Pineapple shell contained high amou

Pineapple shell contained high amount of cellulose (37.68±6.97%) and sugar production (36.25±2.87
g/L) after hot water pretreatment and enzymatic hydrolysis, respectively. The enzyme hydrolysate was
utilized as fermentation medium, with no nutritional addition to produce ethanol and hydrogen by S.
cerevisiae and E. aerogenes. The maximum yield of ethanol (9.69 g/L) was achieved after 72 h of S.
cerevisiae cultivation with no hydrogen production. Lower production of ethanol (1.38 g/L) was observed
after 72 h by E. aerogenes. However, E. aerogenes yielded high hydrogen production (1,416 mL/L) after
12 h of cultivation. To improve the concentration of ethanol and hydrogen, the immobilized cell
technique was applied. The result indicated that biofuel production was increased significantly by
immobilized cell technique. In this study, pineapple peel was proved as one of the novel and potential raw
material for biofuel production. However, optimization of substrate concentration and other
environmental conditions will require for an industrial application.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปลือกสับปะรดมีอยู่ปริมาณสูงของเซลลูโลส (37.68±6.97%) และการผลิตน้ำตาล (36.25±2.87g/L) หลังจากร้อนน้ำเตรียม และเอนไซม์ในระบบย่อย ตามลำดับ ถูกฉีดด้วยเอนไซม์ใช้เป็นสื่อกลางหมัก ด้วยไม่มีคุณค่าทางโภชนาการผลิตเอทานอลและไฮโดรเจน โดย S.cerevisiae และ E. aerogenes สำเร็จหลังจาก h 72 ของ s ได้ผลผลิตสูงสุดของเอทานอล (9.69 g/L)cerevisiae การเพาะปลูกการผลิตไฮโดรเจนไม่มี พบว่า ต่ำกว่าการผลิตเอทานอล (1.38 g/L)หลังจาก h 72 โดย E. aerogenes อย่างไรก็ตาม E. aerogenes ให้ผลผลิตสูงไฮโดรเจน (1,416 mL/L) หลังจาก12 ชม.ของการเพาะปลูก การปรับปรุงความเข้มข้นของเอทานอล และไฮโดรเจน แบบตรึงเซลล์มีใช้เทคนิค ผลระบุว่า การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตรึงเซลล์เทคนิค ในการศึกษานี้ เปลือกสับปะรดพิสูจน์ได้เป็นหนึ่งในนวนิยายและศักยภาพวัตถุดิบวัสดุสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มประสิทธิภาพของความเข้มข้นของสารตั้งต้นและอื่น ๆสภาพแวดล้อมจะต้องสำหรับโปรแกรมประยุกต์อุตสาหกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปลือกสับปะรดที่มีจำนวนเงินที่สูงของเซลลูโลส (37.68 ± 6.97%) และการผลิตน้ำตาล (36.25 ± 2.87
กรัม / ลิตร) หลังจากการปรับสภาพน้ำร้อนและย่อยโปรตีนตามลำดับ ไฮโดรไลเอนไซม์ที่ถูก
นำมาใช้เป็นสื่อกลางในการหมักโดยไม่นอกจากนี้ทางโภชนาการในการผลิตเอทานอลและไฮโดรเจนโดย S.
cerevisiae และ aerogenes อี อัตราผลตอบแทนสูงสุดของเอทานอล (9.69 กรัม / ลิตร) ก็ประสบความสำเร็จหลังจาก 72 ชั่วโมงของเอส
การเพาะปลูก cerevisiae กับการผลิตไฮโดรเจนไม่มี การผลิตที่ลดลงของเอทานอล (1.38 กรัม / ลิตร) พบว่า
หลังจาก 72 ชั่วโมงโดยอี aerogenes อย่างไรก็ตามอี aerogenes ผลการผลิตไฮโดรเจนสูง (1,416 มิลลิลิตร / ลิตร) หลังจาก
12 ชั่วโมงของการเพาะปลูก เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเอทานอลและไฮโดรเจนเซลล์ตรึง
เทคนิคถูกนำมาใช้ ผลการวิจัยพบว่าการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดย
เทคนิคการตรึงเซลล์ ในการศึกษานี้เปลือกสับปะรดได้พิสูจน์ให้เป็นหนึ่งในที่แปลกใหม่และมีศักยภาพดิบ
วัสดุสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างไรก็ตามการเพิ่มประสิทธิภาพของความเข้มข้นของสารตั้งต้นและอื่น ๆ ที่
สภาพแวดล้อมที่จะต้องใช้สำหรับงานอุตสาหกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เปลือกสับปะรดมีปริมาณเซลลูโลส ( ในปี± 6.97 % ) และน้ำตาล ( 36.25 ± 2.87g / L ) หลังจากปรับสภาพน้ำร้อนและเอนไซม์ ตามลำดับ เอนไซม์เอนไซม์คือใช้เป็นอาหารหมักที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ นอกจากนี้ การผลิตเอทานอล และไฮโดรเจนโดยS . cerevisiae และ E . aerogenes . สูงสุดผลผลิตเอทานอล ( 9.69 กรัม / ลิตร ) พบว่าหลังจาก 72 ชั่วโมงของ sโดยการปลูกที่ไม่มีการผลิตไฮโดรเจน . ลดการผลิตเอทานอล ( 1.38 กรัมต่อลิตร ) พบว่าหลังจาก 72 ชั่วโมงโดย aerogenes . อย่างไรก็ตาม อี aerogenes ให้ค่าการผลิตก๊าซไฮโดรเจนสูง ( / l 1416 มิลลิลิตร ) หลังจาก12 ชั่วโมงของการเพาะปลูก เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเอทานอลและตรึงเซลล์ไฮโดรเจนการประยุกต์ใช้เทคนิค . ผลการศึกษาพบว่า การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างมากวิธีการตรึงเซลล์ ในการศึกษานี้ เปลือกสับปะรด ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในนวนิยายและศักยภาพดิบวัสดุสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มประสิทธิภาพของความเข้มข้นตั้งต้นและอื่น ๆสภาพสิ่งแวดล้อมจะต้องมีสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม