Hairdressers and barbers are at inc

Hairdressers and barbers are at increased risk of developing cancer as a result of their use of hair dyes. These risks could also extend to personal use of the dyes.

A panel of the International Agency for Research on Cancer (IARC) in Lyon, France reviewed the evidence and found a consistent risk of bladder cancer in male hairdressers and barbers. A second review of the evidence on personal hair dye use found some studies suggested a possible association with bladder cancer, lymphoma, and leukemia.

However, the panel found that the evidence was inadequate to classify the carcinogenicity of personal hair dye use.


Dr. Mercola's Comments:
Follow Dr. Mercola on Twitter Follow Dr. Mercola on Facebook

Hair color is often one of the few cosmetics that even “natural-minded” people justify using, often to cover up gray hair. Some estimates even say that more than one in three women, and one in 10 men over 40, throughout Europe, North America and Japan use some type of hair color.

Clearly the risks of these chemicals are magnified among hairdressers because they use them so frequently. But don’t mistake that to mean that coloring your hair once every four to six weeks is safe.

Your scalp has a very rich blood supply that is more than capable of transporting the toxins in hair dyes throughout your entire body.

What Types of Toxins are Found in Hair Dye?

Plenty.

Keep in mind that hair dyes are classified as a personal care product, and the government doesn't require any mandatory testing for these products before they hit store shelves. So literally anything goes.

The Environmental Working Group has ranked 456 hair colors in their Skin Deep cosmetics database, and roughly 400 of them are considered high hazard because they contain toxins linked to:
Cancer
Developmentive and reproductive toxicity
Neurotoxicity
Immunotoxicity and organ toxicity
Allergies and irritation of the eyes, skin or lungs
More specifically, in your box of “chestnut brown” or “ash blonde” -- or in the dyes used at your salon -- you may find:
Para-phenylenediamine and tetrahydro-6-nitroquinoxaline, both of which have been shown to damage genetic material and cause cancer in animals.
Coal tar, a known carcinogen (one investigation found that 71 percent of hair dyes contain coal tar)
Formaldehyde, a preservative linked to cancer, developmental and reproductive toxicity and more.
DMDM Hydantoin, another preservative that is a known immune system toxin (and has been restricted for use in cosmetics in Japan).
Eugenol, a fragrance ingredient that’s associated with cancer, immunotoxicity, neurotoxicity and allergies.
Of course, this is just to name a few. If you have a box of hair color under your bathroom sink, I encourage you to look up some of the ingredients for yourself using the Skin Deep cosmetics database. The results can be very eye-opening.

Health Concerns From Dying Your Hair

The above study stopped short of saying that coloring your hair can cause cancer, but before you take that as a green light, you should know that other studies have found a clear-cut link.

For instance, one study of nearly 900 people found that women who used permanent hair dye at least once a month were twice as likely as women who did not use permanent hair dye to develop bladder cancer.

Meanwhile, those who reported regular use of the hair dye for at least 15 years were more than three times as likely to develop bladder cancer as non-dye users.

A separate study also found that women who use hair dyes for more than 20 years may nearly double their risk of developing rheumatoid arthritis.

Are Any Hair Dyes Safe?

Ideally, you should limit your exposure to all chemical products as much as possible, and that includes dying your hair. You really should not put anything on your body that you wouldn’t eat. If you are pregnant or breastfeeding, staying away from hair dye is particularly important because of the impact it could have on your unborn child.

That said, I realize that pursuing a youthful appearance is very much indoctrinated into our culture. You may want to try using the Emotional Freedom Technique (EFT) to let go of some of these unrealistic ideals.

But for those of you who are determined to use hair dye no matter what, well at least use these tips to minimize your risk:

1. Steer clear of the darkest shades. Although all of the shades use essentially the same chemicals, there's quite a lot more of them in dark brown and black shades than there are in blonde, red or lighter shades.

2. Avoid permanent hair color, as they’re the most toxic. Semi-permanent and temporary colors are less so.

3. Look for natural brands of hair color that use henna, herbal dyes and vegetable dyes as primary ingredients. These are likely to be much less toxic than the average hair color.

4. If you go to a salon, choose one that is toxin-free, odor-free, herbal, or caters to people with multiple chemical sensitivity and allergies. These salons tend to use less toxic products.

As an aside, if you are a woman under 40 and have prematurely gray hair, it is usually a result of hypothyroidism. If you fall into this category, it would be wise to learn about these natural methods to help restore your thyroid.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ช่างและ barbers เพิ่มขึ้นโรคมะเร็งจากการใช้สีย้อมผม ความเสี่ยงเหล่านี้อาจยังขยายการใช้งานส่วนบุคคลของสีแผงของหน่วยงานวิจัยในโรคมะเร็ง (IARC) ในลียง ฝรั่งเศสนานาชาติที่ตรวจสอบหลักฐาน และพบความเสี่ยงที่สอดคล้องกันของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในช่างชายและ barbers ทบทวนหลักการใช้สีย้อมผมส่วนตัวที่สองพบบางการศึกษาแนะนำการเชื่อมโยงได้ กับมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ คอลลา มะเร็งเม็ดเลือดขาวอย่างไรก็ตาม แผงพบว่า หลักฐานมีไม่เพียงพอในการจัดประเภท carcinogenicity ใช้ย้อมผมส่วนตัว ความคิดเห็นของดร. Mercola: ดร. Mercola ตาม Twitter ตามดร. Mercola บน Facebookสีผมมักจะเป็นหนึ่งในเครื่องสำอางบางที่แม้แต่ "ธรรมชาติเที่ยว" คนจัดใช้ มักจะปกปิดผมหงอก ประเมินบางพูดว่า มากกว่าหนึ่งในสาม ผู้ชายและผู้หญิง 1 ใน 10 กว่า 40 ยุโรป อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่นใช้บางชนิดของสีผมแม้อย่างชัดเจนความเสี่ยงของสารเคมีเหล่านี้จะขยายในหมู่ช่างเนื่องจากพวกเขาใช้บ่อยดังนั้นการ แต่ไม่ผิดที่หมายถึง การที่สีผมของคุณเมื่อทุกสี่ถึงหกอาทิตย์ปลอดภัยหนังศีรษะของคุณได้รุ่มรวยเลือดที่มากกว่าความสามารถในการขนส่งสารพิษในสีย้อมผมตลอดร่างกายของคุณทั้งหมด สิ่งชนิดของสารพิษอยู่ในสีย้อมผมหรือไม่มากมาย เก็บไว้ในใจว่า สีผมจะแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และรัฐบาลไม่จำเป็นต้องใด ๆ บังคับการทดสอบสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก่อนที่จะตีร้านค้า ไปเพื่ออะไรอย่างแท้จริง กลุ่มงานสิ่งแวดล้อมได้จัดอันดับสีผม 456 ในฐานข้อมูลของเครื่องสำอางผิวลึก และประมาณ 400 นั้นถือเป็นอันตรายสูงเนื่องจากประกอบด้วยสารพิษกับ:โรคมะเร็งความเป็นพิษของ developmentive และสืบพันธุ์NeurotoxicityImmunotoxicity และอวัยวะความเป็นพิษอาการแพ้และระคายเคืองตา ผิวหนัง หรือปอดอื่น ๆ โดยเฉพาะ กล่องของคุณ "เกาลัดสีน้ำตาล" หรือ "เถ้าบลอนด์" - หรือสีที่ใช้ในร้านของคุณ — คุณอาจพบ:พารา -phenylenediamine และ tetrahydro-6 nitroquinoxaline ซึ่งทั้งสองได้ถูกแสดงวัสดุทางพันธุกรรมที่เกิดความเสียหาย และทำให้เกิดมะเร็งในสัตว์น้ำมันดินถ่านหิน สารก่อมะเร็งที่รู้จัก (หนึ่งการตรวจสอบพบว่า ร้อยละ 71 ของสีย้อมผมประกอบด้วยน้ำมันดินถ่านหิน)ฟอร์มาลดีไฮด์ preservative ที่เชื่อมโยงกับมะเร็ง ความเป็นพิษเจริญ และสืบพันธุ์ และอื่น ๆDMDM Hydantoin, preservative อื่นที่เป็นพิษระบบภูมิคุ้มกันที่รู้จักกัน (และถูกจำกัดการใช้ในเครื่องสำอางญี่ปุ่น)ยูเจนอล ส่วนผสมน้ำหอมที่มีเกี่ยวข้องกับมะเร็ง immunotoxicity, neurotoxicity และโรคภูมิแพ้แน่นอน นี่คือเพียงเพื่อชื่อไม่กี่ ถ้าคุณมีกล่องสีผมภายใต้อ่างน้ำของคุณ ฉันให้คุณหาค่าของส่วนผสมเองโดยใช้ฐานข้อมูลเครื่องสำอางผิวลึก ผลลัพธ์ได้เปิดหูเปิดตามากสุขภาพความกังวลจากการตาย ของผมการศึกษาข้างต้นหยุดขาดบอกว่า สีผมของคุณอาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ก่อนคุณที่เป็นแสงสีเขียว คุณควรทราบว่า การศึกษาอื่น ๆ พบลิงค์ที่แน่ชัด เช่น ศึกษาหนึ่งเกือบ 900 คนพบว่า ผู้หญิงใช้สีย้อมผมถาวรที่เดือนถูกสองแนวโน้มที่ผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้สีย้อมผมถาวรพัฒนาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในขณะเดียวกัน ผู้รายงานใช้ย้อมผม 15 ปีปกติได้มากกว่าสามครั้งเป็นแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นผู้ใช้ไม่ใช่สีย้อมการศึกษาแยกนอกจากนี้ยังพบว่าผู้หญิงมากกว่า 20 ปีอาจเกือบสองเท่าของโรคข้ออักเสบยังคงใช้สีย้อมผมคือ ผมมีสีย้อมปลอดภัยดาว คุณควรจำกัดการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์เคมีทั้งหมดมากที่สุด และที่มีการตาย ของผม คุณจริง ๆ ไม่ควรใส่อะไรในร่างกายของคุณที่กิน ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ หรือการเลี้ยงลูกด้วยนม อยู่ห่างจากผมย้อมมีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากผลกระทบ ดังกล่าวได้ในเด็กทารกที่กล่าวว่า ฉันรู้ว่า ใฝ่หาลักษณะอ่อนเยาว์เป็นมากปลุกเร้าในวัฒนธรรมของเรา คุณอาจลองใช้เทคนิคอิสระอารมณ์ (EFT) ปล่อยของอุดมคติเหล่านี้ไม่ แต่สำหรับผู้ที่จะใช้ ย้อมผมไม่ว่าอะไร ดีน้อยใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงของคุณ:1. คัดท้ายชัดเจนของเฉดสีที่มืดมากที่สุด ถึงแม้ว่าทั้งหมดของเฉดสีใช้เป็นสารเคมีเดียวกัน มีค่อนข้างมากของพวกเขาในเฉดสีน้ำตาล และสีดำเข้มกว่ามีในเฉดสีบลอนด์ สีแดง หรือเบา2. หลีกเลี่ยงสีผมถาวร ตามที่พวกเขากำลังเป็นพิษมากที่สุด สีกึ่งถาวร และชั่วคราวมีน้อยดังนั้น3. ค้นหาสีผมธรรมชาติยี่ห้อที่ใช้ henna สีสมุนไพรและผักสีเป็นส่วนผสมหลัก เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นพิษมากน้อยกว่าสีผมเฉลี่ย4. ถ้าคุณไปเสริมความ เลือกที่ ปลอดสารพิษ กลิ่นฟรี สมุนไพร หรือเป็นคนหลายเคมีไวและแพ้ ร้านเหล่านี้มักจะ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษน้อยเป็นกัน ถ้าคุณเป็นผู้หญิงอายุต่ำกว่า 40 และมีผมหงอกก่อนกำหนด ได้มักผลของพร่อง ถ้าคุณจัดอยู่ในประเภทนี้ มันจะฉลาดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีธรรมชาติเพื่อช่วยฟื้นฟูต่อมไทรอยด์ของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่างทำผมและช่างที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการพัฒนามะเร็งเป็นผลมาจากการใช้งานของสีย้อมผม ความเสี่ยงเหล่านี้ยังสามารถขยายไปถึงการใช้งานส่วนบุคคลของสีย้อม. แผงขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (IARC) ในลียง, ฝรั่งเศสหลักฐานการตรวจสอบและพบว่ามีความเสี่ยงที่สอดคล้องกันของโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในช่างทำผมช่างเพศชายและเพศ ความคิดเห็นที่สองของหลักฐานที่เกี่ยวกับการใช้สีย้อมผมส่วนบุคคลพบว่าบางการศึกษาชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้กับโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ, มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว. อย่างไรก็ตามแผงพบว่ามีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะจำแนกประเภทสารก่อมะเร็งในการใช้สีย้อมผมส่วนบุคคล. ดร. ความคิดเห็นของ Mercola: ติดตามดร. Mercola บนทวิตเตอร์ตามดร. Mercola บน Facebook สีผมมักจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เครื่องสำอางว่าแม้ "ธรรมชาติที่มีใจเดียวกัน" คนปรับใช้มักจะปกปิดผมหงอก ประมาณการบางคนบอกว่ามากกว่าหนึ่งในสามของผู้หญิงและเป็นหนึ่งใน 10 คนกว่า 40 ทั่วยุโรปอเมริกาเหนือและญี่ปุ่นใช้ชนิดของสีผมบาง. เห็นได้ชัดว่ามีความเสี่ยงของสารเคมีเหล่านี้จะขยายในหมู่ช่างทำผมเพราะพวกเขาใช้พวกเขาเพื่อให้บ่อย . แต่อย่าเข้าใจผิดว่าหมายถึงว่าทำสีผมของคุณทุกๆ 4-6 สัปดาห์ที่ผ่านมามีความปลอดภัย. หนังศีรษะของคุณมีปริมาณเลือดที่อุดมสมบูรณ์มากที่เป็นมากกว่าความสามารถในการขนส่งสารพิษในสีย้อมผมตลอดทั้งร่างกายของคุณ. ประเภทของสารพิษ จะพบในย้อมผม? มากมาย. โปรดจำไว้ว่าสีย้อมผมจะจัดเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและรัฐบาลไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบใด ๆ ที่บังคับใช้สำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก่อนที่จะตีชั้นวางเก็บ ดังนั้นสิ่งที่แท้จริงไป. กลุ่มทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมีการจัดอันดับ 456 สีผมในฐานข้อมูลเครื่องสำอางลึกของพวกเขาผิวหนัง, และประมาณ 400 ของพวกเขาได้รับการพิจารณาเป็นอันตรายสูงเพราะพวกเขามีสารพิษที่เชื่อมโยงกับ: มะเร็งDevelopmentive และพิษต่อระบบสืบพันธุ์พิษต่อระบบประสาทImmunotoxicity และความเป็นพิษอวัยวะแพ้และการระคายเคืองของดวงตาผิวหนังหรือปอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล่องของคุณ "เกาลัดสีน้ำตาล" หรือ "เถ้าสีบลอนด์" - หรือสีที่ใช้ในร้านของคุณ - คุณอาจพบ: พารา Phenylenediamine และ tetrahydro-6-nitroquinoxaline ทั้ง ซึ่งได้รับการแสดงให้เกิดความเสียหายสารพันธุกรรมและก่อให้เกิดมะเร็งในสัตว์. น้ำมันดินถ่านหิน, สารก่อมะเร็งที่รู้จักกัน (หนึ่งในการตรวจสอบพบว่าร้อยละ 71 ของสีย้อมผมมีน้ำมันถ่านหิน) ฟอร์มาลดีไฮด์สารกันบูดที่เชื่อมโยงกับโรคมะเร็งและการพัฒนาพิษต่อระบบสืบพันธุ์และอื่น ๆDMDM Hydantoin, สารกันบูดอื่นที่เป็นสารพิษระบบภูมิคุ้มกันที่รู้จักกัน (และได้รับการ จำกัด สำหรับการใช้งานในเครื่องสำอางในประเทศญี่ปุ่น). Eugenol ส่วนผสมกลิ่นหอมที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็ง, immunotoxicity, พิษต่อระบบประสาทและโรคภูมิแพ้. ของหลักสูตรนี้เป็นเพียงชื่อ สองสาม หากคุณมีกล่องสีผมภายใต้อ่างล้างจานห้องน้ำของคุณผมขอแนะนำให้คุณดูบางส่วนของส่วนผสมสำหรับตัวเองโดยใช้ฐานข้อมูลเครื่องสำอางลึกผิว ผลสามารถมากเปิดหูเปิดตา. ความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพจากการตายของผมข้างต้นการศึกษาหยุดสั้น ๆ ที่บอกว่าทำสีผมของคุณสามารถทำให้เกิดมะเร็ง แต่ก่อนที่คุณจะใช้เวลาที่เป็นแสงสีเขียวที่คุณควรรู้ว่าการศึกษาอื่น ๆ ที่ได้พบที่ชัดเจน การเชื่อมโยง -cut. ยกตัวอย่างเช่นการศึกษาหนึ่งเกือบ 900 คนพบว่าผู้หญิงที่ใช้ย้อมผมถาวรอย่างน้อยเดือนละครั้งเป็นสองเท่าแนวโน้มเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้สีย้อมผมถาวรจะพัฒนาเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ. ในขณะเดียวกันผู้ที่รายงานเป็นประจำ การใช้สีย้อมผมเป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปีมากกว่าสามเท่าแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นผู้ใช้ที่ไม่ใช่สีย้อม. การศึกษาแยกต่างหากนอกจากนี้ยังพบว่าผู้หญิงที่ใช้สีย้อมผมมานานกว่า 20 ปีอาจจะเกือบสองเท่าความเสี่ยงของการพัฒนา โรคไขข้ออักเสบ. กำลังใด ๆ ผมสีย้อมปลอดภัยหรือไม่เป็นการดีที่คุณควรจะจำกัด การสัมผัสของคุณกับผลิตภัณฑ์สารเคมีมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้และที่มีการตายผมของคุณ คุณไม่ควรใส่อะไรในร่างกายของคุณที่คุณจะไม่กิน หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร, อยู่ห่างจากสีย้อมผมเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะผลกระทบที่อาจมีต่อเด็กในครรภ์ของคุณ. ที่กล่าวว่าฉันตระหนักดีว่าการใฝ่หาลักษณะอ่อนเยาว์คือการปลูกฝังอย่างมากในวัฒนธรรมของเรา คุณอาจต้องการที่จะลองใช้เทคนิคเสรีภาพทางอารมณ์ (EFT) จะปล่อยให้ไปของบางส่วนของอุดมคติที่ไม่สมจริงเหล่านี้. แต่สำหรับบรรดาผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่จะใช้สีย้อมผมไม่ว่าสิ่งที่ดีอย่างน้อยใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงของคุณ: 1 คัดท้ายชัดเจนของเฉดสีที่มืดที่สุด แม้ว่าทุกเฉดสีที่ใช้สารเคมีเป็นหลักเดียวกันมีค่อนข้างมากขึ้นของพวกเขาในโทนสีน้ำตาลและสีดำเข้มกว่าที่มีอยู่ในสีบลอนด์สีแดงหรือเบา. 2 หลีกเลี่ยงสีผมถาวรที่พวกเขากำลังเป็นพิษมากที่สุด สีกึ่งถาวรและชั่วคราวมีน้อยดังนั้น. 3 มองหาแบรนด์ที่เป็นธรรมชาติของสีผมที่ใช้เฮนน่าย้อมสีสมุนไพรและผักเป็นส่วนผสมหลัก เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเป็นพิษน้อยกว่าสีผมเฉลี่ย. 4 ถ้าคุณไปที่ร้านเสริมสวยเลือกหนึ่งที่เป็นสารพิษฟรีปราศจากกลิ่นสมุนไพรหรือความสำคัญกับคนที่มีความไวต่อสารเคมีหลายและโรคภูมิแพ้ ร้านเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษน้อย. เช่นกันถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 40 และมีผมสีเทาก่อนเวลาอันควรก็มักจะเป็นผลมาจากการพร่อง ถ้าคุณตกอยู่ในประเภทนี้มันจะฉลาดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทางธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูต่อมไทรอยด์ของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ร้านทำผมและช่างตัดผมที่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการพัฒนามะเร็งเป็นผลของการใช้สีย้อมผม ความเสี่ยงเหล่านี้ยังสามารถขยายการใช้ส่วนบุคคลของสีย้อม

แผงของหน่วยงานวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ ( ร่วมกับ ) ในลียง , ฝรั่งเศส ตรวจสอบหลักฐาน และพบว่ามีความเสี่ยงที่สอดคล้องกันของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในเพศชาย และช่างผม .ที่สอง ทบทวนหลักฐานผมส่วนตัวย้อมใช้พบว่าบางการศึกษาชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้กับกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว

แต่แผงพบว่าหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะจัดเป็นสารก่อมะเร็งของสีย้อมผม ส่วนตัวใช้



ตามความเห็นของ ดร. เมอร์โคลา : ดร. เมอร์โคลาบน Twitter ติดตาม ดร. เมอร์โคลาบน Facebook

สีผมมักจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เครื่องที่แม้แต่ธรรมชาติ " ใจ " คนปรับใช้บ่อยๆ เพื่อปกปิดผมหงอกด้วย ประมาณการบางพูดแบบนั้นมากกว่าหนึ่งในผู้หญิงสามคนและผู้ชาย 1 ใน 10 กว่า 40 , ทั่วยุโรป อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่นใช้บางชนิดของสีผม

ชัดเจนความเสี่ยงของสารเคมีเหล่านี้เป็นภาพขยายของช่างทำผม เพราะใช้บ่อยมากแต่อย่าเข้าใจผิดว่าหมายความว่าการระบายสีผมครั้งเดียวทุกสี่ถึงหกสัปดาห์ ปลอดภัย

หนังศีรษะของคุณได้หลากหลายมากเลือดที่เป็นมากกว่าความสามารถในการลำเลียงสารพิษในสีย้อมผมตลอดร่างกายของคุณทั้งหมด

สิ่งที่ชนิดของสารพิษที่พบในยาย้อมผม ?

มากมาย

เก็บในใจว่า สี ผม จะแบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลและรัฐบาลไม่ต้องทดสอบใด ๆบังคับให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก่อนที่จะตีชั้นวางเก็บ ดังนั้นสิ่งที่แท้จริงไป

กลุ่มงานสิ่งแวดล้อม ได้อันดับที่ 456 ผมสีในผิวหนังลึก เครื่องสําอาง ฐานข้อมูล และประมาณ 400 ของพวกเขาจะถือว่าเสี่ยงสูง เพราะมีสารพิษที่เชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง :



ประพิษ developmentive และการสืบพันธุ์immunotoxicity และอวัยวะพิษ
แพ้และการระคายเคืองของดวงตา ผิวหนังและปอด
มากขึ้นโดยเฉพาะในกล่อง " เกาลัดสีน้ำตาล " หรือ " เถ้าสีบลอนด์ " . . หรือในการใช้สีย้อมที่ร้านของคุณ -- คุณอาจพบ :
พาราฟีนิลีนไดอะมีน และ tetrahydro-6-nitroquinoxaline ซึ่งทั้งสองได้แสดงความเสียหายของวัสดุทางพันธุกรรมและสาเหตุ มะเร็งในสัตว์
น้ำมันดินถ่านหินเป็นสารก่อมะเร็งที่รู้จัก ( ตรวจสอบพบว่าร้อยละ 71 ของสีย้อมผมประกอบด้วยน้ำมันดิน )
ฟอร์มาลดีไฮด์ เป็นสารกันบูดที่เชื่อมโยงกับโรคมะเร็งและการสืบพันธุ์และพัฒนาการความเป็นพิษมากขึ้น
dmdm ในหมู่อื่น สารกันบูดที่รู้จักระบบภูมิคุ้มกันสารพิษ ( และถูก จำกัด เพื่อใช้ในเครื่องสำอางในญี่ปุ่น ) .
eugenol , น้ำหอม ส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง immunotoxicity , ,ประและโรคภูมิแพ้ .
ของหลักสูตรนี้เป็นเพียงเพื่อชื่อไม่กี่ หากคุณมีกล่องของสีผม ภายใต้อ่างห้องน้ำของคุณ ผมขอแนะนำให้คุณดูบางส่วนของส่วนผสมเครื่องสำอางผิวลึกของตัวเองโดยใช้ฐานข้อมูล ผลลัพธ์ที่ได้จะมากตาเปิด

สุขภาพความกังวลจากตาย

ผมเรียนข้างต้นหยุดสั้น ๆที่บอกว่าสีเส้นผมของคุณสามารถก่อให้เกิดมะเร็งแต่ก่อนที่คุณจะใช้เวลาที่เป็นสีเขียวอ่อน คุณควรทราบว่า การศึกษาอื่น ๆได้พบการเชื่อมโยงที่ชัดเจน

เช่น การศึกษาหนึ่งเกือบ 900 คน พบว่าผู้หญิงที่ใช้ย้อมผมถาวรอย่างน้อยเดือนละครั้ง คือสองครั้งเป็นโอกาส เป็นผู้หญิงที่ไม่ใช้สีย้อมผมถาวรพัฒนาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ขณะที่ผู้ที่รายงานว่าปกติใช้ย้อมผมอย่างน้อย 15 ปี มีมากกว่าสามครั้งเป็นแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นผู้ใช้สีไม่แยก

ศึกษายังพบว่า ผู้หญิงที่ใช้สีย้อมผมมานานกว่า 20 ปีอาจจะเกือบสองเท่าของความเสี่ยงในการพัฒนาโรคไขข้ออักเสบ .

เป็นสีย้อมผมใด ๆ ปลอดภัย

ใจกลางคุณควร จำกัด เปิดรับทุกผลิตภัณฑ์เคมีมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และรวมถึงตาย ผมของคุณ คุณควรที่จะไม่ใส่อะไรในร่างกายของคุณที่คุณจะไม่กิน ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร , อยู่ห่างจาก ย้อมผมเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะผลกระทบมันอาจจะเด็ก unborn .

ที่บอกว่าฉันตระหนักดีว่าการติดตามลักษณะอ่อนเยาว์มาก ปลูกฝังความคิดแบบนี้ใส่เข้าไปในวัฒนธรรมของเรา คุณอาจต้องการที่จะลองใช้เทคนิคเสรีภาพทางอารมณ์ ( EFT ) ที่จะปล่อยบางส่วนของอุดมคติเพ้อฝันพวกนี้

แต่สำหรับผู้ที่มุ่งมั่นจะใช้สีย้อมผมไม่ว่า แต่อย่างน้อย ใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยง :

1 คัดท้ายชัดเจนของเฉดสีที่มืด .แม้ว่าทั้งหมดของเฉดสีใช้เป็นสารเคมีเดียวกัน มีค่อนข้างมากของพวกเขาในสีน้ำตาลเข้มเฉดสีมากกว่าที่มีอยู่ในเฉดสีบลอนด์ แดง หรือ เบา

2 หลีกเลี่ยงสีผมถาวร , ที่พวกเขากำลังที่เป็นพิษมากที่สุด สีกึ่งถาวร และชั่วคราวอยู่น้อยเหลือเกิน

3 ค้นหายี่ห้อธรรมชาติสีผมที่ใช้เฮนน่าสมุนไพร , สีย้อมและสีผักเป็นส่วนผสมหลักเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้รับสารพิษน้อยกว่าสีผมเฉลี่ย

4 . ถ้าคุณไปที่ร้าน เลือกที่มีสารพิษฟรี กลิ่นฟรี สมุนไพร หรือเหมาะกับคนที่มีความไวทางเคมีหลาย และโรคภูมิแพ้ ร้านเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นพิษน้อย

เป็นกัน ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่อายุ 40 และได้ก่อนกำหนดผมสีเทา มันมักจะเป็นผลของ hypothyroidismถ้าคุณตกอยู่ในประเภทนี้ มันจะฉลาดที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีธรรมชาติเหล่านี้เพื่อช่วยเรียกคืนต่อมไทรอยด์ของคุณ