Much of the debate over phone surve

Much of the debate over phone surveillance in recent years has focused on the federal government and counterterrorism operations, particularly a once-secret program authorized by President George W. Bush after the Sept. 11 attacks. It allowed the National Security Agency to eavesdrop on phone calls of terrorism suspects and monitor huge amounts of phone and e-mail traffic without court-approved intelligence warrants.

Clashes over the program’s legality led Congress to broaden the government’s eavesdropping powers in 2008. As part of the law, the Bush administration insisted that phone companies helping in the program be given immunity against lawsuits.

Since then, the wide use of cell surveillance has seeped down to even small, rural police departments in investigations unrelated to national security.

“It’s become run of the mill,” said Catherine Crump, an A.C.L.U. lawyer who coordinated the group’s gathering of police records. “And the advances in technology are rapidly outpacing the state of the law.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มากของการอภิปรายผ่านโทรศัพท์การเฝ้าระวังในปีเน้นสหพันธ์รัฐบาลและต่อการดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมลับเมื่อได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดีจอร์จ W. บุชหลังจากโจมตี 11 ก.ย.นี้ ได้ที่งานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติการดักฟังบนสนทนาทางโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย และตรวจสอบโทรศัพท์จำนวนมาก และสิทธิทราฟฟิคไม่ มีปัญญาได้รับการอนุมัติจากศาลปะทะกันเหนือกฎหมายของโปรแกรมนำการประชุมในการขยายอำนาจดักฟังของรัฐบาลในปี 2551 เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย บุยืนยันว่า โทรศัพท์ที่บริษัทช่วยเหลือในโปรแกรมได้รับภูมิคุ้มกันต่อคดีตั้งแต่นั้น ใช้เฝ้าระวังเซลล์กว้างมี seeped ลงไปชนบท เล็ก ๆ น้อย ๆ ตำรวจแผนกสืบสวนที่ไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยแห่งชาติ"กลายเป็นที่ทำงานของโรงสี แคทเธอรีน Crump ทนายความ A.C.L.U. ผู้ประสานงานรวบรวมของกลุ่มของระเบียนที่ตำรวจกล่าว "และความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วมีส.ค.สถานะของกฎหมาย"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มากของการอภิปรายมากกว่าการเฝ้าระวังโทรศัพท์ในปีที่ผ่านมาได้มุ่งเน้นไปที่รัฐบาลและต่อต้านการก่อการร้ายของรัฐบาลกลางการดำเนินงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความลับได้รับอนุญาตจากประธานาธิบดีจอร์จดับเบิลยูบุชหลังจากการโจมตี 11 กันยายน มันได้รับอนุญาตสภาความมั่นคงแห่งชาติที่จะดักฟังโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายและการตรวจสอบจำนวนมากของโทรศัพท์และ e-mail เข้าชมโดยไม่มีศาลได้รับการอนุมัติใบสำคัญแสดงสิทธิปัญญา.

การปะทะกันถูกต้องตามกฎหมายของโปรแกรมนำสภาคองเกรสที่จะขยายอำนาจกำลังดักของรัฐบาลในปี 2008 ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่ง ของกฎหมายที่รัฐบาลยืนยันว่า บริษัท โทรศัพท์ช่วยในโปรแกรมได้รับภูมิคุ้มกันต่อคดี.

ตั้งแต่นั้นมาใช้อย่างกว้างขวางในการเฝ้าระวังมือถือได้ซึมลงไปแม้จะมีขนาดเล็กหน่วยงานตำรวจในชนบทในการสืบสวนที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ.

"มันกลายเป็น ทำงานโรงงาน "แคทเธอรี Crump ทนายความสหภาพผู้ประสานงานการชุมนุมของกลุ่มของระเบียนตำรวจกล่าว "และความก้าวหน้าในเทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็วรัฐของกฎหมาย."

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มากของการอภิปรายมากกว่าการโทรศัพท์ ใน ปี ล่าสุด ได้มุ่งเน้นการดำเนินงานรัฐบาลกลางและการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลับโปรแกรมที่ได้รับอนุญาต โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช หลังจากที่ 11 กันยายนการโจมตี มันอนุญาตให้สภาความมั่นคงแห่งชาติในการดักฟังโทรศัพท์ของผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย และตรวจสอบยอดเงินขนาดใหญ่ของโทรศัพท์และอีเมลจราจรโดยศาลอนุมัติสิทธิปัญญาการปะทะมากกว่าความถูกต้องของโปรแกรม ทำให้รัฐสภาเพื่อขยายอำนาจของรัฐบาลในการ 2008 เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมาย รัฐบาลยืนยันว่าบริษัทโทรศัพท์ช่วยในโปรแกรมได้รับภูมิคุ้มกันต่อคดีจากนั้น การใช้กว้างของการเฝ้าระวังมือถือได้ seeped ลงไปแม้แต่น้อย ชนบท ตำรวจแผนกสืบสวนที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ" มันกลายเป็นวิ่งของโรงสี กล่าวว่า แคทเธอรี Crump , a.c.l.u. ทนายความผู้ประสานงานของกลุ่มรวบรวมจากบันทึกของตำรวจ " และความก้าวหน้าในเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วแซงหน้าสถานะของกฎหมาย " .