4. Discovering frequent itemsets fr

4. Discovering frequent itemsets from a real-time data stream
Table 1 illustrates example transactions. Assume that the window size is 2 (one window has 2 batches) and the minimum
support threshold is 0.2. window1 consists of Batch1 and Batch2, and window2 consists of Batch2 and Batch3. When Batch3
arrives, since the window is full, we remove Batch1 from CanTree, and add Batch3 to CanTree. Fig. 1 shows the CanTree,
iTable, and lTable for window1 (Batch1 and Batch2). iTable has information for a list of nodes with the same data item in
CanTree of Fig. 1. lTable has information for the last node of each transaction in Fig. 1. Fig. 6 shows CanTree after removing
Batch1. We use lTable to remove Batch1. Table 2 shows iTable and lTable for CanTree in Fig. 6. Fig. 7 shows CanTree after
removing Batch1 and adding Batch3 (CanTree for window2). Table 3 also shows iTable and lTable for CanTree in Fig. 7. We
simply add Batch3 by sorting data items of each transaction, and adding the batch to CanTree. Therefore, we add Batch
without any restructuring of CanTree.
We now describe in detail the CanTree-GTree algorithm with a set of transactions in window1. Fig. 1 shows iTable for
CanTree of window1. We use iTable to construct the GTrees that are needed to discover frequent itemsets. Because the
minimum support threshold is 0.2, the minimum support count is 2 (ceil(8 ∗ 0.2)=2). Only the support counts of data items

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. การค้นพบ itemsets บ่อยจากการสตรีมข้อมูลเรียลไทม์ตารางที่ 1 แสดงตัวอย่างธุรกรรม สมมติว่า ขนาดของหน้าต่างเป็น 2 (หน้าต่างหนึ่งมี 2 ชุด) และต่ำสุดเกณฑ์การสนับสนุนคือ 0.2 window1 ประกอบด้วย Batch1 และ Batch2 และ window2 ประกอบด้วย Batch2 และ Batch3 เมื่อ Batch3มาถึง ตั้งแต่หน้าต่างเต็ม เราเอา Batch1 จาก CanTree และเพิ่ม Batch3 CanTree รูปที่ 1 แสดง CanTreeiTable และ lTable สำหรับ window1 (Batch1 และ Batch2) iTable มีข้อมูลสำหรับรายการของโหนดที่มีข้อมูลสินค้าเดียวกันในCanTree ของรูปที่ 1 lTable มีข้อมูลสำหรับโหนครั้งสุดท้ายของแต่ละธุรกรรมในรูปที่ 1 รูปที่ 6 แสดง CanTree หลังจากเอาออกBatch1 เราสามารถใช้ lTable เพื่อเอา Batch1 ตารางที่ 2 แสดง iTable และ lTable สำหรับ CanTree ในรูปที่ 6 รูป 7 แสดง CanTree หลังเอา Batch1 และเพิ่ม Batch3 (CanTree สำหรับ window2) ตารางที่ 3 ยังแสดง iTable และ lTable สำหรับ CanTree ในรูป 7 เราเพียงแค่เพิ่ม Batch3 โดยการเรียงลำดับรายการข้อมูลของแต่ละธุรกรรม และเพิ่มชุด CanTree ดังนั้น เราสามารถเพิ่มชุดโดยไม่มีการปรับโครงสร้างของ CanTreeเราเดี๋ยวนี้อธิบายในรายละเอียดขั้นตอนวิธี CanTree GTree กับชุดของธุรกรรมใน window1 รูปที่ 1 แสดง iTable สำหรับCanTree ของ window1 เราใช้ iTable สร้าง GTrees ที่ต้องไปเยือนบ่อย itemsets เนื่องจากการเกณฑ์ขั้นต่ำสนับสนุนคือ 0.2 จำนวนสนับสนุนขั้นต่ำคือ 2 (เพดาน (8 ∗ 0.2) = 2) การสนับสนุนนับของรายการข้อมูล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. การค้นพบ itemsets บ่อยจากเวลาจริงกระแสข้อมูล
ตารางที่ 1 แสดงให้เห็นถึงการทำธุรกรรมตัวอย่างเช่น สมมติว่าขนาดของหน้าต่างคือ 2 (หน้าต่างหนึ่งมี 2 แบทช์) และต่ำสุด
เกณฑ์การสนับสนุนคือ 0.2 Window1 ประกอบด้วย Batch1 และ Batch2 และ window2 ประกอบด้วย Batch2 และ Batch3 เมื่อ Batch3
มาถึงตั้งแต่หน้าต่างเต็มเราลบ Batch1 จาก CanTree และเพิ่ม Batch3 เพื่อ CanTree มะเดื่อ. 1 แสดง CanTree,
iTable และ lTable สำหรับ Window1 (Batch1 และ Batch2) iTable มีข้อมูลสำหรับรายการของโหนดพร้อมกับรายการข้อมูลเดียวกันใน
CanTree ของรูป 1. lTable มีข้อมูลโหนดสุดท้ายของแต่ละรายการในรูป 1. รูป 6 แสดง CanTree หลังจากลบ
Batch1 เราใช้ lTable เพื่อลบ Batch1 ตารางที่ 2 แสดง iTable และ lTable สำหรับ CanTree ในรูป 6. รูป 7 แสดงให้เห็น CanTree หลังจาก
ถอด Batch1 และการเพิ่ม Batch3 (CanTree สำหรับ window2) ตารางที่ 3 ยังแสดงให้เห็น iTable และ lTable สำหรับ CanTree ในรูป 7. เรา
เพียงแค่เพิ่ม Batch3 โดยการเรียงลำดับรายการข้อมูลของแต่ละรายการและการเพิ่มชุดเพื่อ CanTree ดังนั้นเราจึงเพิ่มชุด
โดยไม่ต้องปรับโครงสร้างของ CanTree ใด ๆ .
ตอนนี้เราอธิบายในรายละเอียดขั้นตอนวิธีการ CanTree-GTree กับชุดของการทำธุรกรรมใน Window1 มะเดื่อ. 1 แสดง iTable สำหรับ
CanTree ของ Window1 เราใช้ในการสร้าง iTable GTrees ที่มีความจำเป็นที่จะค้นพบ itemsets บ่อย เพราะ
เกณฑ์การสนับสนุนต่ำสุดคือ 0.2 นับสนับสนุนขั้นต่ำคือ 2 (ceil (8 * 0.2) = 2) เฉพาะข้อหาการสนับสนุนของรายการข้อมูล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . การเซตรายการความถี่จากกระแสข้อมูลเรียลไทม์ตารางที่ 1 แสดงรายการตัวอย่าง สมมติว่าขนาดหน้าต่างที่ 2 ( หน้าต่างมี 2 ชุด ) และต่ำสุดเกณฑ์การสนับสนุนเป็น 0.2 window1 ประกอบด้วย batch1 และ batch2 และ window2 ประกอบด้วย batch2 และ batch3 . เมื่อ batch3มาถึง เพราะหน้าต่างมันเต็ม เราเอา batch1 จาก cantree และเพิ่ม batch3 เพื่อ cantree . รูปที่ 1 แสดง cantree ,itable และ ltable สำหรับ window1 ( batch1 และ batch2 ) itable มีข้อมูลสำหรับรายการของโหนดที่มีข้อมูลเดียวกันในรายการcantree ของรูปที่ 1 ltable มีข้อมูลสำหรับปมสุดท้ายของแต่ละรายการในรูปที่ 1 รูปที่ 6 แสดง cantree หลังจากเอาออกbatch1 . เราใช้ ltable ลบ batch1 . ตารางที่ 2 แสดง itable ltable สำหรับ cantree และในรูปที่ 6 รูปที่ 7 แสดง cantree หลังจากลบ batch1 และเพิ่ม batch3 ( cantree สำหรับ window2 ) ตารางที่ 3 และยังแสดงให้เห็น itable ltable สำหรับ cantree ในรูปที่ 7 เราเพียงแค่เพิ่ม batch3 โดยการเรียงลำดับรายการข้อมูลแต่ละรายการ และเพิ่มไปยังชุด cantree . ดังนั้นเราจึงเพิ่มชุดโดยไม่ต้องมีการปรับโครงสร้างของ cantree .ตอนนี้เราอธิบายในรายละเอียด cantree gtree อัลกอริทึมกับชุดของรายการใน window1 . รูปที่ 1 แสดง itable สำหรับcantree ของ window1 . เราใช้ itable สร้าง gtrees ที่ต้องการค้นพบเซตรายการความถี่ . เพราะค่าสนับสนุนขั้นต่ำ 0.2 , นับสนับสนุนขั้นต่ำ 2 ( CEIL ( 8 ∗ 0.2 ) = 2 ) เท่านั้นสนับสนุนนับของรายการข้อมูล