The salinity level and SAR indicate

The salinity level and SAR indicate different water classes according to their appropriateness for agricultural purposes (Table 3). SAR values are influenced by calcium and magnesium contents. According to FAO, calciumis not toxic, however, scale formation such as calciumcarbonate and calciumsulfate can create problems in the irrigation system together with a reduced acceptance by the market when the salts precipitate on fresh fruits and vegetables [9]. Magnesium is essential for field
crops, whichwhen its composition is too low, should be added to the irrigation water (even though, in reality, this is not done because of the high cost). Nevertheless, magnesium can also have the same negative impact as sodium when applied in extensive amounts, in particular if the magnesium to calcium ratio is higher than 1 [10]. In fact, Severino et al. [11] found that high concentrations ofmagnesium and calciumreduce
the SAR ratio but, at the same time, increase electrical conductivity thus giving origin to awaterwith quality not completely appropriate for irrigation. Specific guidelines for calcium and magnesium have to be stipulated with respect to the amount already present in the soil and irrigation water. However, FAO provides values usually in the range of 0–400 mg/l and 0–61 mg/l for calcium and magnesium, respectively [9]. SAR, salinity, trace elements, etc. are the parameters usually used to identify whether water from a source can be utilized or not for irrigation. However, these parameters do not take into account all the components that have to be present (such as nutrients, etc.) in order to
maximize crop yields by using less water resources [13]. Therefore

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระดับความเค็มและ SAR ระบุประเภทน้ำต่างกันตามความเหมาะสมของการเกษตร (ตาราง 3) ค่า SAR มีอิทธิพลหาแคลเซียมและแมกนีเซียม ตาม FAO ไม่เป็นพิษ calciumis อย่างไรก็ตาม ขนาดการก่อตัวเช่น calciumcarbonate และ calciumsulfate สามารถสร้างปัญหาในระบบชลประทานร่วมกับการยอมรับลดลงโดยตลาดเมื่อเกลือตกตะกอนในผลไม้และผักสด [9] แมกนีเซียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฟิลด์พืช whichwhen องค์ประกอบของภาพต่ำเกินไป ควรเพิ่มน้ำชลประทาน (แม้ว่า ความจริง นี้จะไม่ทำเนื่องจากต้นทุนสูง) อย่างไรก็ตาม แมกนีเซียมยังสามารถมีผลกระทบเดียวกันเป็นโซเดียมเมื่อใช้ในปริมาณที่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอัตราส่วนแคลเซียมแมกนีเซียมมีมากกว่า 1 [10] ในความเป็นจริง Severino ร้อยเอ็ด [11] พบว่าความเข้มข้นสูง ofmagnesium และ calciumreduceอัตราส่วน SAR แต่ พร้อมกัน มากขึ้นไฟฟ้าจึง ให้กำเนิด awaterwith คุณภาพไม่สมบูรณ์เหมาะสมสำหรับการชลประทาน หลักเกณฑ์เฉพาะสำหรับแคลเซียมและแมกนีเซียมได้กำหนดเกี่ยวกับจำนวนเงินอยู่ในน้ำดินและน้ำได้ อย่างไรก็ตาม FAO ให้ค่าปกติในช่วง 0 – 400 mg/l และ 0 – 61 mg/l สำหรับแคลเซียมและแมกนีเซียม ตามลำดับ [9] SAR ธาตุ ความเค็ม ฯลฯ มีพารามิเตอร์มักจะใช้เพื่อระบุ ว่าสามารถใช้น้ำจากแหล่ง หรือไม่ สำหรับการชลประทาน อย่างไรก็ตาม พารามิเตอร์เหล่านี้ไม่ได้ทั้งหมดที่คอมโพเนนต์ที่จำเป็นต้องนำเสนอ (เช่นสารอาหาร ฯลฯ) เพื่อให้เพิ่มผลผลิต โดยใช้ทรัพยากรน้อยลงน้ำ [13] ดังนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระดับความเค็มและ SAR บ่งบอกถึงการเรียนน้ำที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของพวกเขาสำหรับวัตถุประสงค์การเกษตร (ตารางที่ 3) ค่า SAR ได้รับอิทธิพลจากแคลเซียมและแมกนีเซียมเนื้อหา ตามข้อกำหนดของ FAO calciumis ไม่เป็นพิษ แต่ก่อโยเช่น calciumcarbonate และแคลเซียมซัลเฟตสามารถสร้างปัญหาในระบบชลประทานร่วมกับการยอมรับลดลงตามตลาดเมื่อเกลือตกตะกอนในผลไม้สดและผัก [9] แมกนีเซียมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฟิลด์
พืช whichwhen องค์ประกอบของมันต่ำเกินไปควรจะเพิ่มลงไปในน้ำชลประทาน (แม้ว่าในความเป็นจริงนี้ไม่ได้ทำเพราะค่าใช้จ่ายสูง) อย่างไรก็ตามแมกนีเซียมยังสามารถมีผลกระทบเชิงลบเช่นเดียวกับโซเดียมเมื่อนำมาใช้ในปริมาณที่กว้างขวางโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแมกนีเซียมอัตราส่วนแคลเซียมสูงกว่า 1 [10] ในความเป็นจริง Severino et al, [11] พบว่าความเข้มข้นสูงและ ofmagnesium calciumreduce
อัตราส่วน SAR แต่ในเวลาเดียวกันเพิ่มการนำไฟฟ้าจึงให้กำเนิดคุณภาพ awaterwith ไม่สมบูรณ์ที่เหมาะสมเพื่อการชลประทาน แนวทางที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแคลเซียมและแมกนีเซียมจะต้องมีการกําหนดที่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่มีอยู่แล้วในดินและการชลประทานน้ำ อย่างไรก็ตาม FAO ให้ค่าปกติในช่วง 0-400 mg / l และ 0-61 mg / l สำหรับแคลเซียมและแมกนีเซียมตามลำดับ [9] SAR ความเค็มธาตุ ฯลฯ พารามิเตอร์ที่มักจะใช้ในการระบุว่าน้ำจากแหล่งที่สามารถนำไปใช้หรือไม่เพื่อการชลประทาน อย่างไรก็ตามพารามิเตอร์เหล่านี้ไม่ได้คำนึงถึงทุกองค์ประกอบที่จะต้องมีในปัจจุบัน (เช่นสารอาหารอื่น ๆ ) เพื่อ
เพิ่มผลผลิตโดยใช้ทรัพยากรน้ำน้อย [13] ดังนั้น