A. Peltier Effect: Heating or cooli

A. Peltier Effect: Heating or cooling a junction by electric current.Carnot's original cycle involves heat transformation between a hot TH bath and a cold TC bath by a gas in acylinder equipped with a moving piston. Heat partly flows from a hot bath to a cold bath, and partly istransformed to mechanical work in a reversible four step closed cycle. Carnot knew nothing about thechemical potential, not even about entropy, since both of them belonged to the far future in his time. Neverthe less, he correctly analyzed his cycle without these terms. At each step of the cycle macroscopicmechanical work of the moving piston is transformed to microscopic thermal movement of the gas particlesby elastic collisions between the particles and the piston [9].Similarly, the macroscopic electrical work of a power source is transformed in a junction to microscopicthermal heat by acceleration of charge carriers in the electric field. Electrons that cross a junction will beeither slowed, or accelerated by a contact potential difference Vc according to the directions of theirvelocity vector relative the electric field. Thus, they will absorb or deliver an amount of heat eVc to thejunction, where Vc is given by eq. (7). Peltier coefficients (2) are then:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

A. Peltier Effect: การทำความร้อนหรือความเย็นทางแยกด้วยกระแสไฟฟ้า วัฏจักรดั้งเดิมของ Carnot เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงความร้อนระหว่างอ่าง TH ร้อนและอ่าง TC เย็นโดยแก๊สในกระบอกสูบที่มีลูกสูบเคลื่อนที่ ความร้อนบางส่วนไหลจากอ่างน้ำร้อนไปยังอ่างน้ำเย็น และบางส่วนถูกเปลี่ยนเป็นงานเครื่องกลในวงจรปิดสี่ขั้นตอนที่ผันกลับได้ การ์โนต์ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับศักยภาพทางเคมี แม้แต่เอนโทรปีด้วยซ้ำ เนื่องจากทั้งสองคนเป็นของอนาคตอันไกลในสมัยของเขา ยิ่งกว่านั้น เขาวิเคราะห์วัฏจักรของเขาอย่างถูกต้องโดยไม่มีเงื่อนไขเหล่านี้ ในแต่ละขั้นตอนของวงจรงานเชิงกลด้วยกล้องจุลทรรศน์ขนาดมหึมาของลูกสูบที่กำลังเคลื่อนที่จะถูกแปลงเป็นการเคลื่อนตัวด้วยความร้อนระดับจุลภาคของอนุภาคก๊าซโดยการชนแบบยืดหยุ่นระหว่างอนุภาคกับลูกสูบ [9] ในทำนองเดียวกัน งานไฟฟ้าระดับมหภาคของแหล่งพลังงานจะถูกแปลงเป็นจุดเชื่อมต่อเป็นความร้อนความร้อนระดับจุลภาคโดยการเร่งความเร็วของตัวพาประจุในสนามไฟฟ้า อิเล็กตรอนที่ข้ามทางแยกจะถูกทำให้ช้าลงหรือถูกเร่งด้วยค่าความต่างศักย์สัมผัส Vc ตามทิศทางของเวกเตอร์ความเร็วที่สัมพันธ์กับสนามไฟฟ้า ดังนั้น พวกมันจะดูดซับหรือส่ง eVc ความร้อนจำนวนหนึ่งไปยังจุดเชื่อมต่อ โดยที่ Vc จะได้รับจากสมการ (7) ค่าสัมประสิทธิ์ Peltier (2) คือ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

A. Peltier Effect: จุดความร้อนหรือเย็นลงโดยกระแสไฟฟ้า
วัฏจักรดั้งเดิมของ Kano เกี่ยวข้องกับการแปลงความร้อนระหว่างอ่าง TH ร้อนและเย็น TC
กระบอกสูบที่มีลูกสูบเคลื่อนที่ ส่วนที่ร้อนไหลจากอ่างน้ำร้อนไปอาบน้ำเย็นส่วนหนึ่งเป็น
เปลี่ยนเป็นงานเชิงกลในรอบการปิดสี่ขั้นตอนที่ย้อนกลับได้ Kano คู่
ศักยภาพทางเคมี ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเอนโทรปี เพราะในยุคของเขา พวกมันเป็นของอนาคตอันไกลโพ้น ไม่เคย
ยิ่งน้อยเขาก็วิเคราะห์วัฏจักรของตัวเองได้อย่างถูกต้องโดยไม่ต้องใช้คำเหล่านี้ ในทุกขั้นตอนของวงจร
การเคลื่อนไหวด้วยความร้อนด้วยกลไกของลูกสูบที่เคลื่อนไหวเปลี่ยนเป็นอนุภาคก๊าซ
ผ่านการชนกันของความยืดหยุ่นระหว่างอนุภาคและลูกสูบ [9]
ในทำนองเดียวกันพลังงานแมโครของแหล่งจ่ายไฟจะถูกแปลงเป็นไมโครในปม
ความร้อนที่เกิดจากการเร่งความเร็วของผู้ให้บริการประจุในสนามไฟฟ้า อิเล็กตรอนผ่านปม
ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวหรือเร่งความเร็ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

a .ผลperte :ความร้อนหรือการระบายความร้อนโดยกระแสไฟฟ้า
วัฏจักรเดิมของcarnotประกอบด้วยการถ่ายเทความร้อนระหว่างช่องร้อนและช่องเย็น
กระบอกสูบที่มีลูกสูบเคลื่อนที่ ความร้อนส่วนหนึ่งไหลจากอ่างน้ําร้อนไปอ่างเย็นส่วนหนึ่งไหลจากอ่างน้ําร้อนไปอ่างน้ําร้อน
แปลงเป็นงานทางกลในวงจรปิดสี่ขั้นตอนย้อนกลับ คาโนะ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
ศักยภาพทางเคมีไม่ได้แม้กระทั่งปรอทเพราะพวกเขาทั้งหมดเป็นของอนาคตที่ห่างไกลของเวลาของเขา ไม่เคย
ยิ่งน้อยเท่าไหร่ เขาก็วิเคราะห์อย่างถูกต้อง วัฏจักรของเขาโดยไม่มีข้อเหล่านี้. ในแต่ละขั้นตอนของวัฏจักรมหภาค
พลังงานเชิงกลของลูกสูบที่เคลื่อนย้ายไปสู่การเคลื่อนที่ด้วยความร้อนด้วยกล้องจุลทรรศน์ของอนุภาคแก๊ส
ผ่านการชนกันแบบยืดหยุ่นระหว่างอนุภาคและลูกสูบ[ 9 ]
ในทํานองเดียวกันพลังงานไฟฟ้ามหภาคของแหล่งจ่ายไฟจะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กในโหนดเดียว
ความร้อนที่เกิดจากฟลักซ์ที่มีประจุเร่งในสนามไฟฟ้า อิเล็กตรอนที่ผ่านปมจะถูก
ขึ้นอยู่กับทิศทางของพวกเขาชะลอหรือเร่งโดยการสัมผัสความแตกต่างของศักยภาพVc
เวกเตอร์ความเร็วเทียบกับสนามไฟฟ้า ดังนั้นพวกเขาจะดูดซับหรือส่งความร้อนจํานวนหนึ่ง
ปมซึ่งVcจะได้รับจากสมการ ( 7 )ค่าสัมประสิทธิ์perte (2)คือ: