Blended Learning: A Case Study on T

Blended Learning: A Case Study on Teacher Effectiveness
As blended learning expands educational environments, the effect of blended learning on the teacher's self-perception of effectiveness plays a significant role in the validity of the movement. The purpose of this case study explored how and why blended learning affected the self-perception of effectiveness of three middle school teachers. Using qualitative methodology, this case study conducted in the southwestern region of the United States through naturalistic inquiry, determined how blended learning affected the self-perception of teacher effectiveness. The data collection of the study included journaling, semi-structured interviews, and direct observations to examine their self-perceptions during a blended learning environment. The study identified possible limitations and advantages of blended learning in relation to effectiveness and compared their self-perception of effectiveness to their traditional teaching methods. The findings and conclusions of the study demonstrated a change in the participant's self-perception of effectiveness. Four distinct themes of environment, instruction, management, and relationships emerged from the study which may assist in identifying the skills and characteristics needed for educators to be effective leaders in blended learning. Future recommendations for research consist of conducting a similar study with underperforming teachers, using criteria-based evaluation tools to support level of effectiveness, incorporate a large-scale study, implement various blended learning models within one environment to determine success of the model, and determine whether blended learning has the ability to close the achievement gap between students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรียนรู้แบบผสมผสาน: กรณีศึกษาประสิทธิภาพครูเป็นการเรียนรู้แบบผสมผสานขยายสภาพแวดล้อมทางการศึกษา ผลการเรียนรู้แบบผสมผสานบนของครู self-perception ประสิทธิภาพมีบทบาทสำคัญในความเคลื่อนไหว วัตถุประสงค์ของกรณีศึกษานี้อุดมว่าทำไมเรียนแบบผสมผสานได้รับผลกระทบ self-perception ประสิทธิภาพของครูโรงเรียนมัธยมสาม ใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ กรณีศึกษานี้ดำเนินการในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาผ่านสอบถาม naturalistic เรียนรู้วิธีผสมกำหนดผล self-perception ประสิทธิภาพครู รวบรวมข้อมูลของการศึกษารวมบันทึก สัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และสังเกตการณ์โดยตรงเพื่อตรวจสอบ self-perceptions ของพวกเขาในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบผสมผสาน การศึกษาระบุข้อจำกัดที่เป็นไปได้และข้อดีของการเรียนรู้แบบผสมผสานเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และเปรียบเทียบการ self-perception ประสิทธิผลกับวิธีการสอนแบบดั้งเดิม ค้นพบและข้อสรุปของการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้เข้าร่วม self-perception ประสิทธิภาพ ชุดรูปแบบทั้งสี่ของสิ่งแวดล้อม คำสั่ง การจัดการ และความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจากการศึกษาซึ่งอาจช่วยในการกำหนดทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นสำหรับความเป็น ผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้แบบผสมผสาน คำแนะนำในอนาคตสำหรับการวิจัยประกอบด้วยการดำเนินการ ด้วยวิธีครู การใช้เครื่องมือประเมินผลตามเกณฑ์การสนับสนุนระดับของประสิทธิภาพ รวมการศึกษาขนาดใหญ่ ใช้รุ่นต่าง ๆ ของการเรียนรู้แบบผสมผสานในสภาพแวดล้อมหนึ่งที่กำหนดความสำเร็จของรูปแบบ และตรวจสอบว่า การเรียนรู้แบบผสมผสานมีความสามารถในการปิดช่องว่างระหว่างนักเรียนสำเร็จการศึกษาคล้ายกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรียนรู้แบบผสมผสาน: กรณีศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของครู
ในฐานะที่เรียนรู้แบบผสมผสานขยายสภาพแวดล้อมการศึกษาผลกระทบของการเรียนรู้แบบผสมผสานในการรับรู้ของครูตัวเองของความมีประสิทธิผลมีบทบาทสำคัญในความถูกต้องของการเคลื่อนไหว วัตถุประสงค์ของการศึกษากรณีนี้การสำรวจวิธีการและเหตุผลเรียนรู้แบบผสมผสานได้รับผลกระทบการรับรู้ตนเองของประสิทธิภาพของสามครูโรงเรียนมัธยม การใช้วิธีการเชิงคุณภาพกรณีศึกษานี้ดำเนินการในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาผ่านการสอบถามธรรมชาติกำหนดวิธีการเรียนรู้แบบผสมผสานได้รับผลกระทบการรับรู้ตนเองของประสิทธิภาพของครู การเก็บรวบรวมข้อมูลของการศึกษารวม journaling สัมภาษณ์กึ่งโครงสร้างและการสังเกตโดยตรงในการตรวจสอบการรับรู้ของตัวเองของพวกเขาในช่วงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบผสมผสาน ผลการศึกษาระบุข้อ จำกัด ที่เป็นไปได้และข้อดีของการเรียนรู้แบบผสมผสานในความสัมพันธ์กับประสิทธิผลและเมื่อเทียบกับการรับรู้ของตัวเองของพวกเขาที่มีประสิทธิภาพวิธีการสอนแบบดั้งเดิมของพวกเขา ผลการวิจัยและข้อสรุปของการศึกษาแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ของผู้เข้าร่วมตนเองของประสิทธิภาพ สี่รูปแบบที่แตกต่างของสภาพแวดล้อมการเรียนการสอนการจัดการและความสัมพันธ์ที่โผล่ออกมาจากการศึกษาซึ่งอาจช่วยในการระบุทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นสำหรับการศึกษาที่จะเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้แบบผสมผสาน คำแนะนำสำหรับการวิจัยในอนาคตประกอบด้วยการดำเนินการศึกษาที่คล้ายกันกับครูผลการดำเนินงานโดยใช้เครื่องมือการประเมินผลตามเกณฑ์ที่ใช้ในการสนับสนุนระดับของประสิทธิผลรวมการศึกษาขนาดใหญ่นำไปใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานต่างๆภายในหนึ่งสภาพแวดล้อมในการกำหนดความสำเร็จของรูปแบบและกำหนด ไม่ว่าจะเรียนรู้แบบผสมผสานที่มีความสามารถในการปิดช่องว่างความสำเร็จระหว่างนักศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเรียนรู้แบบผสมผสาน : กรณีศึกษาครูประสิทธิผล
เป็นเรียนแบบผสมผสาน ขยายสภาพแวดล้อมการศึกษา ผลของการเรียนรู้แบบผสมผสานในตนเองการรับรู้ประสิทธิผลของครูมีบทบาทสำคัญ ในความถูกต้องของการเคลื่อนไหว วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ สำรวจว่าทำไมการเรียนรู้ผสมมีผลต่อการรับรู้ตนเองของประสิทธิผลของครูมัธยมสามโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งศึกษากรณีเฉพาะเขตตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาผ่านการสอบถามในสภาพธรรมชาติ กำหนดวิธีการเรียนการสอนแบบผสมผสานต่อตนเองการรับรู้ประสิทธิผลของครู การเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัย journaling , การสัมภาษณ์ ,โดยตรงและการสังเกตเพื่อศึกษาการรับรู้ตนเองในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบผสมผสาน ผลการศึกษาระบุเป็นไปได้ข้อจำกัดและข้อดีของการเรียนรู้แบบผสมผสานในความสัมพันธ์กับประสิทธิผลและเปรียบเทียบตนเองการรับรู้ประสิทธิผลของวิธีการสอนแบบดั้งเดิมของพวกเขาผลการวิจัยและข้อสรุปของการศึกษาแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ตนเองของผู้เข้าร่วมงาน สี่รูปแบบที่แตกต่างกันของสภาพแวดล้อม การเรียนการสอน การบริหาร และความสัมพันธ์ที่โผล่ออกมาจากการศึกษาซึ่งอาจช่วยในการระบุทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นสำหรับครูที่จะเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพในการเรียนรู้แบบผสมผสานข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคตประกอบด้วยการการศึกษาที่คล้ายกันกับ underperforming ครู โดยใช้เกณฑ์การประเมินตามเครื่องมือสนับสนุนระดับของประสิทธิผล รวมการศึกษาขนาดใหญ่ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบผสมผสานในสภาพแวดล้อมต่าง ๆเพื่อกำหนดความสำเร็จของรุ่นและตรวจสอบว่า เรียนแบบผสมผสาน มีความสามารถในการปิดช่องว่างระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน