแคบปกคลุมด้วยหนามที่มีบางส่วนสำหรับการป้องกันและส่วนหนึ่งเพื่ออำพรางในหมู่หนามกระบองเพชร แต่ก็มีไม่มีฟันและมีอายุอยู่กับน้ำหวานของดอกไม้แคคตัสที่จะดื่มผ่านจมูกยาว เมื่อเก็บรวบรวมน้ำหวานก็มักจะหยิบเกสรบนหัวของมัน เกสรจะฝากในที่สุด stigmas ของดอกไม้อื่น ๆ จึงมีผลต่อการผสมเกสรข้ามของ cacti ที่อาศัยอยู่เพียงลำพังบนเกือบทิพย์ระบบย่อยอาหารของ spickle เป็นเรื่องดั้งเดิมมากเนื่องจากน้ำหวานเสียลงได้อย่างง่ายดายมาก.
จิ้งจกและสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ ไม่ได้มีกลไกที่ซับซ้อนที่เลี้ยงลูกด้วยนมและนกมีการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย อุณหภูมิของพวกเขาคือทั้งหมดขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม สัตว์เลื้อยคลานทะเลทรายหลายคนได้ แต่การพัฒนาอุปกรณ์พื้นฐานในการรักษาตัวเองเย็น จิ้งจกครีบ Velusarus bipod เช่นสัตว์เลื้อยคลานเท้าขนาดเล็ก, มีระบบในการครีบสมรรถภาพทางเพศและ dewlaps ที่คอและหางของมันซึ่งมันก็เกิดเป็นลมเมื่อร่างกายของมันจะกลายเป็นความร้อนมากเกินไป ความร้อนจะถูกโอนผ่านครีบผ่านทางกระแสเลือดไปในอากาศ เมื่อการระบายความร้อนของตัวเองจิ้งจกมักจะสมดุลบนขาข้างหนึ่งขณะที่การรักษาอื่น ๆ ออกจากพื้นผิวทะเลทรายร้อนที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบ.
เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กของทะเลทรายเช่น spickle ทะเลทรายและจิ้งจกครีบที่เป็นเหยื่อโดยพื้นดินที่อยู่อาศัย นกเช่นนกกระทาขายาว, Deserta Catholica ไข่ของมันซึ่งจะถูกวางใน scrapes ทรายในจุดที่กำบังใต้พุ่มไม้หรือก้อนหินที่ยื่นออกจะนั่งอยู่บนอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องพวกเขาจากสุดขั้วของความร้อนและความเย็นที่มีแบบฉบับของทะเลทรายอากาศช่วงอุณหภูมิในชีวิตประจำวัน.
วงจรการผสมพันธุ์ของนี้และอีกมากมาย นกทะเลทรายอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับฤดูฝนนกทำรังเร็วที่สุดเท่าที่ฝนฤดูใบไม้ผลิปรากฏตัวครั้งแรกและต่อเนื่องเป็นเวลานานเป็นฤดูฝนเป็นเวลา ในปีที่แห้งผิดปกติไม่มีการผสมพันธุ์เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทะเลทรายในทวีปอเมริกาเหนือเป็นเงาฝนทะเลทราย เปียกจากทางลมที่พัดไปสู่ทวีปข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกก่อนเจอด่านภูเขาตะวันตกที่ดีและถูกบังคับให้ลุกขึ้น ปล่อยฝนของตนเองในด้านทิศทางไปสู่ทะเล . อดีตยอดลมแห้งและทะเลทรายเงื่อนไขชนะบนที่ราบกว้างขวางเกิน
ทะเลทรายจะไม่สมบูรณ์เป็นหมันแต่ก็มีชนิดพืชประกอบด้วย cacti และพืชอื่น ๆฉ่ำ ปกติขึ้นเป็นชิ้นเดียว แต่ละอย่างแยกจากคนอื่น แห้งแล้งดินระหว่างพืชที่ต้นเครือข่ายที่กว้างขวางของรากกระจายออกไปเก็บน้ำเพียงพอสำหรับพืชแต่ละชนิด เพื่อความอยู่รอด
ระหว่างรากชีวิตรูทซัคเกอร์ palatops spp . ,สัตว์ที่ติดอาวุธหนักเพื่อปกป้องมันจากการผึ่งให้แห้งมากกว่าที่จะปกป้องมันจากการถูกโจมตี หัวของมันถูกบังจอบกว้างเหมือนจาน และหลังของมันถูกปกคลุมด้วยเงาเหมือนเปลือกถั่วประกอบด้วยอัดผม หางและเท้าเป็นอาวุธ แต่กับก้องแผ่นที่อนุญาตให้มีการเคลื่อนไหวทั้งหมดการรูทซัคเกอร์ย้ายผ่านทรายโดยใช้เท้ากว้างเหมือนพายและโล่ หัวของมันเป็นขุดไปถึงรากของซัคคิวเลนท์ที่ฟีด กังวลกับขอบของโล่หัวและขากรรไกร .
ระหว่างหนามที่พบในร่องแนวตั้งของต้นแคคตัสชีวิตเล็ก ๆน้อย ๆ fistulostium setosum spickle , ทะเลทราย ,ร่างกายปกคลุมด้วยหนามที่แคบบางส่วน และบางส่วนของการป้องกันสำหรับพรางต้นกระบองเพชรหนาม มันไม่มีฟัน และ subsists ทั้งหมดในน้ำหวานของดอกกระบองเพชรซึ่งมันดื่มผ่านจมูกยาว เมื่อเก็บรวบรวมน้ำหวานมันมักจะหยิบเกสรดอกไม้บนหัวของมัน เกสรในที่สุดฝากไว้บนเป็นดอกไม้อื่น ๆจึงมีผลต่อการผสมข้ามของ cacti . อยู่เกือบ แต่เพียงผู้เดียวในน้ำทิพย์ , ระบบย่อยอาหารของ spickle เป็นเรื่องมากดั้งเดิม ตั้งแต่น้ำหวานอย่างง่ายดายเสีย กิ้งก่า และสัตว์เลื้อยคลานอื่น ๆ
ไม่ได้มีกลไกที่ซับซ้อนที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนกมีการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย อุณหภูมิของพวกเขาเป็นทั้งหมดขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมสัตว์เลื้อยคลานในทะเลทรายหลายแห่งได้ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการรักษาตัวเองดี ครีบกิ้งก่า velusarus ใช้ขาตั้ง สำหรับอินสแตนซ์ สองเท้าเล็กสัตว์เลื้อยคลานมีระบบของอวัยวะเพศ dewlaps บนคอและครีบและหางซึ่งมันเพิ่มเข้าไปในลม เมื่อร่างกายของตนกลายเป็นร้อนเกินไป ความร้อนที่ถ่ายเทผ่านครีบผ่านกระแสเลือดเข้าไปในอากาศ เมื่อเย็นเองจิ้งจกโดยปกติยอดบนขาข้างหนึ่งในขณะที่การรักษาอื่น ๆปิดพื้นผิวทะเลทรายร้อนเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบ
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กของทะเลทราย เป็นทะเลทราย spickle ครีบและจิ้งจก จะตกเป็นเหยื่อโดยพื้นดินที่อยู่อาศัยของนก เช่น นกกระทา ขา ยาว deserta catholica . ไข่ของมัน ซึ่งจะแสดงในทราย scrapes ในซุ้มจุดใต้พุ่มไม้หรือชะง่อนหินกำลังนั่งอยู่บนอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้องพวกเขาจากสุดขั้วของความร้อนและเย็นที่เป็นปกติของทะเลทรายสภาพภูมิอากาศอุณหภูมิรายวันช่วง .
การผสมพันธุ์รอบนี้และหลายนกทะเลทรายอื่น ๆขึ้นอยู่กับหน้าฝน นกทำรัง ทันทีที่ฝนฤดูใบไม้ผลิแรกปรากฏขึ้นและต่อเนื่องตราบเท่าที่ฤดูคงอยู่ . ปีนี้แห้งผิดปกติ ไม่มีการผสมพันธุ์เกิดขึ้น