pursuing relevant ecological knowle

pursuing relevant ecological knowledge
Although descriptive studies are necessary and important for describing ecosystem structure and identifying hypotheses, reliance on this research approach severely constrains the ability of ecology to solve managerial problems. In addition, the poor predictive power of ecology (Peters 1991) indicates that our knowledge of ecosystem function is severely limited (Stanley 1995). An inability to understand ecosystem function and unjustified reliance on descriptive research are among the most important
obstacles that prevent ecology from making significant progress toward solving environmental problems and from being a predictive science. Many ecologists (e.g., Hairston 1989; Keddy 1989; Gurevitch and Collins 1994; McPherson and Weltzin 2000) have concluded that fieldbased manipulative experiments represent a logical approach for future research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใฝ่หาความรู้ระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง
แม้ศึกษาอธิบายความจำเป็น และสำคัญสำหรับการอธิบายโครงสร้างของระบบนิเวศ และการระบุสมมุติฐาน ความเชื่อมั่นในวิธีการวิจัยนี้อย่างจำกัดความสามารถของระบบนิเวศเพื่อแก้ไขปัญหาบริหารจัดการ นอกจากนี้ พลังงานต่ำของนิเวศวิทยา (Peters 1991) บ่งชี้ว่า ความรู้ของเราของฟังก์ชันระบบนิเวศถูกจำกัดอย่างรุนแรง (Stanley 1995) ไม่สามารถเข้าใจระบบนิเวศฟังก์ชันและพึ่ง unjustified วิจัยอธิบายเป็นสำคัญสุด
อุปสรรคที่ทำให้ระบบนิเวศทำสำคัญคืบหน้าแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และจาก ศาสตร์คาดการณ์ Ecologists มาก (เช่น Hairston 1989 Keddy 1989 Gurevitch และคอลลินส์ 1994 แมคเฟอร์สันและ Weltzin 2000) ได้สรุปว่า fieldbased ทดลองปฏิบัติหมายถึงวิธีการแบบตรรกะสำหรับการวิจัยในอนาคต.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การใฝ่รู้ทางนิเวศวิทยาที่เกี่ยวข้อง
ถึงแม้ว่าการศึกษาเชิงพรรณนามีความจำเป็นและมีความสำคัญสำหรับการอธิบายโครงสร้างของระบบนิเวศและระบุสมมติฐานความเชื่อมั่นในแนวทางการวิจัยครั้งนี้อย่างรุนแรง constrains ความสามารถของระบบนิเวศในการแก้ปัญหาการบริหารจัดการ นอกจากนี้อำนาจการคาดการณ์ที่น่าสงสารของระบบนิเวศ (ปีเตอร์ส 1991) แสดงให้เห็นว่าเรารู้การทำงานของระบบนิเวศถูก จำกัด อย่างรุนแรง (สแตนเลย์ 1995) ไม่สามารถที่จะเข้าใจการทำงานของระบบนิเวศและความเชื่อมั่นไม่ยุติธรรมในการวิจัยเชิงพรรณนาอยู่ในหมู่ที่สำคัญที่สุด
อุปสรรคที่ป้องกันไม่ให้ระบบนิเวศจากการความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญต่อการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและจากการคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์ นิเวศวิทยาหลายคน (เช่น Hairston 1989 Keddy 1989 Gurevitch และคอลลิน 1994 แมคเฟอร์สันและ Weltzin 2000) ได้ข้อสรุปว่าการทดลองบิดเบือน fieldbased เป็นตัวแทนของวิธีการที่เหมาะสมสำหรับการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใฝ่หาความรู้ด้านนิเวศวิทยาที่เกี่ยวข้อง
ถึงแม้ว่าการศึกษาเชิงพรรณนาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอธิบายโครงสร้างของระบบนิเวศและระบุสมมติฐาน การพึ่งพางานวิจัยอย่างรุนแรง constrains ความสามารถของระบบนิเวศ เพื่อแก้ปัญหาการจัดการ นอกจากนี้อำนาจพยากรณ์ที่ดีของระบบนิเวศ ( ปีเตอร์ 1991 ) ระบุว่า ความรู้ของฟังก์ชันระบบนิเวศอย่างรุนแรง จำกัด ( Stanley 1995 ) ไม่สามารถที่จะเข้าใจฟังก์ชันระบบนิเวศและการใช้ในการวิจัยเชิงพรรณนาอยู่ในหมู่ผู้ที่สำคัญที่สุด
อุปสรรคที่ขัดขวางความก้าวหน้าที่สำคัญต่อระบบนิเวศ จากการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและเป็นศาสตร์การคาดการณ์ . หลาย ecologists ( เช่น ไฮร์สเติน 1989 ; เคดดี้ 1989 ; gurevitch คอลลินส์ 1994 ; และแมคเฟอร์สัน weltzin 2000 ) ได้สรุปว่า fieldbased manipulative การทดลองแสดงวิธีการเชิงตรรกะสำหรับการวิจัยในอนาคต .