This evidence is inconsistent with

This evidence is inconsistent with three hypotheses. The first of these is “If the average age of receivables declines, then profits will increase.” The second hypothesis is “If the written-off accounts receivables decrease as a percentage of sales, then profits will increase.” The third hypothesis is “If unsold inventory at the end of the season as a percentage of cost of sales declines, then profits will increase.”
Again, there are a number of possible explanations for the lack of results consistent with the hypotheses. Managers may have decreased the average age of receivables by simply writing off old accounts earlier than was done previously. This would actually decrease reported profits in the short term. Bad debts as a percentage of sales could be decreased by drastically cutting back


on extensions of credit to customers—perhaps even canceling some charge accounts. (There would be no bad debts at all if there were no credit sales.) This would have the effect of reducing bad debts, but might irritate otherwise loyal credit customers and reduce sales and profits.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักฐานนี้ไม่สอดคล้องกับสมมุติฐานที่สาม ครั้งแรกของเหล่านี้เป็น "ถ้าอายุเฉลี่ยของลูกหนี้ปฏิเสธ แล้วผลกำไรจะเพิ่มขึ้น" สมมติฐานที่สองคือ "เขียนปิดบัญชีลูกหนี้ลดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขาย ถ้ากำไรจะเพิ่มขึ้น" สมมติฐานที่ 3 คือ "ถ้าไม่ได้ขายสต็อกสินค้าคงคลังเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเป็นเปอร์เซ็นต์ของต้นทุนขายลดอัตรา แล้วผลกำไรจะเพิ่มขึ้น" อีกครั้ง มีจำนวนของคำอธิบายที่เป็นไปได้ขอผลสอดคล้องกับสมมุติฐาน ผู้จัดการอาจได้ลดอายุเฉลี่ยของลูกหนี้เพียงเขียนปิดบัญชีเก่าก่อนหน้าทำก่อนหน้านี้ นี้จริงจะลดลงรายงานผลกำไรในระยะสั้น สูญเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายอาจจะลดอย่างรวดเร็วกลับตัด บนส่วนขยายเครดิตให้ลูกค้า — อาจจะยกเลิกบางบัญชี (จะมีไม่สูญเลยถ้ามีขายสินเชื่อไม่) นี้จะมีผลลดสูญ แต่อาจทำให้ระคายเคืองหรือซื่อตรงเครดิตลูกค้า และลดการขายและกำไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักฐานนี้ไม่สอดคล้องกับสมมติฐานที่สาม ครั้งแรกของเหล่านี้เป็น "ถ้าอายุเฉลี่ยของการลดลงของลูกหนี้แล้วผลกำไรจะเพิ่มขึ้น." สมมติฐานที่สองคือ "ถ้าบัญชีตัดลดลงลูกหนี้เป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายแล้วกำไรจะเพิ่มขึ้น." สมมติฐานที่สามคือ " ถ้ายังไม่ขายสินค้าคงคลังในตอนท้ายของฤดูกาลเป็นร้อยละของค่าใช้จ่ายของการลดลงของยอดขายแล้วกำไรจะเพิ่มขึ้น.
"อีกครั้งมีจำนวนของคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับการขาดผลสอดคล้องกับสมมติฐาน ผู้จัดการอาจจะลดลงอายุเฉลี่ยของลูกหนี้โดยเพียงแค่การตัดบัญชีเก่าก่อนหน้านี้กว่าได้ทำก่อนหน้านี้ นี้ที่จริงจะลดลงกำไรรายงานในระยะสั้น หนี้สูญเป็นร้อยละของยอดขายอาจจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดตัดกลับมากับส่วนขยายของเครดิตให้กับลูกค้าอาจจะรวมถึงการยกเลิกบัญชีค่าใช้จ่ายบางส่วน (จะไม่มีหนี้ที่ไม่ดีเลยถ้าไม่มีการขายบัตรเครดิต.) นี้จะมีผลของการลดหนี้ที่ไม่ดี แต่อาจทำให้ระคายเคืองเครดิตลูกค้าที่มีความภักดีอย่างอื่นและลดยอดขายและกำไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักฐานนี้สอดคล้องกับสมมติฐาน 3 . ครั้งแรกของเหล่านี้คือ " ถ้าอายุเฉลี่ยของลูกหนี้ลดลงแล้ว ผลกำไรจะเพิ่มขึ้น . " สมมติฐานที่สองคือ " ถ้าเขียนออกลดบัญชีลูกหนี้เป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายแล้ว ผลกำไรจะเพิ่มขึ้น . " สมมติฐานที่สามคือ " ถ้ายังไม่ขายสินค้าคงคลังที่ส่วนท้ายของฤดูกาล เป็นเปอร์เซ็นต์ของต้นทุน ปฏิเสธการขายแล้วกำไรจะเพิ่มขึ้น . "
อีกครั้ง มีคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับการขาดผลสอดคล้องกับสมมติฐาน ผู้จัดการอาจจะลดอายุเฉลี่ยของลูกหนี้ โดยเพียงแค่เขียนออกบัญชีเก่าเร็วกว่าที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ นี้จะลดลง รายงานผลกำไรในระยะสั้นหนี้สูญเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดขายอาจจะลดลงอย่างรวดเร็วในการตัดกลับ


ในส่วนขยายของเครดิตกับลูกค้าอาจจะยกเลิกบางค่าธรรมเนียมบัญชี ( จะไม่มีหนี้เสียเลย หากไม่มีขาย เครดิต ) นี้จะมีผลในการลดหนี้เสีย แต่อาจรบกวนอย่างซื่อสัตย์เครดิตลูกค้าและลดยอดขายและผลกำไร .