Diamonds can be identified by their

Diamonds can be identified by their high thermal conductivity. Their high refractive index is also indicative, but other materials have similar refractivity. Diamonds cut glass, but this does not positively identify a diamond because other materials, such as quartz, also lie above glass on the Mohs scale and can also cut it. Diamonds can scratch other diamonds, but this can result in damage to one or both stones. Hardness tests are infrequently used in practical gemology because of their potentially destructive nature.[42] The extreme hardness and high value of diamond means that gems are typically polished slowly using painstaking traditional techniques and greater attention to detail than is the case with most other gemstones;[10] these tend to result in extremely flat, highly polished facets with exceptionally sharp facet edges. Diamonds also possess an extremely high refractive index and fairly high dispersion. Taken together, these factors affect the overall appearance of a polished diamond and most diamantaires still rely upon skilled use of a loupe (magnifying glass) to identify diamonds 'by eye'.[43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพชรสามารถระบุได้ ด้วยความร้อนสูง ดัชนีหักเหสูงของพวกเขาก็บ่งบอกถึง แต่วัสดุอื่น ๆ มีคล้าย refractivity เพชรตัดกระจก แต่นี้ไม่ระบุเพชรเนื่องจากวัสดุอื่น ๆ เช่นควอตซ์ ยังอยู่ข้างบนแก้วบนสเกลของโมส์ และยังสามารถตัดมัน เพชรสามารถขีดข่วนเพชรอื่น ๆ แต่นี้อาจทำความเสียหายกับหินหนึ่ง หรือทั้งสอง การทดสอบความแข็งจะมีใช้ใน gemology ปฏิบัตินาน ๆ ครั้งเนื่องจากธรรมชาติของพวกเขาอาจทำลาย [42 แข็งและค่าสูงของเพชร]ซึ่งหมายความ ว่า อัญมณีเป็นปกติขัดช้า ๆ ใช้เทคนิคดั้งเดิมที่รอบคอบและให้ความสนใจมากขึ้นในรายละเอียดมากกว่า ในกรณีส่วนใหญ่อัญมณีอื่น ๆ [10] เหล่านี้มักจะส่งผลในแง่มุมที่แบนมาก ขัดกับขอบแง่คมชัดเป็นพิเศษ นอกจากนี้เพชรยังมีมีดัชนีหักเหสูงมากและกระจายตัวค่อนข้างสูง นำมารวมกัน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อลักษณะที่ปรากฏโดยรวมของเพชรขัด และ diamantaires ส่วนใหญ่ยังคงอาศัยเมื่อมีทักษะการใช้ loupe (แว่นขยาย) ต้องระบุเพชร 'โดยตา' [43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพชรสามารถระบุได้โดยการนำความร้อนสูงของพวกเขา ดัชนีหักเหสูงของพวกเขายังเป็นตัวบ่งชี้ แต่วัสดุอื่น ๆ ที่มี refractivity ที่คล้ายกัน เพชรตัดกระจก แต่ไม่ได้บวกระบุเพชรเพราะวัสดุอื่น ๆ เช่นควอทซ์ยังอยู่เหนือกระจกในระดับ Mohs และยังสามารถตัดมัน เพชรสามารถเกาเพชรอื่น ๆ แต่นี้จะส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อหนึ่งหรือทั้งก้อนหิน การทดสอบความแข็งจะใช้บ่อยในอัญมณีในทางปฏิบัติเนื่องจากลักษณะการทำลายล้างที่อาจเกิดขึ้นของพวกเขา. [42] ความแข็งมากและมีมูลค่าสูงของเพชรหมายความว่าอัญมณีขัดมักจะช้าโดยใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมเพียรและความสนใจมากขึ้นในรายละเอียดมากกว่าเป็นกรณีที่มีอัญมณีอื่น ๆ มากที่สุด [10] เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลในการแบนมากแง่มุมขัดสูงที่มีความคมชัดเป็นพิเศษ ขอบแง่มุม เพชรยังมีดัชนีหักเหสูงมากและการกระจายตัวค่อนข้างสูง นำมารวมกันปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อลักษณะโดยรวมของเพชรขัดและ diamantaires ส่วนใหญ่ยังคงขึ้นอยู่กับการใช้งานที่มีทักษะของ Loupe (แว่นขยาย) เพื่อระบุเพชร 'ด้วยตา'. [43]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพชรสามารถระบุค่าการนำความร้อนของพวกเขาสูง ของพวกเขาสูงรึเปล่าดรรชนีหักเหรึเปล่ายังดัง แต่วัสดุอื่น ๆ มี refractivity คล้ายกัน เพชรตัดกระจก แต่ไม่ได้ระบุอย่างแน่ชัดเพชรเพราะวัสดุอื่น ๆเช่น ควอตซ์ ยังนอนข้างบนแก้วในระดับ Mohs เหรออะไรและยังสามารถตัดมัน เพชรสามารถเกาเพชรอื่น ๆ แต่นี้สามารถส่งผลในความเสียหายอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งก้อนหิน การทดสอบความแข็งที่ใช้ไม่บ่อย เพราะในทางปฏิบัติตรวจสอบอัญมณีธรรมชาติทำลายซ่อนเร้นของพวกเขา . [ 42 ]  ความแข็งมากและมูลค่าสูงของเพชรหมายถึงอัญมณีมักจะขัดช้าๆโดยใช้เทคนิคแบบดั้งเดิมอดทนและความสนใจมากขึ้นในรายละเอียดมากกว่าเป็นกรณีอัญมณีอื่น ๆ มากที่สุด ; [ 10 ] อะไรเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีผลในมากแบน ขลับกับคมโคตร แง่มุมด้านขอบ เพชรยังมีดัชนีการหักเหของแสงสูงมาก และการกระจายค่อนข้างสูง ถ่ายด้วยกัน ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อลักษณะโดยรวมของเพชรขัดและ diamantaires ส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการใช้ทักษะของ  ลูป ( แว่นขยาย ) เพื่อระบุเพชร ' ตา ' [ 43 ]