ด้านการแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุข สมเด็จย่า ทรงสนพระราชหฤทัยในคุณภาพชีว การแปล - ด้านการแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุข สมเด็จย่า ทรงสนพระราชหฤทัยในคุณภาพชีว ไทย วิธีการพูด

ด้านการแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุข สม

ด้านการแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุข
สมเด็จย่า ทรงสนพระราชหฤทัยในคุณภาพชีวิตของพสกนิกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในถิ่นห่างไกลความเจริญ ด้วยทรงเห็นว่าสุขภาพคนเราเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าสุขภาพของประชาชนดีแล้ว การประกอบอาชีพ ฐานะความเป็นอยู่ ตลอดจนการพัฒนาประเทศก็ย่อมดีตามไปด้วย
สมเด็จย่าจึงทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์ พยาบาลและการสาธารณสุข โดยทรงเจริญตามรอยยุคลบาทสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งแพทย์แผนปัจจุบันและสาธารณสุข” ผู้ทรงอุทิศพระองค์และพระราชทรัพย์เพื่อกิจการด้านนี้มากมาย ดังลายพระหัตถ์เกี่ยวกับความสำคัญของการสาธารณสุขที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมีถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ว่า
“หม่อมฉันรู้สึกเสมอว่า การสาธารณสุขนั้นเป็นการสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งเป็นเครื่องทำนุบำรุงกำลังของชาติไทย และเป็นสาธารณะประโยชน์แก่มนุษยชาติทั่วไปด้วย เพราะนั้น เมื่อมีโอกาสอันใดซึ่งหม่อมฉันพอที่จะช่วยออกกำลังกายและสติปัญญาหรือทรัพย์ อันเป็นผลที่จะทำนุบำรุงให้การนั้นเจริญขึ้นแล้ว หม่อมฉันยินดีปฏิบัติเสมอ”
ดังนั้น เมื่อสิ้นสมเด็จพระบรมราชชนกแล้ว แม้ว่าการอภิบาลพระโอรสธิดาให้มีพลานามัยและการศึกษาที่ดีจะเป้นพระราชภารกิจที่ต้องให้เวลาและความเอาใจใส่ดูแลถี่ถ้วนอย่างมาก แต่สมเด็จย่าก็ทรงมีเวลาให้แก่การแพทย์ พยาบาลและสาธารณสุขเสมอ โดยเฉพาะโครงการต่างๆ ที่สมเด็จพระบรมราชชนกเคยสนับสนุนมาแต่เดิม สมเด็จย่าทรงดำเนินกิจกรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมราชชนกโดยมิได้ทรงหยุดยั้ง ผู้ใดที่เคยได้รับพระราชทานทุนการศึกษาจากสมเด็จพระบรมราชชนก ก็ทรงพระเมตตาพระราชทานต่อไปจนสำเร็จการศึกษา ทรงช่วยในการก่อสร้างปรับปรุงโรงพยาบาลศิริราชให้สำเร็จลุล่วงตามพระราชประสงค์ ได้พระราชทานเงินเพิ่มเป็นรายเดือนแก่แพทย์ผู้เป็นนักเรียนทุนของสมเด็จพระบรมราชชนกที่กลับมารับราชการแล้วได้เงินเดือนน้อยกว่าที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ได้พระราชทานเงินจำนวน 500,000 บาท ให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภายในกำหนด 25 ปี เพื่อตั้งเป็นทุนสำหรับเก็บดอกผลส่งคนไปศึกษาเพิ่มเติมในต่างประเทศ ต่อมาได้โอนทุนนี้ให้มหาวิทยาลัยแพทย์ คือ มหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน
เมื่อตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลนิวัติประเทศไทยใน พ.ศ. 2488 สมเด็จย่าได้ทรงนำยาที่เรียกว่า PAS เข้ามาเมืองไทยเป็นครั้งแรก ยานี้ใช้ในการผลิตวัคซีนบีซีจี สร้างภูมิคุ้มกันวัณโรคให้ร่างกาย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทย มิให้ต้องเป็นเหยื่อของโรคร้ายนี้ ต่อมาใน พ.ศ. 2494 สมเด็จพระปิโยรสพระองค์เล็กได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างตึกสำหรับผลิตบีซีจี ซึ่งเป็นยาฉีดให้แก่เด็กเพื่อป้องกันวัณโรค พระราชทานนามตึกนี้ว่า มหิดลวงศานุสรณ์
สมเด็จย่าทรงรับเป็นผู้อุปถัมภ์สมาคม มูลนิธิต่างๆ มากมาย เป็นต้นว่า ทรงเป็นประธานมูลนิธิอานันทมหิดล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2502 เพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล มีวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกบุคคลส่งไปศึกษาวิชาพิเศษ ณ ต่างประเทศในสาขาวิชาต่างๆ เพื่อให้กลับมาปฏิบัติงานให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
พระราชทานเงินรายปีสมทบทุนเพื่อเก็บดอกผลช่วยนักเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัยของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
พระราชทานเงินสมทบทุนโรงพยาบาลติดต่อปากคลองสาน ธนบุรี เพื่อสร้างประปาชั่วคราวช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาลนั้น
ทรงสนับสนุนส่งเสริมวิชาชีพและการศึกษาพยาบาลตั้งแต่เริ่มการก่อตั้งสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยสมัยแรก โดยทรงร่วมเป็นกรรมการของสมาคม สมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศิริราช
ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัย จังหวัดสงขลา
ใน พ.ศ. 2503 ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้าง “อาคารศรีสังวาลย์” ขึ้นที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อให้เป็นที่ตรวจรักษาและบำบัดคนพิการ
ทรงรับเป็นองค์ประธานกรรมการศิริราชมูลนิธิ ซึ่งได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2510 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำดอกผลที่เกิดจากเงินกองทุนของมูลนิธิมาส่งเสริมกิจการต่างๆ ของคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ
ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิช่วยคนโรคเรื้อนจังหวัดลำปาง ใน พ.ศ. 2505 และทรงอุปถัมภ์โรงเรียนจิตต์อารีของมูลนิธิซึ่งเป็นบ้านและโรงเรียนของลูกผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ยังไม่ได้รับเชื้อจากพ่อแม่
ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย
พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 500,000 บาท จัดตั้งมูลนิธิขาเทียมเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2535
แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี
เมื่อสมเด็จย่าเสด็จประพาสหัวเมืองเยี่ยมพสกนิกร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ นับแต่ พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา ทำให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นความทุกขเวทนาของราษฎรตามสถานที่เหล่านั้นยามเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยพระองค์เอง ทรงพบว่าราษฎรส่วนใหญ่มักเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร โรคพยาธิ โรคผิวหนัง ไข้ป่า ซึ่งเป็นโรคพื้นฐานทั่วไป แต่มักเสียชีวิตเพราะไม่มีบริการทางการแพทย์ในถิ่นทุรกันดาร
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2512 สมเด็จย่าจึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ในพระองค์ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นแห่งแรก พระราชทานนามว่า “แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี” มีอักษรย่อว่า พอ.สว. หน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ พอ.สว. นี้ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสมาชิกสมทบอีกคณะหนึ่ง ซึ่งล้วนเป็นอาสาสมัครที่ไม่ได้รับสิ่งตอบแทนเป็นเบี้ยเลี้ยงหรือเงินเดือน เดินทางไปปฏิบัติงานในถิ่นทุรกันดารในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ โดยรถยนต์ เรือหรือเฮลิคอปเตอร์ เป็นการประจำ เพื่อตรวจรักษาราษฎรที่เจ็บไข้ได้ป่วยและแนะนำให้ความรู้เรื่องการอยู่อย่างถูกสุขลักษณะแก่ประชาชนทั่วไป
สมเด็จย่าทรงรับพระราชทานภาระในด้านหยูกยา เครื่องใช้ ตลอดจนพาหนะสำหรับใช้ในการเดิ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
และสาธารณสุขการพยาบาลด้านการแพทย์ สมเด็จย่าทรงสนพระราชหฤทัยในคุณภาพชีวิตของพสกนิกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในถิ่นห่างไกลความเจริญด้วยทรงเห็นว่าสุขภาพคนเราเป็นสิ่งสำคัญถ้าสุขภาพของประชาชนดีแล้วการประกอบอาชีพฐานะความเป็นอยู่ตลอดจนการพัฒนาประเทศก็ย่อมดีตามไปด้วย สมเด็จย่าจึงทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์พยาบาลและการสาธารณสุขโดยทรงเจริญตามรอยยุคลบาทสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก "พระบิดาแห่งแพทย์แผนปัจจุบันและสาธารณสุข" ผู้ทรงอุทิศพระองค์และพระราชทรัพย์เพื่อกิจการด้านนี้มากมายดังลายพระหัตถ์เกี่ยวกับความสำคัญของการสาธารณสุขที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมีถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่า "หม่อมฉันรู้สึกเสมอว่าการสาธารณสุขนั้นเป็นการสำคัญอย่างยิ่งทั้งเป็นเครื่องทำนุบำรุงกำลังของชาติไทยและเป็นสาธารณะประโยชน์แก่มนุษยชาติทั่วไปด้วยเพราะนั้นเมื่อมีโอกาสอันใดซึ่งหม่อมฉันพอที่จะช่วยออกกำลังกายและสติปัญญาหรือทรัพย์อันเป็นผลที่จะทำนุบำรุงให้การนั้นเจริญขึ้นแล้วหม่อมฉันยินดีปฏิบัติเสมอ" ดังนั้นเมื่อสิ้นสมเด็จพระบรมราชชนกแล้วแม้ว่าการอภิบาลพระโอรสธิดาให้มีพลานามัยและการศึกษาที่ดีจะเป้นพระราชภารกิจที่ต้องให้เวลาและความเอาใจใส่ดูแลถี่ถ้วนอย่างมากแต่สมเด็จย่าก็ทรงมีเวลาให้แก่การแพทย์พยาบาลและสาธารณสุขเสมอโดยเฉพาะโครงการต่าง ๆ ที่สมเด็จพระบรมราชชนกเคยสนับสนุนมาแต่เดิมสมเด็จย่าทรงดำเนินกิจกรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมราชชนกโดยมิได้ทรงหยุดยั้งผู้ใดที่เคยได้รับพระราชทานทุนการศึกษาจากสมเด็จพระบรมราชชนกก็ทรงพระเมตตาพระราชทานต่อไปจนสำเร็จการศึกษาทรงช่วยในการก่อสร้างปรับปรุงโรงพยาบาลศิริราชให้สำเร็จลุล่วงตามพระราชประสงค์ได้พระราชทานเงินเพิ่มเป็นรายเดือนแก่แพทย์ผู้เป็นนักเรียนทุนของสมเด็จพระบรมราชชนกที่กลับมารับราชการแล้วได้เงินเดือนน้อยกว่าที่กำหนดไว้นอกจากนี้ได้พระราชทานเงินจำนวน 500000 บาทให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภายในกำหนด 25 ปีเพื่อตั้งเป็นทุนสำหรับเก็บดอกผลส่งคนไปศึกษาเพิ่มเติมในต่างประเทศต่อมาได้โอนทุนนี้ให้มหาวิทยาลัยแพทย์คือมหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน เมื่อตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลนิวัติประเทศไทยในพ.ศ. 2488 สมเด็จย่าได้ทรงนำยาที่เรียกว่า PAS เข้ามาเมืองไทยเป็นครั้งแรกยานี้ใช้ในการผลิตวัคซีนบีซีจีสร้างภูมิคุ้มกันวัณโรคให้ร่างกายนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทยมิให้ต้องเป็นเหยื่อของโรคร้ายนี้ต่อมาในพ.ศ. 2494 สมเด็จพระปิโยรสพระองค์เล็กได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างตึกสำหรับผลิตบีซีจีซึ่งเป็นยาฉีดให้แก่เด็กเพื่อป้องกันวัณโรคพระราชทานนามตึกนี้ว่ามหิดลวงศานุสรณ์ สมเด็จย่าทรงรับเป็นผู้อุปถัมภ์สมาคมมูลนิธิต่าง ๆ มากมายเป็นต้นว่าทรงเป็นประธานมูลนิธิอานันทมหิดลซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. เมืองเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลมีวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกบุคคลส่งไปศึกษาวิชาพิเศษณต่างประเทศในสาขาวิชาต่าง ๆ เพื่อให้กลับมาปฏิบัติงานให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ พระราชทานเงินรายปีสมทบทุนเพื่อเก็บดอกผลช่วยนักเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัยของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล พระราชทานเงินสมทบทุนโรงพยาบาลติดต่อปากคลองสานธนบุรีเพื่อสร้างประปาชั่วคราวช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาลนั้น ทรงสนับสนุนส่งเสริมวิชาชีพและการศึกษาพยาบาลตั้งแต่เริ่มการก่อตั้งสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยสมัยแรกโดยทรงร่วมเป็นกรรมการของสมาคมสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศิริราช ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัยจังหวัดสงขลา ในพ.ศ. 2503 ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้าง "อาคารศรีสังวาลย์" ขึ้นที่โรงพยาบาลศิริราชเพื่อให้เป็นที่ตรวจรักษาและบำบัดคนพิการ ทรงรับเป็นองค์ประธานกรรมการศิริราชมูลนิธิซึ่งได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2510 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำดอกผลที่เกิดจากเงินกองทุนของมูลนิธิมาส่งเสริมกิจการต่าง ๆ ของคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิช่วยคนโรคเรื้อนจังหวัดลำปางในพ.ศ. 2505 และทรงอุปถัมภ์โรงเรียนจิตต์อารีของมูลนิธิซึ่งเป็นบ้านและโรงเรียนของลูกผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ยังไม่ได้รับเชื้อจากพ่อแม่ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 500000 บาทจัดตั้งมูลนิธิขาเทียมเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมพ.ศ. 2535แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี เมื่อสมเด็จย่าเสด็จประพาสหัวเมืองเยี่ยมพสกนิกรและเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศนับแต่พ.ศ. 2507 เป็นต้นมาทำให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นความทุกขเวทนาของราษฎรตามสถานที่เหล่านั้นยามเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยพระองค์เองทรงพบว่าราษฎรส่วนใหญ่มักเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารโรคพยาธิโรคผิวหนังไข้ป่าซึ่งเป็นโรคพื้นฐานทั่วไปแต่มักเสียชีวิตเพราะไม่มีบริการทางการแพทย์ในถิ่นทุรกันดาร ในเดือนมีนาคมพ.ศ. 2512 สมเด็จย่าจึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ในพระองค์ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นแห่งแรกพระราชทานนามว่า "แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี" มีอักษรย่อว่าพอ.สว หน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่พอ.สว นี้ประกอบด้วยแพทย์ทันตแพทย์เภสัชกรพยาบาลเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสมาชิกสมทบอีกคณะหนึ่งซึ่งล้วนเป็นอาสาสมัครที่ไม่ได้รับสิ่งตอบแทนเป็นเบี้ยเลี้ยงหรือเงินเดือนเดินทางไปปฏิบัติงานในถิ่นทุรกันดารในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์โดยรถยนต์เรือหรือเฮลิคอปเตอร์เป็นการประจำเพื่อตรวจรักษาราษฎรที่เจ็บไข้ได้ป่วยและแนะนำให้ความรู้เรื่องการอยู่อย่างถูกสุขลักษณะแก่ประชาชนทั่วไป สมเด็จย่าทรงรับพระราชทานภาระในด้านหยูกยาเครื่องใช้ตลอดจนพาหนะสำหรับใช้ในการเดิ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ด้านการแพทย์และสาธารณสุขพยาบาล
สมเด็จย่า ถ้าสุขภาพของประชาชนดีแล้วการประกอบอาชีพฐานะความเป็นอยู่
พยาบาลและการสาธารณสุข อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก กรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่า
"หม่อมฉันรู้สึกเสมอว่า เพราะนั้น หม่อมฉันยินดีปฏิบัติเสมอ "
ดังนั้นเมื่อสิ้นสมเด็จพระบรมราชชนกแล้ว พยาบาลและสาธารณสุขเสมอโดยเฉพาะโครงการต่างๆ นอกจากนี้ได้พระราชทานเงินจำนวน 500,000 บาท 25 ปี คือ
พ.ศ. 2488 สมเด็จย่าได้ทรงนำยาที่เรียกว่าอภิสิทธิ์เข้ามาเมืองไทยเป็นครั้งแรกยานี้ใช้ในการผลิตวัคซีนบีซีจีสร้างภูมิคุ้มกันวัณโรคให้ร่างกาย มิให้ต้องเป็นเหยื่อของโรคร้ายนี้ต่อมาใน พ.ศ. 2494 พระราชทานนามตึกนี้ว่า
มูลนิธิต่างๆมากมายเป็นต้นว่าทรงเป็นประธานมูลนิธิอานันทมหิดล ให้จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2502 ณ ต่างประเทศในสาขาวิชาต่างๆ ธนบุรี โดยทรงร่วมเป็นกรรมการของสมาคม จังหวัดสงขลาใน พ.ศ. 2503 "อาคารศรีสังวาลย์" ขึ้นที่โรงพยาบาลศิริราช 21 สิงหาคม 2510 ใน พ.ศ. 2505 500,000 บาทจัดตั้งมูลนิธิขาเทียมเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศนับ แต่ พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา โรคพยาธิโรคผิวหนังไข้ป่าซึ่งเป็นโรคพื้นฐานทั่วไป พ.ศ. 2512 สมเด็จย่าจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี" มีอักษรย่อว่า พอ.สว. หน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ พอ.สว. นี้ประกอบด้วยแพทย์ทันตแพทย์เภสัชกรพยาบาล โดยรถยนต์เรือหรือเฮลิคอปเตอร์เป็นการประจำ เครื่องใช้ตลอดจนพาหนะสำหรับใช้ในการเดิ













การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ด้านการแพทย์พยาบาลและสาธารณสุข
สมเด็จย่าทรงสนพระราชหฤทัยในคุณภาพชีวิตของพสกนิกรโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในถิ่นห่างไกลความเจริญด้วยทรงเห็นว่าสุขภาพคนเราเป็นสิ่งสำคัญถ้าสุขภาพของประชาชนดีแล้วการประกอบอาชีพตลอดจนการพัฒนาประเทศก็ย่อมดีตามไปด้วย
สมเด็จย่าจึงทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์พยาบาลและการสาธารณสุขโดยทรงเจริญตามรอยยุคลบาทสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก " พระบิดาแห่งแพทย์แผนปัจจุบันและสาธารณสุข "ดังลายพระหัตถ์เกี่ยวกับความสำคัญของการสาธารณสุขที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมีถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาชัยนาทนเรนทรว่า
" หม่อมฉันรู้สึกเสมอว่าการสาธารณสุขนั้นเป็นการสำคัญอย่างยิ่งทั้งเป็นเครื่องทำนุบำรุงกำลังของชาติไทยและเป็นสาธารณะประโยชน์แก่มนุษยชาติทั่วไปด้วยเพราะนั้น"
อันเป็นผลที่จะทำนุบำรุงให้การนั้นเจริญขึ้นแล้วหม่อมฉันยินดีปฏิบัติเสมอดังนั้นเมื่อสิ้นสมเด็จพระบรมราชชนกแล้วแม้ว่าการอภิบาลพระโอรสธิดาให้มีพลานามัยและการศึกษาที่ดีจะเป้นพระราชภารกิจที่ต้องให้เวลาและความเอาใจใส่ดูแลถี่ถ้วนอย่างมากแต่สมเด็จย่าก็ทรงมีเวลาให้แก่การแพทย์โดยเฉพาะโครงการต่างๆที่สมเด็จพระบรมราชชนกเคยสนับสนุนมาแต่เดิมสมเด็จย่าทรงดำเนินกิจกรรมทุกอย่างให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมราชชนกโดยมิได้ทรงหยุดยั้งก็ทรงพระเมตตาพระราชทานต่อไปจนสำเร็จการศึกษาทรงช่วยในการก่อสร้างปรับปรุงโรงพยาบาลศิริราชให้สำเร็จลุล่วงตามพระราชประสงค์นอกจากนี้ได้พระราชทานเงินจำนวน 500 ,000 บาทให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภายในกำหนด 25 เพื่อตั้งเป็นทุนสำหรับเก็บดอกผลส่งคนไปศึกษาเพิ่มเติมในต่างประเทศต่อมาได้โอนทุนนี้ให้มหาวิทยาลัยแพทย์ความมหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน
.เมื่อตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลนิวัติประเทศไทยในพ . ศ .2488 สมเด็จย่าได้ทรงนำยาที่เรียกว่า PAS เข้ามาเมืองไทยเป็นครั้งแรกยานี้ใช้ในการผลิตวัคซีนบีซีจีสร้างภูมิคุ้มกันวัณโรคให้ร่างกายนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทยต่อมาในพ .ศ . 2431 สมเด็จพระปิโยรสพระองค์เล็กได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างตึกสำหรับผลิตบีซีจีซึ่งเป็นยาฉีดให้แก่เด็กเพื่อป้องกันวัณโรคพระราชทานนามตึกนี้ว่ามหิดลวงศานุสรณ์
สมเด็จย่าทรงรับเป็นผู้อุปถัมภ์สมาคมมูลนิธิต่างๆมากมายเป็นต้นว่าทรงเป็นประธานมูลนิธิอานันทมหิดลซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งขึ้นเมื่อพ . ศ .2502 เพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลมีวัตถุประสงค์ในการคัดเลือกบุคคลส่งไปศึกษาวิชาพิเศษณต่างประเทศในสาขาวิชาต่างๆพระราชทานเงินรายปีสมทบทุนเพื่อเก็บดอกผลช่วยนักเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัยของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
พระราชทานเงินสมทบทุนโรงพยาบาลติดต่อปากคลองสานธนบุรีเพื่อสร้างประปาชั่วคราวช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาลนั้น
ทรงสนับสนุนส่งเสริมวิชาชีพและการศึกษาพยาบาลตั้งแต่เริ่มการก่อตั้งสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยสมัยแรกโดยทรงร่วมเป็นกรรมการของสมาคมสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศิริราช
ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียนพยาบาลผดุงครรภ์และอนามัยจังหวัดสงขลา
the พ . ศ . 2503 ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อสร้าง " อาคารศรีสังวาลย์ " ขึ้นที่โรงพยาบาลศิริราชเพื่อให้เป็นที่ตรวจรักษาและบำบัดคนพิการ
ทรงรับเป็นองค์ประธานกรรมการศิริราชมูลนิธิซึ่งได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2510 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำดอกผลที่เกิดจากเงินกองทุนของมูลนิธิมาส่งเสริมกิจการต่างๆทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ
ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิช่วยคนโรคเรื้อนจังหวัดลำปาง the พ . ศ .และทรงอุปถัมภ์โรงเรียนจิตต์อารีของมูลนิธิซึ่งเป็นบ้านและโรงเรียนของลูกผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ยังไม่ได้รับเชื้อจากพ่อแม่

ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย 2505พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 500000 บาท 17 จัดตั้งมูลนิธิขาเทียมเมื่อวันที่สิงหาคมพ . ศ . 2535 แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี

เมื่อสมเด็จย่าเสด็จประพาสหัวเมืองเยี่ยมพสกนิกรและเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารในท้องถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศนับแต่พ . ศ .2507 เป็นต้นมาทำให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นความทุกขเวทนาของราษฎรตามสถานที่เหล่านั้นยามเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยพระองค์เองทรงพบว่าราษฎรส่วนใหญ่มักเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารโรคพยาธิโรคผิวหนังซึ่งเป็นโรคพื้นฐานทั่วไปแต่มักเสียชีวิตเพราะไม่มีบริการทางการแพทย์ในถิ่นทุรกันดาร
ในเดือนมีนาคมพ . ศ . 2512 สมเด็จย่าจึงโปรดเกล้าฯให้จัดตั้งหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ในพระองค์ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นแห่งแรกพระราชทานนามว่า " แพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี " มีอักษรย่อว่าพอ . สว .หน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่พอ . สว .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: