๑.ความมุ่งมั่นทำจริง ชั่วชั่วกว่า เวลาดีดีมากๆ สิ่งสำคัญที่สุดเวทีการเมืองระหว่างประเทศต้องมีความเชื่อมั่นว่านโยบายไม่มีการเปลี่ยนแปลง
๒.พื้นที่ใหญ่กว่าไทย พื้นที่เพาะปลูกที่ราบลุ่ม อิรวดีอุดมสมบูรณ์แค่ไหน ดิน แหล่งทรัพยากรทั้งใต้ดิน เหนือดิน แอบไปดูท่าเรือทิวาลา เห็นแท่งไม้สักเป็นแสนๆตันวางเรียงเตรียมส่งออกมีแร่ต่างๆเช่นยูเรเนียมที่ใครๆในโลกก็ต้องการ
๓.คนส่วนใหญ่ในเมียนมาร์เป็นวัยหนุ่มสาวที่จะมาสร้างประเทศ
๔.สำคัญที่สุดเมียนมาร์ มีผู้นำฝ่ายค้านที่เป็นแบรนด์ของโลก แบบ ยี่ห้อหลุยวิกตองส์ ที่ทุกคนเห็นยอมรับ เมียนมาร์มีคนมาจีบเพราะมีนางออง ซาน ซูจี เนื่องจากประธานาธิบดีเต็งเส่งกับ นางซูจีแยกกันหาเสียงเข้าเมียนมาร์ เป็น ประเทศเดียวในอาเซียนที่ผู้นำรัฐบาลกับ ฝ่ายค้านร่วมมือกัน เพราะมีวาระแห่งชาติ ชัดเจนต้องทำให้เมียนมาร์หลุดจากวัฏจักรของความจน ความล้าสมัย และ การแตกแยกภายในประเทศ รู้ว่าประเทศ ต้องการอะไรประธานาธิบดีเต็งเส่งมีความพยายามมากเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้ แต่ ประเทศไทยเหมือนกับว่าไม่มีวันสิ้นสุด ของวันพรุ่งนี้ เมียนมาร์จะเป็นประธาน อาเซียนปี 2557 โดยอยากสร้างความ ตื่นตัวในอาเซียน ดังสโลแกน “อาเซียน ประชาธิปไตยหนึ่งเดียว” เราต้องลืมเมียนมาร์ ฉากเก่าๆ ให้หมดที่ทั้งล้าหลัง โหดเหี้ยม เพราะตอนนี้เปลี่ยนแปลงมาก ส่วน ประเทศอื่นต้องปรับโดยเฉพาะประเทศไทย ลึกๆ กล้าๆ กลัวถูกด่าว่า ไม่เตรียมพร้อม เพราะคนไทยกลัวว่าสู้ ประเทศในอาเซียนไม่ ได้รู้ว่าภาษาอังกฤษ ไม่ดี มีปมด้อยเรื่องภาษาจริงๆ แล้วมันไม่ เกี่ยวกับว่าเราไม่ใช่เป็นเมืองขึ้นของใคร ภาษาอังกฤษเลยไม่เก่ง แต่ความจริงแล้ว คนที่เป็นเมืองขึ้นไม่เก่งอังกฤษก็มี เพียงแต่ว่าเราติดอยู่ในหัวว่า เราเป็น ประเทศอิสระ พูดภาษาอังกฤษไม่เป็น ซึ่งคนไทยพูดภาษาอังกฤษเก่งก็เยอะ เพียงแต่ เราต้องมีระบบการศึกษาที่แน่วแน่ คนไทยเรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่ได้ใช้ ตอนนี้ ประชาคมอาเซียนเป็นโอกาสที่จะทำให้ แต่ละประเทศตรวจดูว่ามีจุดแข็งจุดอ่อน ตรงไหน และจะต้องปรับตัวอย่างไร เพื่อ ที่จะรับสถานภาพเป็นประชาคมร่วมกัน เรียกว่ามี เสือ สิงห์ กระทิง แรด งู เต็มไปหมด ชาติพันธุ์มันเยอะ เราจะต้องเตรียมตัว อย่างไรมากกว่า สื่อไทยต้องกระตุ้นให้ประชาชน คนไทยมีส่วนร่วมกับประชาคมอาเซียน จะต้องมีบทบาทเหมือนสมัยกระตุ้น ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการยกร่าง รัฐธรรมนูญ ปี 2540 ยุคนั้นถือเป็นโอกาส ทองของสื่อมวลชนไทย ที่ได้เสนอข้อมูล จากเวทีสัญจรจนได้ประเด็นสำคัญเชื่อมโยงการเมืองภาคประชาชนจนเกิดกระแส สื่อไทยต้องทำแบบนี้ในเวลาที่เหลือ ที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ให้ข้อมูล ให้ความรู้ ให้ความรู้สึกว่าประชาชนเป็น หุ้นส่วนประชาคมอาเซียนอย่างบูรณาการ ขนาดสื่อมวลชนของยุโรปยังมีบทบาท เสนอข้อมูล สร้างภาพ สร้างความรู้สึกให้ ประชาชนก่อนแต่ละประเทศจะเข้าร่วม เป็นสหภาพยุโรป ตรงกันข้ามกับสื่อมวลชน อาเซียนในขณะนี้ยังตัวใครตัวมัน โดยเฉพาะ สื่อมวลชนไทยส่วนใหญ่เห็นแก่ตัวมาก ไม่ลงทุนไปทำข่าวประเทศในอาเซียน ยัง นำเสนอข่าวไม่เกินบริบทไทย อาจมีคน เถียงว่าไม่เป็นความจริงมี