The distributions of sugar characte

The distributions of sugar characteristics in wild and cultivated fruits are shown in Fig. 2. Wild fruits were significantly more acidic than cultivated fruits, with an average malic acid content of over 2.2 times higher. Malic acid content ranged from 0.8 to 22.7 mg/g in wild fruits, and from 0.5 to 18.9 mg/g in cultivated fruits. This indicates that the variation in fruit acidity is wider in the wild sample than in the cultivated sample. In contrast, the average concentration of the total sugars was slightly higher in cultivated fruits (93.1 mg/g) than in wild fruits (89.8 mg/g), but this difference was not statistically significant (P= 0.55). The average sweetness index (SI) was slightly higher in cultivated fruits (115.2) than in wild fruits (109.5), but this difference did not reach significant level (P= 0.31). However, the wild sample had higher variation in both total sugar concentration and SI than the cultivated sample

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แสดงการกระจายของลักษณะน้ำตาลในผลไม้ป่า และปลูกใน Fig. 2 ผลไม้ได้มากยิ่งเปรี้ยวกว่าปลูกผลไม้ มีเนื้อหาเป็นกรด malic เฉลี่ยของกว่า 2.2 เท่า เนื้อหากรด malic ที่อยู่ในช่วง 0.8 ถึง 22.7 mg/g ในผลไม้ และ จาก 0.5 ถึง 18.9 mg/g ในปลูกผลไม้ บ่งชี้ว่า ความผันแปรในผลไม้มีความกว้างจากตัวอย่างป่ากว่าในตัวอย่างปลูก คมชัด ความเข้มข้นของน้ำตาลรวมเฉลี่ยได้สูงขึ้นเล็กน้อยในการปลูกผลไม้ (93.1 mg/g) กว่าผลไม้ (89.8 mg/g), แต่ไม่มีความแตกต่างนี้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P = 0.55) ความหวานหอมเฉลี่ยดัชนี (SI) สูงขึ้นเล็กน้อยในการปลูกผลไม้ (115.2) กว่าผลไม้ (109.5), แต่ความแตกต่างนี้ไม่ถึงระดับอย่างมีนัยสำคัญ (P = $ 0.31) อย่างไรก็ตาม อย่างป่ามีความผันแปรสูงในความเข้มข้นของน้ำตาลรวมทั้ง SI มากกว่าตัวอย่างปลูก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การกระจายของลักษณะน้ำตาลในผลไม้ที่ปลูกป่าและมีการแสดงในรูป 2. ผลไม้ป่าอย่างมีนัยสำคัญเป็นกรดมากขึ้นกว่าผลไม้ที่ปลูกมีปริมาณกรด malic เฉลี่ยกว่า 2.2 เท่าสูง เนื้อหากรดอยู่ในช่วง 0.8-22.7 มิลลิกรัม / กรัมในผลไม้ป่าและ 0.5-18.9 มิลลิกรัม / กรัมในผลไม้ที่ปลูก นี้บ่งชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงในความเป็นกรดผลไม้ที่กว้างขึ้นในตัวอย่างป่ากว่าในตัวอย่างเพาะปลูก ในทางตรงกันข้ามความเข้มข้นเฉลี่ยของน้ำตาลรวมสูงขึ้นเล็กน้อยในผลไม้ที่ปลูก (93.1 mg / g) มากกว่าในผลไม้ป่า (89.8 mg / g) แต่ความแตกต่างนี้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.55) ดัชนีความหวานเฉลี่ย (SI) เป็นสูงขึ้นเล็กน้อยในผลไม้ที่ปลูก (115.2) มากกว่าในผลไม้ป่า (109.5) แต่ความแตกต่างนี้ยังไม่ถึงระดับที่มีนัยสำคัญ (p = 0.31) อย่างไรก็ตามตัวอย่างป่ามีการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้นทั้งในความเข้มข้นของน้ำตาลทั้งหมดและ SI กว่าตัวอย่างที่ปลูก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การกระจายน้ำตาลในป่า และปลูกผลไม้ มีลักษณะที่แสดงในรูปที่ 2 ผลไม้ป่าที่เป็นกรดมากขึ้นกว่าการปลูกผลไม้ เฉลี่ย malic กรดเนื้อหากว่า 2.2 เท่า สูงกว่า กรดมาลิกเนื้อหาอยู่ระหว่าง 0.8 ถึง 22.7 มิลลิกรัม / กรัม ผลไม้ป่า และ 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตรในที่สูง ปลูกผลไม้นี้บ่งชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงความเป็นกรดผลไม้กว้างในป่ามากกว่าในตัวอย่างมีตัวอย่าง ในทางตรงกันข้าม ความเข้มข้นเฉลี่ยของปริมาณน้ำตาลทั้งหมด คือสูงขึ้นเล็กน้อยในการปลูกผลไม้ ( มิลลิกรัม / 93.1 กรัม ) สูงกว่าในผลไม้ป่า ( มก. / 89.8 กรัม ) แต่ความแตกต่างนี้ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ( p = 0.55 )ค่าความหวานเฉลี่ย ( SI ) คือสูงกว่าเล็กน้อยในการปลูกผลไม้ ( 115.2 ) มากกว่าผลไม้ป่า ( 109.5 ) แต่ความแตกต่างนี้ไม่ได้ถึงระดับนัยสำคัญทางสถิติ ( p = 0.31 ) อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างมีการเปลี่ยนแปลงที่สูงขึ้นในป่าทั้งปริมาณน้ำตาลความเข้มข้นและซื่อกว่าที่ปลูกตัวอย่าง