กาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนา อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล การแปล - กาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนา อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล ไทย วิธีการพูด

กาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อ

กาลครั้งหนึ่ง มีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนา อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขา นางกินนายังเป็นสาวไม่มีผัว อยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดด ทุก ๆ เช้านางกินนาจะเดินไปตามป่า จะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหาร นางจะเฝ้าดูน้ำที่ไหลไปตามซอกหินและต้นหญ้า บ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปกว้าง ทำให้ร่มเย็นแสนสบาย

การที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้น ทำให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิด บางครั้งจะเห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจำนวนมาก นกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟัง และบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่งบนคอช้างป่า

เช้าวันหนึ่ง นางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในป่า ชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงามราวกับพระอินทร์ (ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทา ในต้นฉบับอธิบายไว้ว่า อินทาเป็นเทพเจ้าแห่งความงาม) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือ นางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่ง หล่อนจึงรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้

ขณะที่นางกินนากำลังรำพึงฝันหวานอยู่นั้น นางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่าเกลียด เมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอน อย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงามเสียก่อนจะดีกว่า นางจึงร่ายเวทมนต์กลายร่างจากยักษ์เป็นหญิงสาวรูปงาม มีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะเทียบเคียงได้ เมื่อแปลงกายแล้ว นางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า

" พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ”

" ฉันมาล่าสัตว์” ชายหนุ่มตอบ แล้วถามต่อไปว่า "เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ”

" จ้ะ ฉันอยู่คนเดียว อยู่กับนกกับต้นไม้”

เสน่ห์ของนางกินนาทำให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรัก เขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วชวนพูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจ ก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลำธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อนทราบว่า เขาชื่อพุทเสนแล้วเล่าเรื่องราวให้หล่อนฟัง นางกินนาได้ขอร้องให้ชายหนุ่มพักอยู่กับหล่อนนาน ๆ

พุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดี พุทเสนอยู่กับนางกินนาด้วยความสุขสำราญ จนทำให้เขาลืมมารดาที่อยู่อย่างยากจนทางบ้าน

วันหนึ่งนางกินนาได้บอกความลับของนางให้พุทเสนฟังด้วยความไว้วางใจ " พี่ ฉันลืมบอกพี่ไปว่าในหีบใบนี้มีมะนาวที่ไม่รู้จักสุกไม่รู้จักเหี่ยวอยู่หลายผล เป็นมะนาววิเศษที่ตกทอดมาตั้งแต่ครั้งย่าครั้งยายของฉันทีเดียว มะนาวเหล่านี้มีอำนาจวิเศษมาก พี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม” "ไม่เคยเลย” ชายหนุ่มตอบ "อยู่ที่ไหนล่ะ” "อ๋อ” กินนาตอบ "อยู่ห่างจากนี่สักแปดสิบเส้นเห็นจะได้ แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลย มันมีอันตรายมาก” พุทเสนไม่ตอบ แต่เขาก็ยังคงคิดถึงเรื่องสวนแห่งนี้

วันหนึ่งเมื่อนางกินนาไม่อยู่ พุทเสนก็ถือโอกาสตอนที่นางกินนาไม่อยู่นั้นไปที่สวนที่นางกินนาห้าม ในสวนแห่งนั้นพุทเสนได้พบกระดูกมนุษย์ทับถมอยู่ในคูเกือบเต็ม พุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอด นางกินนาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน เขาเกิดความกลัวขึ้นมาจึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องเปิดหีบหยิบมะนาววิเศษออกมา เขาไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งออกจากป่าไปทันที

หลังจากที่พุทเสนหนีไปได้ไม่นานเท่าไรนัก นางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้ พอรู้ว่ามะนาวหายก็นึกรู้ได้ทันทีว่าพุทเสนรู้ความลับและหนีไปแล้ว นางจึงกลับกลายเป็นยักษ์ตามเดิมแล้วไล่ตามพุทเสนไป

ด้วยกำลังยักษ์ นางกินนาวิ่งตามเพียงพักเดียวก็แลเห็นหลังพุทเสนไว ๆ นางกินนาร้องเรียกให้พุทธเสนหยุดพูดกันก่อน แต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียง เมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามา พุทเสนก็ล้วงเอามะนาวในย่ามออกมาผลหนึ่งแล้วขว้างไปตรงหน้านางกินนา ทันใดนั้นก็เกิดเป็นกองไฟกองมหึมาลุกลามกั้นนางกินนาไว้ ได้ยินแต่เสียงนางกินนาร้องเรียกแต่มองไม่เห็นตัว เพราะเปลวไฟลุกโพลง

พุทเสนไม่รอช้าขณะที่ไฟกำลังลุกโชติช่วงอยู่นั้น เขาก็วิ่งหนีต่อไป แต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไร ก็ได้ยินเสียงนางกินนาร้องเรียกใกล้เข้ามา นางกินนาได้ใช้เวทมนต์ดับไฟสามารถไล่ตามเขามาได้อีก พุทเสนเห็นจวนตัวจึงหยิบมะนาวอีกผลหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วขว้างไป คราวนี้เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็นฝั่ง

นางกินนาถึงจะเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยัง ไม่ละความพยายามกระโจนลงน้ำว่ายข้ามทะเลสาบมาอย่างกล้าหาญ เมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้าม นางก็เหนื่อยอ่อนเต็มที นอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเอง นางไม่สามารถจะขยับเขยื้อนกายต่อไปได้อีก นางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ ขอให้ลงโทษต่อสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ของนาง เมื่อนางอ้อนวอนสิ้นสุดลงดวงตาของนางก็ปิดสนิทนางกินนาขาดใจตายเสียแล้ว

เมื่อพุทเสนแลเห็นนางกินนานอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนกายเช่นนั้นก็นึกว่านางคงจะเหนื่อย อ่อนกำลังไม่สามารถจะทำอะไรเขาได้แล้ว นึก ๆ ไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมา เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน นางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดี นางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริง เมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีก พุทเสนก็ใจอ่อนเดินกลับไปหานางกินนาที่นอนอยู่ และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้ว พุทเสนก็ทรุดตัวลงข้าง ๆ ร่างของนางกินนา พยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สำเร็จพุทเสนเสียใจมาก เขาล้มฟุบลงบนร่างของนางกินนา และขาดใจตายตามไปอีกคนหนึ่ง

ร่างของนางกินนาและพุทเสน คงอยู่ริมแม่น้ำแห่งนั้น และเมื่อหลายร้อนปีผ่านไป ร่างของทั้งสองก็กลายเป็นภูเขาสองลูก ซึ่งเรียกกันว่า ภูท้าว และ ภูนาง ยังคงมีอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพระบางในเวลานี้
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
กาลครั้งหนึ่งมีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขานางกินนายังเป็นสาวไม่มีผัวอยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดดทุกๆ เช้านางกินนาจะเดินไปตามป่าจะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหารนางจะเฝ้าดูน้ำที่ไหลไปตามซอกหินและต้นหญ้าบ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปกว้างทำให้ร่มเย็นแสนสบายการที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้นทำให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิดบางครั้งจะเห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจำนวนมากนกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟังและบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่งบนคอช้างป่าเช้าวันหนึ่งนางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในป่าชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงามราวกับพระอินทร์ (ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทาในต้นฉบับอธิบายไว้ว่าอินทาเป็นเทพเจ้าแห่งความงาม) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือนางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่งหล่อนจึงรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้ขณะที่นางกินนากำลังรำพึงฝันหวานอยู่นั้นนางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่าเกลียดเมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอนอย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงามเสียก่อนจะดีกว่านางจึงร่ายเวทมนต์กลายร่างจากยักษ์เป็นหญิงสาวรูปงามมีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะเทียบเคียงได้เมื่อแปลงกายแล้วนางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า "พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ""ฉันมาล่าสัตว์" ชายหนุ่มตอบแล้วถามต่อไปว่า "เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ" "จ้ะฉันอยู่คนเดียวอยู่กับนกกับต้นไม้"เสน่ห์ของนางกินนาทำให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรักเขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ แล้วชวนพูดคุยถึงเรื่องต่างๆ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลำธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อนทราบว่าเขาชื่อพุทเสนแล้วเล่าเรื่องราวให้หล่อนฟังนางกินนาได้ขอร้องให้ชายหนุ่มพักอยู่กับหล่อนนานๆพุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดีพุทเสนอยู่กับนางกินนาด้วยความสุขสำราญจนทำให้เขาลืมมารดาที่อยู่อย่างยากจนทางบ้านวันหนึ่งนางกินนาได้บอกความลับของนางให้พุทเสนฟังด้วยความไว้วางใจ "พี่ฉันลืมบอกพี่ไปว่าในหีบใบนี้มีมะนาวที่ไม่รู้จักสุกไม่รู้จักเหี่ยวอยู่หลายผลเป็นมะนาววิเศษที่ตกทอดมาตั้งแต่ครั้งย่าครั้งยายของฉันทีเดียวมะนาวเหล่านี้มีอำนาจวิเศษมากพี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม" "ไม่เคยเลย" ชายหนุ่มตอบ "อยู่ที่ไหนล่ะ" "อ๋อ" กินนาตอบ "อยู่ห่างจากนี่สักแปดสิบเส้นเห็นจะได้แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลยมันมีอันตรายมาก" พุทเสนไม่ตอบแต่เขาก็ยังคงคิดถึงเรื่องสวนแห่งนี้วันหนึ่งเมื่อนางกินนาไม่อยู่พุทเสนก็ถือโอกาสตอนที่นางกินนาไม่อยู่นั้นไปที่สวนที่นางกินนาห้ามในสวนแห่งนั้นพุทเสนได้พบกระดูกมนุษย์ทับถมอยู่ในคูเกือบเต็มพุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอดนางกินนาไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอนเขาเกิดความกลัวขึ้นมาจึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องเปิดหีบหยิบมะนาววิเศษออกมาเขาไม่รีรอให้เสียเวลารีบวิ่งออกจากป่าไปทันทีหลังจากที่พุทเสนหนีไปได้ไม่นานเท่าไรนักนางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้พอรู้ว่ามะนาวหายก็นึกรู้ได้ทันทีว่าพุทเสนรู้ความลับและหนีไปแล้วนางจึงกลับกลายเป็นยักษ์ตามเดิมแล้วไล่ตามพุทเสนไปด้วยกำลังยักษ์นางกินนาวิ่งตามเพียงพักเดียวก็แลเห็นหลังพุทเสนไวๆ นางกินนาร้องเรียกให้พุทธเสนหยุดพูดกันก่อนแต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียงเมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามาพุทเสนก็ล้วงเอามะนาวในย่ามออกมาผลหนึ่งแล้วขว้างไปตรงหน้านางกินนาทันใดนั้นก็เกิดเป็นกองไฟกองมหึมาลุกลามกั้นนางกินนาไว้ได้ยินแต่เสียงนางกินนาร้องเรียกแต่มองไม่เห็นตัวเพราะเปลวไฟลุกโพลงพุทเสนไม่รอช้าขณะที่ไฟกำลังลุกโชติช่วงอยู่นั้นเขาก็วิ่งหนีต่อไปแต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไรก็ได้ยินเสียงนางกินนาร้องเรียกใกล้เข้ามานางกินนาได้ใช้เวทมนต์ดับไฟสามารถไล่ตามเขามาได้อีกพุทเสนเห็นจวนตัวจึงหยิบมะนาวอีกผลหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วขว้างไปคราวนี้เป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มองแทบไม่เห็นฝั่งนางกินนาถึงจะเหนื่อยอ่อนแต่ก็ยังไม่ละความพยายามกระโจนลงน้ำว่ายข้ามทะเลสาบมาอย่างกล้าหาญเมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้ามนางก็เหนื่อยอ่อนเต็มทีนอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเองนางไม่สามารถจะขยับเขยื้อนกายต่อไปได้อีกนางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ขอให้ลงโทษต่อสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ของนางเมื่อนางอ้อนวอนสิ้นสุดลงดวงตาของนางก็ปิดสนิทนางกินนาขาดใจตายเสียแล้วเมื่อพุทเสนแลเห็นนางกินนานอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนกายเช่นนั้นก็นึกว่านางคงจะเหนื่อย อ่อนกำลังไม่สามารถจะทำอะไรเขาได้แล้ว นึก ๆ ไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมา เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน นางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดี นางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริง เมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีก พุทเสนก็ใจอ่อนเดินกลับไปหานางกินนาที่นอนอยู่ และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้ว พุทเสนก็ทรุดตัวลงข้าง ๆ ร่างของนางกินนา พยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สำเร็จพุทเสนเสียใจมาก เขาล้มฟุบลงบนร่างของนางกินนา และขาดใจตายตามไปอีกคนหนึ่งร่างของนางกินนาและพุทเสน คงอยู่ริมแม่น้ำแห่งนั้น และเมื่อหลายร้อนปีผ่านไป ร่างของทั้งสองก็กลายเป็นภูเขาสองลูก ซึ่งเรียกกันว่า ภูท้าว และ ภูนาง ยังคงมีอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพระบางในเวลานี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
กาลครั้งหนึ่งมีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขานางกินนายังเป็นสาวไม่มีผัวอยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดดทุก ๆ เช้านางกินนาจะเดินไปตามป่าจะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึง เวลาอาหาร นกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟัง ในต้นฉบับอธิบายไว้ว่าอินทาเป็นเทพเจ้าแห่งความงาม) หนุ่มผู้นั้นถือปืนไว้ในมือ เมื่อแปลงกายแล้ว พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ " "ฉันมาล่าสัตว์" ชายหนุ่มตอบแล้วถามต่อไปว่า "เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ" "จ้ะฉันอยู่คนเดียว เขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วชวนพูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ เมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจ ๆพุทเสนก็ยอมตกลงด้วยความยินดี "พี่ มะนาวเหล่านี้มีอำนาจวิเศษมากพี่เคยไปเที่ยวสวนของฉันบ้างไหม "" ไม่เคยเลย "ชายหนุ่มตอบ" อยู่ที่ไหนล่ะ "" อ๋อ "กินนาตอบ แต่ฉันขอร้องอย่าได้คิดไปเลยมันมีอันตรายมาก "พุทเสนไม่ตอบ พุทเสนนึกเดาเรื่องได้ตลอด นางได้เข้าไปดูที่เก็บมะนาวไว้ ๆ แต่พุทเสนไม่ยอมฟังเสียงเมื่อเห็นนางกินนาใกล้เข้ามา เขาก็วิ่งหนีต่อไป แต่หนีไปไม่ได้ไกลเท่าไร เมื่อนางกินนามาถึงฝั่งตรงข้ามนางก็เหนื่อยอ่อนเต็มทีนอนหลับอยู่ริมตลิ่งนั่นเอง นางได้อ้อนวอนต่อสวรรค์ นึก ๆ ไปพุทเสนก็เกิดสงสารนางกินนาขึ้นมาเพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันนางกินนาได้เอาอกเอาใจเป็นอย่างดีนางกินนารักพุทเสนด้วยใจจริงเมื่อคิดถึงความหลังขึ้นมาอีก และพอรู้ว่านางกินนาขาดใจตายไปแล้วพุทเสนก็ทรุดตัวลงข้าง ๆ ร่างของนางกินนาพยายามพยาบาลจะให้นางฟื้นขึ้นมาอีก แต่ไม่สำเร็จพุทเสนเสียใจมากเขาล้มฟุบลงบนร่างของนาง กินนา คงอยู่ริมแม่น้ำแห่งนั้นและเมื่อหลายร้อนปีผ่านไป ซึ่งเรียกกันว่าภูท้าวและภูนางยังคงมีอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพระบางในเวลานี้































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
กาลครั้งหนึ่งมีนางยักษ์ตนหนึ่งชื่อว่ากินนาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ใกล้ภูเขานางกินนายังเป็นสาวไม่มีผัวอยู่ตัวเดียวเดี่ยวโดดทุกจะเช้านางกินนาจะเดินไปตามป่าจะกลับมาบ้านต่อเมื่อถึงเวลาอาหารบ่อยครั้งที่นางจะนั่งอยู่ใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปกว้างทำให้ร่มเย็นแสนสบาย

การที่นางกินนาใช้ชีวิตส่วนมากอยู่ในป่าเช่นนั้นทำให้นางคุ้นเคยกับสัตว์ป่านานาชนิดบางครั้งจะเห็นนางนั่งเล่นอยู่กับนกจำนวนมากนกเหล่านั้นจะร้องเพลงให้หล่อนฟังและบางครั้งหล่อนก็จะขึ้นไปนั่งบนคอช้างป่า

เช้าวันหนึ่งนางกินนาได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในป่าชายหนุ่มคนนั้นมีรูปร่างงดงามราวกับพระอินทร์ ( ลาวชอบเปรียบคนรูปงามว่างามราวกับอินทาในต้นฉบับอธิบายไว้ว่าอินทาเป็นเทพเจ้าแห่งความงาม )นางกินนาใฝ่ฝันอยู่นานแล้วที่จะมีสามีสักคนหนึ่งหล่อนจึงรู้สึกปลื้มใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อแลเห็นหนุ่มรูปงามคนนี้

ขณะที่นางกินนากำลังรำพึงฝันหวานอยู่นั้นนางก็ระลึกขึ้นได้ว่านางเป็นยักษ์รูปร่างหน้าตาน่าเกลียดเมื่อชายหนุ่มเห็นเข้าก็คงจะไม่หลงรักอย่างแน่นอนอย่ากระนั้นเลยปลอมแปลงกายให้งดงามเสียก่อนจะดีกว่ามีเสน่ห์ยากที่หญิงใดจะเทียบเคียงได้เมื่อแปลงกายแล้วนางกินนาก็ออกเดินเข้าไปหาชายหนุ่มแล้วถามว่า

" พี่เข้ามาในป่าจะไปไหนหรือ "

" ฉันมาล่าสัตว์ " ชายหนุ่มตอบแล้วถามต่อไปว่า " เธออยู่ที่นี่คนเดียวหรือ "

" จ้ะฉันอยู่คนเดียวอยู่กับนกกับต้นไม้ "

เสน่ห์ของนางกินนาทำให้ชายหนุ่มเริ่มจะหลงรักเขาเดินเข้ามายืนอยู่ใกล้จะไม่มีแล้วชวนพูดคุยถึงเรื่องต่างเมื่อเห็นหญิงสาวไม่รังเกียจก็ชวนไปนั่งคุยที่ลานหญ้าใกล้ลำธารชายหนุ่มได้บอกชื่อของเขาให้หล่อนทราบว่า
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: