Abstracts Thai
Gene therapy กำลังเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความสนใจในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ เช่น โรคที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม โรคมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งหลักการของ gene therapy ในการรักษาโรคนั้นประกอบด้วย การแทนที่ยีนที่มีการกลายพันธุ์หรือยีนที่เป็นสาเหตุของโรคด้วยยีนที่ปกติ, การระงับยีนที่มีการกลายพันธุ์ และการใส่ยีนใหม่ที่จะช่วยต่อสู้กับโรคต่างๆได้ โดยการใช้ naked therapeutic gene นั้นจะไม่สามารถนำส่งเข้าสู่เซลล์และออกฤทธิ์ในการรักษาโรคได้ จึงมีการนำเอา carrier มาใช้ในการนำส่งยีนเข้าสู่เซลล์ ซึ่งประกอบด้วย viral vectors และ non-viral vectors ซึ่งในปัจจุบัน Chitosan นั้นมีการนำเอามาประยุกต์ใช้ทางด้านเภสัชกรรมอย่างหลากหลาย รวมถึงการนำส่งยีนโดยเหตุผลที่ Chitosan ที่เป็น natural cationic polymer ถูกเลือกใช้ในการนำส่งยีนเนื่องจาก Chitosan นั้นมี biocompatibility, low toxicity และ low immunogenicity แต่ Chitosan ก็ยังมีข้อจำกัดที่มีผลต่อการนำส่งยีนเข้สู่เซลล์คือ poor solubility and stability at physiological pH and low cell specificity ดังนั้นจึงมีการปรับปรุงchitosan ในทางเคมีเพื่อใช้ในการนำส่งยีนนั้นจะปรับปรุงโดยใช้ Hydrophilic groups เช่น Poly(ethylene glycol) (PEG), Dextran เป็นต้น, Hydrophobic groups เช่น Alkyl group, Stearic acid เป็นต้น และ cell-specific ligands เช่น mannose, Transferrin เป็นต้น เพื่อเพิ่มความจำเพาะเจาะจงของเซลล์และประสิทธิภาพการนำส่ง pDNA เข้าสู่เซลล์ได้
In this seminar, การปรับปรุง Chitosan โดยใช้ caproic acid ซึ่งเป็น hydrophobic modification เพื่อเพิ่มการนำส่งเข้าสู่เซลล์และ transfection efficiency ขึ้น และการศึกษาที่ 2, สังเคราะห์ Folic acid-polyethylene glycol-chitosan oligosaccharide lactate (FA-PEG-COL) nanoparticle เพื่อใช้ในการนำส่ง siRNA ที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อ HIF-1 gene เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำส่งและความจำเพาะเจาะจงต่อ ovarian cancer cells ซึ่งคาดหวังว่าการปรับปรุง Chitosan นั้นจะสามารถทำให้สร้าง safe, efficacy and specificity carriers เพื่อมช้ในการรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นได้