Phase 3: Assaults Against the Elder

Phase 3: Assaults Against the Elderly
Surprisingly little is known about the occurrence of domestic violence against elders in families for several rea sons. First, most studies do not distinguish between elder abuse and elder neglect. Second, families are unlikely to report the abuse because the responsible person is often ason or daughter. Third, many elderly people are homebound with no one around to see what is happening.
National estimates of the prevalence of elder abuse indicate that 1 out of every 20 senior citizens, or over 1.5 million older people, is a victim of elder abuse (Brownell, 1999). There is a lack of reserch in elder abuse and neglect. The fact that 13% of the nation's population is over the age of 65 and this figure will rise to almost 20% by the 2020s emphasizes the need for more research in this area.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขั้นที่ 3: โจมตีกับผู้สูงอายุแปลกใจเล็กน้อยเป็นที่รู้จักเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของความรุนแรงกับผู้อาวุโสในครอบครัวสำหรับบุตรหลายประเพณี ครั้งแรก ศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้แยกระหว่างคนละเมิดและละเลยคน ที่สอง ครอบครัวไม่น่าจะรายงานการละเมิดเนื่องจากบุคคลที่รับผิดชอบมักจะ ason หรือลูกสาว ที่สาม ผู้สูงอายุหลายคนกำลัง homebound กับหนึ่งรอบ ๆ เพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น ประเมินความชุกของการละเมิดพี่ชาติบ่งชี้ว่า 1 จากทุกอายุ 20 หรือกว่า 1.5 ล้านคน เหยื่อของการละเมิดพี่ (Brownell, 1999) มีการขาดของ reserch พี่ละเมิดและละเลย ความจริงที่ว่า 13% ของประชากรของประเทศมีอายุเกิน 65 ปี และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเกือบ 20% โดยดรถยนต์เน้นความจำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติมในพื้นที่นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขั้นตอนที่ 3: ป้องกันข่มขืนผู้สูงอายุ
น้อยน่าแปลกที่เป็นที่รู้จักกันเกี่ยวกับการเกิดขึ้นของความรุนแรงในครอบครัวกับผู้สูงอายุในครอบครัวลูกชาย Rea หลาย ครั้งแรกของการศึกษาส่วนใหญ่ไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการละเมิดสูงอายุและละเลยผู้สูงอายุ ประการที่สองครอบครัวจะไม่น่าจะรายงานการละเมิดเพราะผู้รับผิดชอบมักจะ ASON หรือลูกสาว ประการที่สามผู้สูงอายุจำนวนมากกำลัง homebound ไม่มีใครรอบ ๆ เพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น.
ประมาณการแห่งชาติของความชุกของการละเมิดสูงอายุระบุว่า 1 ในทุกพลเมืองอาวุโส 20 หรือมากกว่า 1.5 ล้านคนที่มีอายุมากกว่าเป็นเหยื่อของการละเมิดสูงอายุ (บราวเนล , 1999) มีการขาดการวิจัยในการละเมิดสูงอายุและละเลยคือ ความจริงที่ว่า 13% ของประชากรของประเทศคืออายุมากกว่า 65 ปีและตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 20% โดย 2020s เน้นถึงความจำเป็นสำหรับการวิจัยมากขึ้นในพื้นที่นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขั้นตอนที่ 3 : ข่มขืนกับผู้สูงอายุจู่ ๆเป็นที่รู้จักกันเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการเกิดความรุนแรงต่อผู้สูงอายุในครอบครัว ลูกหลานแท้ๆ หลาย ก่อนการศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้แยกแยะระหว่างการละเมิดผู้สูงอายุ ผู้อาวุโส ละเลย ประการที่สอง ครอบครัวมีแนวโน้มที่จะรายงานการละเมิดเพราะคนที่รับผิดชอบคือมักจะ เหตุผล หรือ ลูกสาว ประการที่สาม ผู้สูงอายุหลายคนกำลังรักษาตัวอยู่บ้านไม่มีใครรอบ ๆเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นแห่งชาติประมาณการความชุกของการทำร้ายผู้สูงอายุพบว่า 1 ใน 20 พลเมืองอาวุโส หรือกว่า 1.5 ล้านบาทแก่คนที่เป็นเหยื่อของการทำร้ายผู้สูงอายุ ( บราวเนล , 1999 ) มีการขาดของการวิจัยในผู้สูงอายุและละเลย ความจริงที่ 13% ของประชากรของประเทศที่อายุ 65 และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเกือบ 20% โดยคริสต์ทศวรรษ 2010 เน้นความต้องการการวิจัยเพิ่มเติมในพื้นที่นี้