กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มจิตใจดี แ การแปล - กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มจิตใจดี แ ไทย วิธีการพูด

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านริ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มจิตใจดี และกตัญญู นามว่า อุระชิมะ ทาโร่ Urashima Taro (浦島太郎)เขามีอาชีพเป็นชาวประมง ออกทะเลหาปลาเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูแม่ ด้วยความที่เป็นคนกตัญญู ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งตำบล




วันหนึ่ง อุระชิมะ ทาโร่ ได้ออกหาปลาตามปกติ แต่แล้วเขาก็พบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงเอะอะ และกำลังเล่นอะไรบางอย่างอยู่ ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงเสียงดังเอะอะขนาดนั้น เขาจึงเดินเข้าไปดู

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นเต่าน้อยตัวหนึ่งนอนหงายอยู่ และกำลังถูกพวกเด็กๆ รังแกอยู่ เมื่อเขาได้เห็นดังนั้นจึงรีบบอกพวกเด็กๆ ไม่ให้รังแกเจ้าเต่าน้อย และเสนอว่าจะขอซื้อเต่าตัวนี้ เมื่อพวกเด็กๆ ตกลง เขาก็รีบเข้าไปอุ้มเจ้าเต่าออกมา และช่วยปัดทรายออกจากตัวมัน จากนั้นเข้าก็นำเจ้าเต่าน้อยไปปล่อยลงสู่ทะเล




วันต่อมา อุระชิมะ ทาโร่ ก็ออกเรือหาปลาตามปกติ แต่ในระหว่างที่เขากำลังหาปลาอยู่นั้น ก็มีเต่าตัวใหญ่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ บริเวณเรือ และเต่าตัวนั้นก็พูดขึ้นว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซัง อุระชิมะ ทาโร่ซัง” พอเขาได้ยินและหันกลับไป ก็ต้องตกใจและทำอะไรไม่ถูก เต่าตัวนั้นก็พูดต่อไปว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซัง เราขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตเต่าน้อยตัวนั้นไว้ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน เราจะพาท่านไปเที่ยวที่ วังเรียวงุโจ ซึ่งอยู่ใต้ทะเลนี้ มาเถิด อุรุชิมะ ทาโร่ซัง”

เมื่ออุระชิมะ ทาโร่ ได้ฟังก็เหมือนต้องมนต์สะกด เขาขึ้นหลังเต่าตัวใหญ่ จากนั้นเต่าก็นำเขาลงสู่ทะเลลึกลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ใต้ผืนทะเลนั้นสวยงามเหลือเกิน และน่าแปลกที่เขาดำลงมายังใต้ทะเลแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกหายใจไม่ออกหรืออึดอัดแต่อย่างใด



และเมื่อดำน้ำลงมาเรื่อยๆ อุระชิมะ ทาโร่ ก็ต้องเบิกตาและตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฎอยู่ข้างหน้า มันคือวังเรียวงุโจสินะ วังนี้ทำด้วยทองคำทั้งหมด ทำให้มีแสงส่องประกายวูบวาบอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อเข้าไปใกล้อีกนิด เขาก็เห็น โอโตฮิเมะ ยืนอยู่ที่หน้าปราสาทนี้โดยมีบริวารยืนล้อมรอบ

อุระชิมะ ทาโร่ ตกตะลึงกับความงาม ทั้งโอโตฮิเมะ (Otohime) และวังเรียวงุโจ (Ryugu-jo) หรือวังมังกร เขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองไปรอบๆ ตัวของเขา ใช่แล้ว..เต่าน้อยสวยงามตัวนั้นก็คือ โอโตฮิเมะนั่นเอง นางปลอมเป็นเต่าเพื่อที่จะไปท่องเที่ยวเมืองมนุษย์ แต่กลับถูกกลุ่มเด็กๆ จับไปเล่นเสียก่อน เมื่อนางเห็น อุระชิมะ ทาโร่ มีท่าทีตกตะลึงอยู่นั้น นางก็อดขำไม่ได้ และได้พูดขึ้นว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซังท่านจะอยู่ที่นี่นานเท่าไรก็ได้ เราอนุญาต”




เมื่อ อุระชิมะ ทาโร่ ถูกเชิญเข้าวัง ในห้องโถงใหญ่ที่เขาถูกเชิญเข้าไปนั้น มีอาหารมากมายตั้งโต๊ะรอต้อนรับเขาอยู่ โอ้โห..เกิดมาเขาไม่เคยเห็นอาหารที่น่ากินอะไรเช่นนี้มาก่อน ถึงแม้จะเขาตื่นเต้นแค่ไหน ก็อดคิดถึงแม่ของเขาก็ไม่ได้ เมื่อโอโตฮิเมะรู้ นางจึงบอกกับ อุระชิมะ ทาโร่ ว่านางส่งคนไปดูแลแม่ของเขาแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก




เมื่อวันเวลาผ่านไป อุระชิมะ ทาโร่ ใช้ชีวิตในวังเรียวงุโจอย่างสนุกสนานราวกับอยู่ในความฝัน และแล้ววันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับห้องพิศวงห้องหนึ่งเข้า ในห้องนั้น มีประตูอยู่ 4 บาน โอโตฮิเมะ ได้พูดว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซัง ลองเปิดดูสิ” เมื่อเขาเปิดเข้าไปเป็นห้องที่ 1 ซึ่งเป็นห้องฤดูใบไม้ผลิ ในห้องนั้นมีต้นซากุระที่ผลิดอกออกใบอย่างสวยงาม ตามพื้นห้องมีดอกซากุระร่วงหล่น ช่างสวยงามอะไรเช่นนี้ และน่าแปลกที่อากาศในห้องนั้น อุ่นสบาย ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป


ต่อมาห้องที่ 2 เป็นห้องฤดูร้อน เมื่อเปิดเข้าไปเขาก็พบกับ ท้องฟ้าที่แจ่มใส มีลมร้อนพัดมาเอื่อยๆ และมีเสียงแมลงต่างๆ ส่งเสียงร้องเต็มไปหมด

ห้องที่ 3 เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้ว ก็ได้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีพระจันทร์เต็มดวงส่องแสงอย่างสวยงาม พร้อมกับต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) ที่แผ่ใบสีแดงและเตรียมที่จะสลัดใบทิ้งแสดงให้เห็นว่า ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงแล้ว บวกกับเสียงร้องของจักจั่นที่แข่งกันร้องอย่างเจี้ยวจ้าว

และห้องสุดท้าย เป็นห้องแห่งฤดูหนาว เมื่อเปิดเข้าไปแล้ว จะสัมผัสได้ถึงอากาศที่หนาวเย็น และพื้นห้องที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนไปทั่วห้อง




เมื่ออุระชิมะ ทาโร่ ใช้ชีวิตในวังเรียวงุโจอย่างสนุกสนาน เป็นเวลานานถึง 3 ปี วันหนึ่งเค้าก็นึกย้อนถึงอดีตเมื่อครั้งอยู่บนบก เขาก็คิดถึงแม่อันเป็นที่รัก เขาคิดว่าป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ต่อมาเขาจึงตัดสินใจว่าจะกลับบ้านเพื่อไปหาแม่ของเขา

เมื่อโอโตฮิเมะรู้ นางเสียใจและขอร้องให้ อุระชิมะ ทาโร่ อยู่ที่วังเรียวงุโจแห่งนี้ แต่นางก็รู้ถึงความกตัญญูของเขาจึงมอบกล่องใบหนึ่งให้อุระชิมะ ทาโร่ ติดตัวกลับไป และกำชับไม่ให้เขาเปิดกล่องใบนี้เป็นอันเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ที่สำคัญกล่องใบนี้ยังสามารถนำเขากลับมาที่วังเรียวงุโจได้ทุกเวลา อุระชิมะ ทาโร่ ให้คำสัญญาและเค้าก็ขึ้นหลังเต่าตัวเดิม กลับไปยังเมืองมนุษย์


เมื่ออุระชิมะ ทาโร่ กลับมายังบ้านที่เขาเคยอยู่ ก็พบว่าบ้านของเขาไม่มีเสียแล้ว มีแต่หญ้าเต็มขึ้นรกไปหมด เขาจึงเดินถามคนในหมู่บ้านเพื่อตามหาแม่ของเขา แต่ไม่มีใครรู้จักเลย อุระชิมะ ทาโร่ ยังคงเดินถามไปเรื่อยๆ ก็พบกับคุณยายคนหนึ่ง คุณยายคนนั้นได้บอกกับเขาว่า เคยได้ยินชื่อ อุระชิมะ ทาโร่ แต่นานประมาณ 300 ปีมาแล้ว เขาว่ากันมา อุระชิมะ ทาโร่ได้หายสาบสูญไปในทะเล




อุระชิมะ ทาโร่ ก็เข้าใจแล้วว่า เวลาที่เขาอยู่ในวังเรียวงุโจ 3 ปี เป็นเวลาเท่ากับ 300 ปีบนโลกมนุษย์ เมื่อเขารู้อย่างนั้นก็เสียใจมาก เขาคร่ำครวญและโมโหตัวเอง เขาไม่รู้จะต้องทำอย่างไรต่อไป แล้วเขาก็หันไปเปิดกล่องที่โอโตฮิเมะให้ไว้ โดยลืมคำสัญญาเสียสนิท เมื่อกล่องใบนั้นถูกเปิดออก ก็มีกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมา แล้วอุระชิมะ ทาโร่ ก็กลายเป็นผู้เฒ่าคนชราโดยทันใด กล่าวกันว่ากล่องใบนั้นเป็นกล่องที่เก็บอายุของอุระชิมะ ทาโร่เอาไว้




และแล้วอุระชิมะ ทาโร่ ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโศกเศร้าเสียใจ ในร่างของชายชรา จนกระทั่งจากโลกนี้ไป...
(บ้างก็ว่าภายในกล่องยังมีขนนกกระเรียน ที่อุระชิมะ ทาโร่ บังเอิญโบกเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็กลายร่างเป็นนกกระเรียน แล้วก็โบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และใช้ชีวิตต่อไปอย่างเดียวดาย...)
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วณหมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่งมีเด็กหนุ่มจิตใจดีและกตัญญูนามว่าอุระชิมะทาโร่อุระชิม่าทาโร่ (浦島太郎) เขามีอาชีพเป็นชาวประมงออกทะเลหาปลาเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูแม่ด้วยความที่เป็นคนกตัญญูทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งตำบล วันหนึ่งอุระชิมะทาโร่ได้ออกหาปลาตามปกติแต่แล้วเขาก็พบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงเอะอะและกำลังเล่นอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงเสียงดังเอะอะขนาดนั้นเขาจึงเดินเข้าไปดูเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นเต่าน้อยตัวหนึ่งนอนหงายอยู่และกำลังถูกพวกเด็ก ๆ รังแกอยู่เมื่อเขาได้เห็นดังนั้นจึงรีบบอกพวกเด็ก ๆ ไม่ให้รังแกเจ้าเต่าน้อยและเสนอว่าจะขอซื้อเต่าตัวนี้เมื่อพวกเด็ก ๆ ตกลงเขาก็รีบเข้าไปอุ้มเจ้าเต่าออกมาและช่วยปัดทรายออกจากตัวมันจากนั้นเข้าก็นำเจ้าเต่าน้อยไปปล่อยลงสู่ทะเล วันต่อมาอุระชิมะทาโร่ก็ออกเรือหาปลาตามปกติแต่ในระหว่างที่เขากำลังหาปลาอยู่นั้นก็มีเต่าตัวใหญ่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ ๆ บริเวณเรือและเต่าตัวนั้นก็พูดขึ้นว่า "อุระชิมะทาโร่ซังอุระชิมะทาโร่ซัง" พอเขาได้ยินและหันกลับไปก็ต้องตกใจและทำอะไรไม่ถูกเต่าตัวนั้นก็พูดต่อไปว่า "อุระชิมะทาโร่ซังเราขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตเต่าน้อยตัวนั้นไว้เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณท่านเราจะพาท่านไปเที่ยวที่วังเรียวงุโจซึ่งอยู่ใต้ทะเลนี้มาเถิดอุรุชิมะทาโร่ซัง" เมื่ออุระชิมะทาโร่ได้ฟังก็เหมือนต้องมนต์สะกดเขาขึ้นหลังเต่าตัวใหญ่จากนั้นเต่าก็นำเขาลงสู่ทะเลลึกลงไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ ใต้ผืนทะเลนั้นสวยงามเหลือเกินและน่าแปลกที่เขาดำลงมายังใต้ทะเลแล้วแต่กลับไม่รู้สึกหายใจไม่ออกหรืออึดอัดแต่อย่างใด และเมื่อดำน้ำลงมาเรื่อย ๆ อุระชิมะทาโร่ก็ต้องเบิกตาและตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฎอยู่ข้างหน้ามันคือวังเรียวงุโจสินะวังนี้ทำด้วยทองคำทั้งหมดทำให้มีแสงส่องประกายวูบวาบอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อเข้าไปใกล้อีกนิดเขาก็เห็นโอโตฮิเมะยืนอยู่ที่หน้าปราสาทนี้โดยมีบริวารยืนล้อมรอบอุระชิมะทาโร่ตกตะลึงกับความงามทั้งโอโตฮิเมะ (Otohime) (Ryugu-โจ) และวังเรียวงุโจหรือวังมังกรเขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองไปรอบ ๆ ตัวของเขาใช่แล้ว...เต่าน้อยสวยงามตัวนั้นก็คือโอโตฮิเมะนั่นเองนางปลอมเป็นเต่าเพื่อที่จะไปท่องเที่ยวเมืองมนุษย์แต่กลับถูกกลุ่มเด็ก ๆ จับไปเล่นเสียก่อนเมื่อนางเห็นอุระชิมะทาโร่มีท่าทีตกตะลึงอยู่นั้นนางก็อดขำไม่ได้และได้พูดขึ้นว่า "อุระชิมะทาโร่ซังท่านจะอยู่ที่นี่นานเท่าไรก็ได้เราอนุญาต" เมื่ออุระชิมะทาโร่ถูกเชิญเข้าวังในห้องโถงใหญ่ที่เขาถูกเชิญเข้าไปนั้นมีอาหารมากมายตั้งโต๊ะรอต้อนรับเขาอยู่โอ้โห...เกิดมาเขาไม่เคยเห็นอาหารที่น่ากินอะไรเช่นนี้มาก่อนถึงแม้จะเขาตื่นเต้นแค่ไหนก็อดคิดถึงแม่ของเขาก็ไม่ได้เมื่อโอโตฮิเมะรู้นางจึงบอกกับอุระชิมะทาโร่ว่านางส่งคนไปดูแลแม่ของเขาแล้วไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เมื่อวันเวลาผ่านไปอุระชิมะทาโร่ใช้ชีวิตในวังเรียวงุโจอย่างสนุกสนานราวกับอยู่ในความฝันและแล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับห้องพิศวงห้องหนึ่งเข้าในห้องนั้นมีประตูอยู่ 4 บานโอโตฮิเมะได้พูดว่า "อุระชิมะทาโร่ซังลองเปิดดูสิ" เมื่อเขาเปิดเข้าไปเป็นห้องที่ 1 ซึ่งเป็นห้องฤดูใบไม้ผลิในห้องนั้นมีต้นซากุระที่ผลิดอกออกใบอย่างสวยงามตามพื้นห้องมีดอกซากุระร่วงหล่นช่างสวยงามอะไรเช่นนี้และน่าแปลกที่อากาศในห้องนั้นอุ่นสบายไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป ต่อมาห้องที่ 2 เป็นห้องฤดูร้อนเมื่อเปิดเข้าไปเขาก็พบกับท้องฟ้าที่แจ่มใสมีลมร้อนพัดมาเอื่อย ๆ และมีเสียงแมลงต่าง ๆ ส่งเสียงร้องเต็มไปหมด ห้องที่ 3 เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้วก็ได้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีพระจันทร์เต็มดวงส่องแสงอย่างสวยงามพร้อมกับต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) ที่แผ่ใบสีแดงและเตรียมที่จะสลัดใบทิ้งแสดงให้เห็นว่าฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงแล้วบวกกับเสียงร้องของจักจั่นที่แข่งกันร้องอย่างเจี้ยวจ้าว และห้องสุดท้ายเป็นห้องแห่งฤดูหนาวเมื่อเปิดเข้าไปแล้วจะสัมผัสได้ถึงอากาศที่หนาวเย็นและพื้นห้องที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนไปทั่วห้อง เมื่ออุระชิมะทาโร่ใช้ชีวิตในวังเรียวงุโจอย่างสนุกสนานเป็นเวลานานถึง 3 ปีวันหนึ่งเค้าก็นึกย้อนถึงอดีตเมื่อครั้งอยู่บนบกเขาก็คิดถึงแม่อันเป็นที่รักเขาคิดว่าป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้างหนอต่อมาเขาจึงตัดสินใจว่าจะกลับบ้านเพื่อไปหาแม่ของเขา เมื่อโอโตฮิเมะรู้นางเสียใจและขอร้องให้อุระชิมะทาโร่อยู่ที่วังเรียวงุโจแห่งนี้แต่นางก็รู้ถึงความกตัญญูของเขาจึงมอบกล่องใบหนึ่งให้อุระชิมะทาโร่ติดตัวกลับไปและกำชับไม่ให้เขาเปิดกล่องใบนี้เป็นอันเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามที่สำคัญกล่องใบนี้ยังสามารถนำเขากลับมาที่วังเรียวงุโจได้ทุกเวลาอุระชิมะทาโร่ให้คำสัญญาและเค้าก็ขึ้นหลังเต่าตัวเดิมกลับไปยังเมืองมนุษย์ เมื่ออุระชิมะทาโร่กลับมายังบ้านที่เขาเคยอยู่ก็พบว่าบ้านของเขาไม่มีเสียแล้วมีแต่หญ้าเต็มขึ้นรกไปหมดเขาจึงเดินถามคนในหมู่บ้านเพื่อตามหาแม่ของเขาแต่ไม่มีใครรู้จักเลยอุระชิมะทาโร่ยังคงเดินถามไปเรื่อย ๆ ก็พบกับคุณยายคนหนึ่งคุณยายคนนั้นได้บอกกับเขาว่าเคยได้ยินชื่ออุระชิมะทาโร่แต่นานประมาณ 300 ปีมาแล้วเขาว่ากันมาอุระชิมะทาโร่ได้หายสาบสูญไปในทะเล อุระชิมะทาโร่ก็เข้าใจแล้วว่าเวลาที่เขาอยู่ในวังเรียวงุโจ 3 ปีเป็นเวลาเท่ากับ 300 ปีบนโลกมนุษย์เมื่อเขารู้อย่างนั้นก็เสียใจมากเขาคร่ำครวญและโมโหตัวเองเขาไม่รู้จะต้องทำอย่างไรต่อไปแล้วเขาก็หันไปเปิดกล่องที่โอโตฮิเมะให้ไว้โดยลืมคำสัญญาเสียสนิทเมื่อกล่องใบนั้นถูกเปิดออกก็มีกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมาแล้วอุระชิมะทาโร่ก็กลายเป็นผู้เฒ่าคนชราโดยทันใดกล่าวกันว่ากล่องใบนั้นเป็นกล่องที่เก็บอายุของอุระชิมะทาโร่เอาไว้ และแล้วอุระชิมะทาโร่ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโศกเศร้าเสียใจในร่างของชายชราจนกระทั่งจากโลกนี้ไป... (บ้างก็ว่าภายในกล่องยังมีขนนกกระเรียนที่อุระชิมะทาโร่บังเอิญโบกเบา ๆ ทันใดนั้นเขาก็กลายร่างเป็นนกกระเรียนแล้วก็โบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและใช้ชีวิตต่อไปอย่างเดียวดาย...)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่ง มีเด็กหนุ่มจิตใจดี และกตัญญู นามว่า อุระชิมะ ทาโร่ Urashima Taro (浦島太郎)เขามีอาชีพเป็นชาวประมง ออกทะเลหาปลาเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูแม่ ด้วยความที่เป็นคนกตัญญู ทำให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งตำบล




วันหนึ่ง อุระชิมะ ทาโร่ ได้ออกหาปลาตามปกติ แต่แล้วเขาก็พบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงเอะอะ และกำลังเล่นอะไรบางอย่างอยู่ ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงเสียงดังเอะอะขนาดนั้น เขาจึงเดินเข้าไปดู

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นเต่าน้อยตัวหนึ่งนอนหงายอยู่ และกำลังถูกพวกเด็กๆ รังแกอยู่ เมื่อเขาได้เห็นดังนั้นจึงรีบบอกพวกเด็กๆ ไม่ให้รังแกเจ้าเต่าน้อย และเสนอว่าจะขอซื้อเต่าตัวนี้ เมื่อพวกเด็กๆ ตกลง เขาก็รีบเข้าไปอุ้มเจ้าเต่าออกมา และช่วยปัดทรายออกจากตัวมัน จากนั้นเข้าก็นำเจ้าเต่าน้อยไปปล่อยลงสู่ทะเล




วันต่อมา อุระชิมะ ทาโร่ ก็ออกเรือหาปลาตามปกติ แต่ในระหว่างที่เขากำลังหาปลาอยู่นั้น ก็มีเต่าตัวใหญ่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ บริเวณเรือ และเต่าตัวนั้นก็พูดขึ้นว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซัง อุระชิมะ ทาโร่ซัง” พอเขาได้ยินและหันกลับไป ก็ต้องตกใจและทำอะไรไม่ถูก เต่าตัวนั้นก็พูดต่อไปว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซัง เราขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตเต่าน้อยตัวนั้นไว้ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณท่าน เราจะพาท่านไปเที่ยวที่ วังเรียวงุโจ ซึ่งอยู่ใต้ทะเลนี้ มาเถิด อุรุชิมะ ทาโร่ซัง”

เมื่ออุระชิมะ ทาโร่ ได้ฟังก็เหมือนต้องมนต์สะกด เขาขึ้นหลังเต่าตัวใหญ่ จากนั้นเต่าก็นำเขาลงสู่ทะเลลึกลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ใต้ผืนทะเลนั้นสวยงามเหลือเกิน และน่าแปลกที่เขาดำลงมายังใต้ทะเลแล้ว แต่กลับไม่รู้สึกหายใจไม่ออกหรืออึดอัดแต่อย่างใด



และเมื่อดำน้ำลงมาเรื่อยๆ อุระชิมะ ทาโร่ ก็ต้องเบิกตาและตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฎอยู่ข้างหน้า มันคือวังเรียวงุโจสินะ วังนี้ทำด้วยทองคำทั้งหมด ทำให้มีแสงส่องประกายวูบวาบอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อเข้าไปใกล้อีกนิด เขาก็เห็น โอโตฮิเมะ ยืนอยู่ที่หน้าปราสาทนี้โดยมีบริวารยืนล้อมรอบ

อุระชิมะ ทาโร่ ตกตะลึงกับความงาม ทั้งโอโตฮิเมะ (Otohime) และวังเรียวงุโจ (Ryugu-jo) หรือวังมังกร เขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองไปรอบๆ ตัวของเขา ใช่แล้ว..เต่าน้อยสวยงามตัวนั้นก็คือ โอโตฮิเมะนั่นเอง นางปลอมเป็นเต่าเพื่อที่จะไปท่องเที่ยวเมืองมนุษย์ แต่กลับถูกกลุ่มเด็กๆ จับไปเล่นเสียก่อน เมื่อนางเห็น อุระชิมะ ทาโร่ มีท่าทีตกตะลึงอยู่นั้น นางก็อดขำไม่ได้ และได้พูดขึ้นว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซังท่านจะอยู่ที่นี่นานเท่าไรก็ได้ เราอนุญาต”




เมื่อ อุระชิมะ ทาโร่ ถูกเชิญเข้าวัง ในห้องโถงใหญ่ที่เขาถูกเชิญเข้าไปนั้น มีอาหารมากมายตั้งโต๊ะรอต้อนรับเขาอยู่ โอ้โห..เกิดมาเขาไม่เคยเห็นอาหารที่น่ากินอะไรเช่นนี้มาก่อน ถึงแม้จะเขาตื่นเต้นแค่ไหน ก็อดคิดถึงแม่ของเขาก็ไม่ได้ เมื่อโอโตฮิเมะรู้ นางจึงบอกกับ อุระชิมะ ทาโร่ ว่านางส่งคนไปดูแลแม่ของเขาแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก




เมื่อวันเวลาผ่านไป อุระชิมะ ทาโร่ ใช้ชีวิตในวังเรียวงุโจอย่างสนุกสนานราวกับอยู่ในความฝัน และแล้ววันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับห้องพิศวงห้องหนึ่งเข้า ในห้องนั้น มีประตูอยู่ 4 บาน โอโตฮิเมะ ได้พูดว่า “อุระชิมะ ทาโร่ซัง ลองเปิดดูสิ” เมื่อเขาเปิดเข้าไปเป็นห้องที่ 1 ซึ่งเป็นห้องฤดูใบไม้ผลิ ในห้องนั้นมีต้นซากุระที่ผลิดอกออกใบอย่างสวยงาม ตามพื้นห้องมีดอกซากุระร่วงหล่น ช่างสวยงามอะไรเช่นนี้ และน่าแปลกที่อากาศในห้องนั้น อุ่นสบาย ไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไป


ต่อมาห้องที่ 2 เป็นห้องฤดูร้อน เมื่อเปิดเข้าไปเขาก็พบกับ ท้องฟ้าที่แจ่มใส มีลมร้อนพัดมาเอื่อยๆ และมีเสียงแมลงต่างๆ ส่งเสียงร้องเต็มไปหมด

ห้องที่ 3 เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้ว ก็ได้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีพระจันทร์เต็มดวงส่องแสงอย่างสวยงาม พร้อมกับต้นโมมิจิ (เมเปิ้ล) ที่แผ่ใบสีแดงและเตรียมที่จะสลัดใบทิ้งแสดงให้เห็นว่า ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงแล้ว บวกกับเสียงร้องของจักจั่นที่แข่งกันร้องอย่างเจี้ยวจ้าว

และห้องสุดท้าย เป็นห้องแห่งฤดูหนาว เมื่อเปิดเข้าไปแล้ว จะสัมผัสได้ถึงอากาศที่หนาวเย็น และพื้นห้องที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนไปทั่วห้อง




เมื่ออุระชิมะ ทาโร่ ใช้ชีวิตในวังเรียวงุโจอย่างสนุกสนาน เป็นเวลานานถึง 3 ปี วันหนึ่งเค้าก็นึกย้อนถึงอดีตเมื่อครั้งอยู่บนบก เขาก็คิดถึงแม่อันเป็นที่รัก เขาคิดว่าป่านนี้แม่จะเป็นอย่างไรบ้างหนอ ต่อมาเขาจึงตัดสินใจว่าจะกลับบ้านเพื่อไปหาแม่ของเขา

เมื่อโอโตฮิเมะรู้ นางเสียใจและขอร้องให้ อุระชิมะ ทาโร่ อยู่ที่วังเรียวงุโจแห่งนี้ แต่นางก็รู้ถึงความกตัญญูของเขาจึงมอบกล่องใบหนึ่งให้อุระชิมะ ทาโร่ ติดตัวกลับไป และกำชับไม่ให้เขาเปิดกล่องใบนี้เป็นอันเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ที่สำคัญกล่องใบนี้ยังสามารถนำเขากลับมาที่วังเรียวงุโจได้ทุกเวลา อุระชิมะ ทาโร่ ให้คำสัญญาและเค้าก็ขึ้นหลังเต่าตัวเดิม กลับไปยังเมืองมนุษย์


เมื่ออุระชิมะ ทาโร่ กลับมายังบ้านที่เขาเคยอยู่ ก็พบว่าบ้านของเขาไม่มีเสียแล้ว มีแต่หญ้าเต็มขึ้นรกไปหมด เขาจึงเดินถามคนในหมู่บ้านเพื่อตามหาแม่ของเขา แต่ไม่มีใครรู้จักเลย อุระชิมะ ทาโร่ ยังคงเดินถามไปเรื่อยๆ ก็พบกับคุณยายคนหนึ่ง คุณยายคนนั้นได้บอกกับเขาว่า เคยได้ยินชื่อ อุระชิมะ ทาโร่ แต่นานประมาณ 300 ปีมาแล้ว เขาว่ากันมา อุระชิมะ ทาโร่ได้หายสาบสูญไปในทะเล




อุระชิมะ ทาโร่ ก็เข้าใจแล้วว่า เวลาที่เขาอยู่ในวังเรียวงุโจ 3 ปี เป็นเวลาเท่ากับ 300 ปีบนโลกมนุษย์ เมื่อเขารู้อย่างนั้นก็เสียใจมาก เขาคร่ำครวญและโมโหตัวเอง เขาไม่รู้จะต้องทำอย่างไรต่อไป แล้วเขาก็หันไปเปิดกล่องที่โอโตฮิเมะให้ไว้ โดยลืมคำสัญญาเสียสนิท เมื่อกล่องใบนั้นถูกเปิดออก ก็มีกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมา แล้วอุระชิมะ ทาโร่ ก็กลายเป็นผู้เฒ่าคนชราโดยทันใด กล่าวกันว่ากล่องใบนั้นเป็นกล่องที่เก็บอายุของอุระชิมะ ทาโร่เอาไว้




และแล้วอุระชิมะ ทาโร่ ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโศกเศร้าเสียใจ ในร่างของชายชรา จนกระทั่งจากโลกนี้ไป...
(บ้างก็ว่าภายในกล่องยังมีขนนกกระเรียน ที่อุระชิมะ ทาโร่ บังเอิญโบกเบาๆ ทันใดนั้นเขาก็กลายร่างเป็นนกกระเรียน แล้วก็โบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้า และใช้ชีวิตต่อไปอย่างเดียวดาย...)
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วณหมู่บ้านริมทะเลแห่งหนึ่งมีเด็กหนุ่มจิตใจดีและกตัญญูนามว่าอุระชิมะทาโร่ระชิม่าทาโร่ ( 浦島太郎 ) เขามีอาชีพเป็นชาวประมงออกทะเลหาปลาเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูแม่ด้วยความที่เป็นคนกตัญญู




วันหนึ่งอุระชิมะทาโร่ได้ออกหาปลาตามปกติแต่แล้วเขาก็พบเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังส่งเสียงเอะอะและกำลังเล่นอะไรบางอย่างอยู่ด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงเสียงดังเอะอะขนาดนั้นเขาจึงเดินเข้าไปดู

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆก็เห็นเต่าน้อยตัวหนึ่งนอนหงายอยู่และกำลังถูกพวกเด็กๆรังแกอยู่เมื่อเขาได้เห็นดังนั้นจึงรีบบอกพวกเด็กๆไม่ให้รังแกเจ้าเต่าน้อยและเสนอว่าจะขอซื้อเต่าตัวนี้เมื่อพวกเด็กๆตกลงและช่วยปัดทรายออกจากตัวมันจากนั้นเข้าก็นำเจ้าเต่าน้อยไปปล่อยลงสู่ทะเล




วันต่อมาอุระชิมะทาโร่ก็ออกเรือหาปลาตามปกติแต่ในระหว่างที่เขากำลังหาปลาอยู่นั้นก็มีเต่าตัวใหญ่ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆบริเวณเรือและเต่าตัวนั้นก็พูดขึ้นว่า " อุระชิมะทาโร่ซังอุระชิมะทาโร่ซัง "ก็ต้องตกใจและทำอะไรไม่ถูกเต่าตัวนั้นก็พูดต่อไปว่า " อุระชิมะทาโร่ซังเราขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตเต่าน้อยตัวนั้นไว้เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณท่านเราจะพาท่านไปเที่ยวที่วังเรียวงุโจซึ่งอยู่ใต้ทะเลนี้"
อุรุชิมะทาโร่ซัง
เมื่ออุระชิมะทาโร่ได้ฟังก็เหมือนต้องมนต์สะกดเขาขึ้นหลังเต่าตัวใหญ่จากนั้นเต่าก็นำเขาลงสู่ทะเลลึกลงไปเรื่อยๆเรื่อยๆใต้ผืนทะเลนั้นสวยงามเหลือเกินและน่าแปลกที่เขาดำลงมายังใต้ทะเลแล้ว


และเมื่อดำน้ำลงมาเรื่อยๆอุระชิมะทาโร่ก็ต้องเบิกตาและตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฎอยู่ข้างหน้ามันคือวังเรียวงุโจสินะวังนี้ทำด้วยทองคำทั้งหมดทำให้มีแสงส่องประกายวูบวาบอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อเข้าไปใกล้อีกนิดโอโตฮิเมะยืนอยู่ที่หน้าปราสาทนี้โดยมีบริวารยืนล้อมรอบ

อุระชิมะทาโร่ตกตะลึงกับความงามทั้งโอโตฮิเมะ ( โอโตะฮิเมะ ) และวังเรียวงุโจ ( ryugu โจ ) หรือวังมังกรเขาทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองไปรอบๆตัวของเขาใช่แล้ว . . . . . . .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: