develops a damascus pattern, or in

develops a damascus pattern, or in other words, a unique wood grain-like pattern. Incidentally, the pattern on a Japanese sword is also one kind of damascus pattern.)

However, it does have a weakness. Because the gun barrel is made by rolling ribbon-shaped material, compared to molded barrels the strength is weak, and after the invention of smokeless gunpowder production declined. This is because it was unable to endure the pressure, and so the gun barrel becomes prone to breaking.

After that, in the year 1856, the Englishman Henry Bessemer made a groundbreaking invention, the "converter", and large amounts of molten steel became available. The so-called Bessemer process is a method of making steel by blowing air against molten pig iron (iron produced by melting iron ore in a blast furnace, contains lots of impurities) causing an oxidation reaction, removing impurities. (removing by burning)

After that various alloys can be made.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พัฒนารูปแบบดามัสกัส หรือในคำอื่น ๆ เฉพาะรูปแบบเช่นเมล็ดไม้ บังเอิญ ลวดลายบนดาบญี่ปุ่นจะยังดามัสกัสลายชนิดหนึ่ง)อย่างไรก็ตาม มันมีจุดอ่อน เนื่องจากกระบอกปืนทำ โดยกลิ้งรูปริบบิ้นวัสดุ เมื่อเทียบกับถังแบบแรง เป็น อ่อน และหลัง จากการประดิษฐ์ผลิตดินปืน smokeless ปฏิเสธ นี่คือเนื่อง จากไม่สามารถทนความดัน และ ให้กระบอกปืนกลายเป็นแนวโน้มที่จะแบ่งหลังจากนั้น ในปี 1856 แผนกวิศวกรรมวัสดุเฮนรีชาวทำประดิษฐ์คว้า การ "แปลง" และจำนวนมากของเหล็กหลอมละลายกลายเป็นใช้ แผนกวิศวกรรมวัสดุกระบวนการเรียกว่าเป็นวิธีการทำ โดยเป่าอากาศกับหมูเหล็กหลอมละลายเหล็ก (เหล็กผลิต โดยการหลอมแร่เหล็กในเตาระเบิด ประกอบด้วยสิ่งสกปรก) ก่อให้เกิดปฏิกิริยาการออกซิเดชัน เอาสิ่งสกปรก (เอาออก โดยการเขียน)หลังจากที่ โลหะผสมต่าง ๆ สามารถทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พัฒนารูปแบบดามัสกัสหรือในคำอื่น ๆ ไม้ที่ไม่ซ้ำรูปแบบเม็ดเหมือน บังเอิญลวดลายบนดาบญี่ปุ่นยังเป็นหนึ่งในชนิดของรูปแบบดามัสกัส.) แต่ก็จะมีความอ่อนแอ เพราะกระบอกปืนจะทำโดยกลิ้งวัสดุริบบิ้นรูปบาร์เรลเมื่อเทียบกับแม่พิมพ์ความแข็งแรงอ่อนแอและหลังจากการประดิษฐ์ของการผลิตดินปืนไร้ควันลดลง เพราะมันก็ไม่สามารถที่จะทนแรงดันและอื่นกระบอกปืนจะกลายเป็นแนวโน้มที่จะทำลาย. หลังจากนั้นในปี 1856 ชาวอังกฤษเฮนรี่ Bessemer ทำสิ่งประดิษฐ์ที่แหวกแนว "แปลง" และจำนวนมากของเหล็กหลอมเหลวกลายเป็น ใช้ได้ ที่เรียกว่ากระบวนการ Bessemer เป็นวิธีการในการทำเหล็กโดยเป่าลมกับเหล็กหลอมเหลว (เหล็กผลิตโดยการละลายแร่เหล็กในเตาหลอมที่มีจำนวนมากของสิ่งสกปรก) ที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่เอาสิ่งสกปรก (ออกจากการเผาไหม้) หลังจากผสมต่าง ๆ ที่สามารถทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พัฒนาเมืองดามัสกัส ลาย หรือในคำอื่น ๆที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ไม้แบบ อนึ่ง ลวดลายบนดาบ ญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งชนิดของรูปแบบดามัสกัส )

แต่มันมีจุดอ่อน เพราะปืนที่ถูกสร้างขึ้นโดยม้วนริบบิ้นรูปวัสดุ เทียบกับแม่พิมพ์ถังกำลังอ่อนแอ และหลังจากการประดิษฐ์ของการผลิตดินปืนไร้ควันลดลงนี้เป็นเพราะมันไม่สามารถทนความกดดัน และปืนก็มักจะแบ่ง

หลังจากนั้นในปี 1856 , อังกฤษ เฮนรี่ เบสเซเมอร์ ทำให้สิ่งประดิษฐ์ groundbreaking , " แปลง " และจำนวนมากของเหล็กหลอมเหลวกลายเป็นใช้ได้ที่เรียกว่า กิ๊บเป็นวิธีการทำเหล็กโดยการเป่าอากาศกับเหล็กหลอมเหล็ก ( ผลิตโดยการหลอมแร่เหล็กด้วยเตาถลุงมีสิ่งเจือปน ) ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน การเอาสิ่งสกปรก ( การเผา )

หลังจากนั้นโลหะผสมต่าง ๆสามารถทำ .