the sleep variables,we observed tha

the sleep variables,
we observed that caloric intake in a night (represented
as percent of total caloric intake, %) correlated positively with
sleep latency in women (r2
= 0.45; r = 0.67, p < 0.001) (n = 15)
but not in men (Figure 1). Indeed, caloric intake in a night (%)
correlated negatively with sleep efficiency in women (r2
= 0.26;
r = −0.51, p = 0.007) (n = 15) (Figure 2) but not in men.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวแปรการนอนหลับเราสังเกตว่า ลอรี่ในคืน (แทนเป็นเปอร์เซ็นต์ของผลรวม ลอรี่%) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับนอนเวลาแฝงในผู้หญิง (r2 = 0.45 r = 0.67, p < 0.001) (n = 15)แต่ไม่ใช่ ในผู้ชาย (รูปที่ 1) จริง ลอรี่ในคืน (%)มีความสัมพันธ์ทางลบกับประสิทธิภาพการนอนหลับในผู้หญิง (r2 = 0.26r = −0.51, p = 0.007) (n = 15) (รูป 2) แต่ ในผู้ชายไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวแปรการนอนหลับ
ที่เราสังเกตเห็นว่าแคลอรี่ในคืน (แสดง
เป็นร้อยละของปริมาณแคลอรี่รวม,%) มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ
ความล่าช้านอนในผู้หญิง (R2
= 0.45; r = 0.67, p <0.001) (n = 15)
แต่ไม่ ในผู้ชาย (รูปที่ 1) อันที่จริงการบริโภคแคลอรี่ในคืน (%)
ความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีประสิทธิภาพในการนอนหลับของผู้หญิง (R2
= 0.26;
r = -0.51, P = 0.007) (n = 15) (รูปที่ 2) แต่ไม่ได้อยู่ในคน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นอนที่ตัวแปรเราพบปริมาณแคลอรี่ในเวลากลางคืน ( แสดงที่เป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดการบริโภคแคลอริก , % ) มีความสัมพันธ์ทางบวกกับนอนแฝงในผู้หญิง ( อาร์ทู= 0.45 ; r = 0.67 , p < 0.001 ) ( n = 15 )แต่ในผู้ชาย ( รูปที่ 1 ) แน่นอน , การบริโภคแคลอริกในเวลากลางคืน ( % )มีความสัมพันธ์ทางลบกับประสิทธิภาพในผู้หญิง ( 2 ) นอน= 0.26 ;R = − 0.51 , P = 0.007 ) ( n = 15 ) ( รูปที่ 2 ) แต่ในผู้ชาย