Microalgae consist of different typ

Microalgae consist of different types of carbohydrates which are
mostly stored in the cell wall. Therefore, disruption of microalgal
cell walls is necessary to release the entrapped carbohydrates for
fermentation process. Harun and Danquah [71] observed that the
bioethanol yield of 7.20 g L1 was achieved when the
pre-treatment step was performed with 15 g L1 of microalgae at
140 C using 1% (v/v) of sulfuric acid for 30 min. In this study, fermentation
was completely stopped at 120 h and 72% theoretical
yield of ethanol was achieved. Similarly, Costa et al. [72] studied
about the fermentation time on conversion of bioethanol from
microalgal biomass and observed that 5 days fermentation time
supported maximum yield and recovery of bioethanol. Acid pretreatment
provides an advantage to reduce the cost and energy consumption compared to other methods. This present investigation
concluded that the native isolate of S. bijugatus had significant
quantities of lipids and carbohydrates in its biomass (Table 5)
which can be converted to sustainable biofuels such as biodiesel
and bioethanol.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Microalgae ประกอบด้วยชนิดของคาร์โบไฮเดรตได้แก่ส่วนใหญ่เก็บไว้ในผนังเซลล์ ดังนั้น ทรัพย microalgalผนังเซลล์จำเป็นต้องปล่อยคาร์โบไฮเดรต entrapped สำหรับกระบวนการหมัก Danquah [71] และ Harun สังเกตที่การบรรลุผลผลิต bioethanol ของ g 7.20 L 1 เมื่อการขั้นตอนการรักษาก่อนทำกับ 15 g L 1 ของ microalgae ที่140 C ที่ใช้ 1% (v/v) ของกรดกำมะถันสำหรับ 30 นาที ในการศึกษานี้ หมักทั้งหมดหยุดที่ 120 h และ 72% ทฤษฎีผลผลิตของเอทานอลได้สำเร็จ ในทำนองเดียวกัน เรียนคอส et al. [72]เกี่ยวกับเวลาหมักในแปลง bioethanol จากชีวมวล microalgal และสังเกตเวลาที่หมัก 5 วันได้ผลตอบแทนสูงสุดและการกู้คืนของ bioethanol Pretreatment กรดมีข้อดีของการลดการใช้พลังงานและต้นทุนเปรียบเทียบกับวิธีอื่น ๆ ตรวจสอบปัจจุบันนี้สรุปว่า เพราะเจ้าของเอสซีโยได้อย่างมีนัยสำคัญปริมาณคาร์โบไฮเดรตในของชีวมวล (ตาราง 5) และโครงการซึ่งสามารถแปลงเป็นโบอิ้งเช่นไบโอดีเซลและ bioethanol

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สาหร่ายประกอบด้วยชนิดของคาร์โบไฮเดรตที่มีการเก็บไว้ส่วนใหญ่อยู่ในผนังเซลล์
ดังนั้นการหยุดชะงักของสาหร่ายผนังเซลล์มีความจำเป็นที่จะปล่อยคาร์โบไฮเดรตกักสำหรับกระบวนการหมัก Harun และ Danquah [71] ข้อสังเกตว่าผลผลิตเอทานอลของ7.20 กรัม L 1 ก็ประสบความสำเร็จเมื่อขั้นตอนการรักษาก่อนได้ดำเนินการกับ15 กรัม L 1 ของสาหร่ายที่140 องศาเซลเซียสโดยใช้ 1% (v / v) ของกรดซัลฟูริก เป็นเวลา 30 นาที ในการศึกษานี้การหมักก็หยุดอย่างสมบูรณ์ที่ 120 ชั่วโมงและ 72% ตามทฤษฎีผลผลิตของเอทานอลก็ประสบความสำเร็จ ในทำนองเดียวกัน Costa et al, [72] การศึกษาเกี่ยวกับเวลาในการหมักในแปลงของเอทานอลจากชีวมวลสาหร่ายและตั้งข้อสังเกตว่า 5 วันเวลาในการหมักสนับสนุนผลผลิตสูงสุดและการฟื้นตัวของเอทานอล การปรับสภาพกรดมีประโยชน์ในการลดค่าใช้จ่ายและการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ ปัจจุบันนี้การสอบสวนสรุปว่าแยกเป็นชนพื้นเมืองของเอส bijugatus อย่างมีนัยสำคัญปริมาณของไขมันและคาร์โบไฮเดรตในชีวมวลของมัน(ตารางที่ 5) ซึ่งสามารถแปลงเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพอย่างยั่งยืนเช่นไบโอดีเซลและเอทานอล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สาหร่ายขนาดเล็กประกอบด้วยชนิดของคาร์โบไฮเดรต ซึ่ง
ส่วนใหญ่เก็บไว้ในผนังเซลล์ ดังนั้น การหยุดชะงักของผนังเซลล์ของสาหร่าย
จำเป็นต้องปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์คาร์โบไฮเดรตสำหรับ
กระบวนการหมัก และ Aaron danquah [ 71 ] สังเกตได้ว่าผลผลิตของ 7.20 กรัมเอทานอล
L
 1 เท่ากับเมื่อก่อนขั้นตอนการ 15 g l  สาหร่ายที่
1 แห่ง140  C ใช้ 1% ( v / v ) กรดเป็นเวลา 30 นาที ในการศึกษานี้ ได้หยุดการหมัก
120 H และผลผลิตตามทฤษฎี
72% ของเอทานอลได้บรรลุแล้ว ในทำนองเดียวกัน คอสตา et al . [ 72 ] เรียน
เรื่องเวลาการหมักเอทานอลจากชีวมวลในการแปลง
สาหร่ายและสังเกตเห็นว่า 5 วัน ระยะเวลาในการหมัก
รองรับผลผลิตสูงสุดและการกู้คืนของเอทานอล . โดย
กรดให้ประโยชน์ในการลดต้นทุนและการใช้พลังงานเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ปัจจุบันการสอบสวน
สรุปว่าพื้นเมืองแยกของ S . bijugatus มีปริมาณของไขมันและคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญ
ของชีวมวล ( ตารางที่ 5 )
ซึ่งสามารถแปลงเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพอย่างยั่งยืน เช่น ไบโอดีเซล และเอทานอล
.