Advantages and disadvantages of liv

Advantages and disadvantages of living in the city and country side
Jan
9
People always have their own choices of living, lifestyle. City lifestyle and country lifestyle are two different types of livings. These have many differences in the environment, job opportunity, and cost of living. Therefore, the differences of these make people consider about the advantages and disadvantages of living in the city and country side.

There are several advantages of living in the country side. First, the environment in the countryside and the city is very different. It is less pollution and dangerous because there are fewer cars, motorbikes, and factories. Also, there are many trees which offer fresh air to us like living in green home. In the country side you are free to admire the breathtaking landscapes such as huge meadows, peaceful hills or forests. They have more time to relax, and stay healthier. The village people always try to protect their traditional habits and culture. The village has clean air and the environment is very beautiful. Moreover, traffic is not busy and it does not cause accidents as much as in the city. Furthermore, people usually keep eyes on neighbors’ estates; they are helpful to each other. They always react when something strange is happening. Another advantage is the cost of food, it is cheaper and you can afford everything as well.

Even if living in the county side provides you many good things, but there are still a few disadvantages. Education in the country side is so poor. There are not many schools; students do not understand much about the world. Most people there prefer their children to go farming rather than going school because they do not know the important of attending in schools. Although you finish your high school, there is no even one university for you to continue. they may need to come to city if you plan to be graduated. They are naïve and easily believe other bad people. For example: if there is a strange person come and give a little money than they just follow him/ her without having any thinking. Than In addition, people there depend on their farm to support their family or plants crop. They are very slow and lack of ideas to develop their own farming or living style. Moreover, there are not such interesting things to do during free time. The unemployment rate is also much higher than in the city. The same problem concerns the access to the hospitals, schools, police stations and shops, which are usually located far from the village. Getting information is not as fast as in city; they are less of media such as TV or radio, so sometimes they can face in troublesome. For example: If the flood comes, they do not even know when and how to prevent from it. Last of all, there is no internet connection which makes us hard to communicate or contact people.

Some people think living in city is more comfortable. First of all, there are a lot of facilities for people in the city and they have more opportunities for making money. For example: own their businesses can easily support their lives. We have more the job opportunities because there are lots of companies and organizations. Plus, education in the city is always much better than in countryside. There are many government schools and universities. As economy have grown up well, more and more private universities and schools increase and provide better education to students which focus on language such as English. Also, we can learn more than one language. In the city, there are large shop complexions, banks, offices, cinemas, hostels, clubs, hospitals etc. in and around the city. In addition, numbers of modern technologies nowadays help us a lot to have a better life in the city. We can enjoy our lives with those things such as using internet, entertainment, social network etc… Internet speed in the city is quite good; it helps us to do research for our study too. Finally, they can have their own luxurious car, house, or business according to their hard working.

Although living in the city provides benefits, there are many of advantages. The goods are more expensive. The traffic in the city is surely busy and cause many accidents too. Many people cannot go school or work because of traffic jam. Actually, traffic in Cambodia is terrible. People in the city need to work time and get part time job in order to have a better lives. Life in the city is very complicated. They are too busy with their work, so they do not have time to spend with their neighbors. People in the city are very selfish, they are very helpless. For example: when there is an emergency such as fire, there are no neighbors to help because they only care of their property and go away. Moreover, there is no fresh air and pure water. The environment is polluted with dust, smoke, garbage and dioxide gases from factories, cars, and vehicles. Most of the people who live in the city are corrupted. So there are lots of crimes in the city. Many thefts and murders often take place in the city. Thus, living in the city is not safe because there are a lot of crimes going on. The city is always busy and noisy. There are a lot of vehicles and people in the road. The streets are dusty and unclean. So it is hard to lead a healthy life in the city.

In conclusion, there are porn and con livings in the city and country side. Some people prefer to live in city because of modern things and standard. On the other hand, some more people prefer to live in the country side because they love nature and peace. However, I think it should be good both weather you choose city or country side. They will feel enjoyable and free if they choose one that suit to them. To me, even I know living in the city sometimes not really good enough and cause me in troublesome, but thing I like is education. Thus, I choose living in the city rather than the country side.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ชีวิตในด้านการเมืองและประเทศ
Jan
9
คนมีตัวตนของชีวิต วิถีชีวิต วิถีชีวิตเมืองและวิถีชีวิตของประเทศแตกต่างกันสองของท่าน เหล่านี้มีความแตกต่างมากในสภาพแวดล้อม ร่วมงาน และของที่อยู่อาศัย ดังนั้น ความแตกต่างเหล่านี้ทำให้คนพิจารณาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการใช้ชีวิตในเมืองและประเทศข้างเคียง

มีข้อดีหลายประการทั้งด้านประเทศ ครั้งแรก สภาพแวดล้อมในชนบทและเมืองจะแตกต่างกันมาก ได้น้อย กว่ามลพิษ และอันตรายเนื่องจากมีรถยนต์น้อยลง รถมอเตอร์ไซด์ และโรงงาน ยัง มีต้นไม้ที่มีอากาศบริสุทธิ์ให้เราเช่นอาศัยอยู่ในบ้านสีเขียว ในด้านประเทศ คุณจะสามารถชื่นชมภูมิทัศน์งดงามเช่นโดวส์ใหญ่ สงบภูเขา หรือป่าไม้ พวกเขามีเวลาในการพักผ่อน พักผ่อนสุขภาพ วิลเลจพีเพิลเสมอพยายามปกป้องนิสัยดั้งเดิมและวัฒนธรรมของพวกเขา หมู่บ้านมีอากาศที่สะอาด และมีความสวยงามมาก นอกจากนี้ จราจรไม่ว่าง และจะไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากที่ในเมือง นอกจากนี้ คนมักจะให้ดวงตาของเพื่อนบ้านบ้าน จะเป็นประโยชน์กัน พวกเขามักจะตอบสนองเมื่อสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ประโยชน์อีกประการหนึ่งคืออาหาร มันถูกกว่า และคุณสามารถเป็นทุกอย่าง

แม้อาศัยอยู่ในด้านเขตมีหลายสิ่งดี แต่ยังมีข้อเสียไม่กี่ การศึกษาในด้านประเทศไม่ดีดังนั้น ไม่มีโรงเรียนมากมาย นักเรียนไม่เข้าใจเกี่ยวกับโลกมาก มีคนส่วนใหญ่ต้องการให้ไปเลี้ยงแทนที่จะไปโรงเรียน เพราะพวกเขาไม่รู้สำคัญของโรงเรียนที่เข้าร่วม แม้ว่าคุณจบมัธยมคุณ มีมหาวิทยาลัยไม่แม้หนึ่งให้คุณดำเนินการต่อไป พวกเขาอาจต้องมาเมืองถ้าคุณวางแผนที่จะสามารถจบศึกษา พวกเขาจะขำน่า และเชื่อว่าคนอื่นไม่ได้ ตัวอย่าง: ถ้ามี คนแปลกมา และให้เงินน้อยกว่าพวกเขาเพียงแค่ทำตามเขา / เธอไม่คิดใด ๆ กว่า มีคนขึ้นอยู่กับฟาร์มของพวกเขาเพื่อสนับสนุนการเพาะปลูกของครอบครัวหรือพืช พวกเขาจะช้า และขาดความคิดในการพัฒนาตนเองทำการเกษตรหรือวิถีชีวิต นอกจากนี้ ไม่มีสิ่งที่น่าสนใจเช่นทำช่วงเวลาว่าง อัตราการว่างงานก็สูงกว่าในเมือง ปัญหาเดียวกันเกี่ยวข้องกับการเข้าถึงโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีตำรวจ และร้าน ค้า ที่อยู่มักจะไกลจากหมู่บ้าน รับข้อมูลไม่ว่าในเมือง พวกเขามีน้อยของสื่อเช่นโทรทัศน์หรือวิทยุ ดังนั้นบางครั้งพวกเขาสามารถเผชิญในการแก้ปัญหา ตัวอย่าง: ถ้าน้ำท่วมมา พวกเขาไม่ได้รู้เวลาและวิธีการป้องกันไม่ให้มัน ล่าสุดทั้งหมด ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ทำให้เรายากที่จะสื่อสาร หรือติดต่อคน

บางคนคิดว่า การใช้ชีวิตในเมืองได้สะดวกสบายมากขึ้น ก่อนอื่น มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนในเมืองมาก และมีโอกาสทำเงิน ตัวอย่าง: เองธุรกิจของพวกเขาสามารถได้สนับสนุนชีวิตของพวกเขา เรามีโอกาสที่งานมากขึ้นเนื่องจากมีบริษัทและองค์กร พลัส ศึกษาแห่งเป็นกว่าในชนบท มีโรงเรียนรัฐบาลและมหาวิทยาลัย ขณะที่เศรษฐกิจมีการเติบโตขึ้นดี มหาวิทยาลัยและโรงเรียนส่วนมากเพิ่ม และให้การศึกษาดีกว่านักเรียนที่เน้นภาษาเช่นภาษาอังกฤษ ยัง เราสามารถเรียนรู้ภาษามากกว่าหนึ่งภาษา ในเมือง มี complexions ร้านใหญ่ ธนาคาร สำนักงาน โรงภาพยนตร์ โรงแรม สโมสร โรงพยาบาลฯลฯ ใน และ รอบเมือง นอกจากนี้ จำนวนเทคโนโลยีทันสมัยในปัจจุบันได้เรามากที่จะมีชีวิตดีกว่าในเมือง เราสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตของเรากับสิ่งเหล่านั้นเช่นการใช้อินเทอร์เน็ต บันเทิง สังคมฯลฯ ... ความเร็วอินเทอร์เน็ตในเมืองจะดี มันช่วยให้เราค้นคว้าศึกษาของเราเกินไป สุดท้าย พวกเขาสามารถมีรถสวย ๆ ของตัวเอง บ้าน หรือธุรกิจตามการทำงานหนักได้

แม้ว่าชีวิตในเมืองมีประโยชน์ ได้ประโยชน์มากมาย สินค้ามีราคาแพงมาก การจราจรในเมืองไม่ว่างแน่นอน และทำให้เกิดอุบัติเหตุมากเกินไป หลายคนไม่สามารถไปโรงเรียน หรือทำงานเนื่องจากจราจรติดขัด ที่จริง ในกัมพูชาจะน่ากลัว คนในเมืองจำเป็น ต้องทำงานเวลารับงานเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ชีวิตในเมืองที่มีความซับซ้อนมาก พวกเขาจะไม่ มีงาน ดังนั้นพวกเขาไม่มีเวลาที่จะใช้กับบ้านของพวกเขา คนในเมืองเห็นแก่ตัวมาก เป็นกำพร้ามาก ตัวอย่าง: เมื่อมีฉุกเฉินเช่นไฟไหม้ มีเพื่อนบ้านไม่ช่วยเพราะเขาดูแลทรัพย์สินของพวกเขาเท่านั้น และไป นอกจากนี้ มีอากาศบริสุทธิ์และน้ำบริสุทธิ์ไม่ สิ่งแวดล้อมจะเสีย มีก๊าซฝุ่น ควัน ขยะ และก๊าซจากโรงงาน รถยนต์ และยานพาหนะ ส่วนใหญ่คนที่อยู่ในเมืองเสียหาย ดังนั้น มีจำนวนของอาชญากรรมในเมือง Thefts และฆ่าคนจำนวนมากมักจะใช้สถานที่ในเมือง ดังนั้น การใช้ชีวิตในเมืองไม่ปลอดภัยเนื่องจากมีจำนวนมากของอาชญากรรมที่เกิดขึ้น เมืองอยู่เสมอว่าง และเสียงดัง มียานพาหนะและผู้คนในถนน ถนนมีฝุ่น และอโยธยา ดังนั้นจึงยากที่จะนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีในเมือง

เบียดเบียน มีพร และคอนท่านในด้านการเมืองและประเทศ บางคนต้องอาศัยอยู่ในเมืองสิ่งที่ทันสมัยและมาตรฐาน บนมืออื่น ๆ บางคนชอบที่จะอาศัยอยู่ในฝั่งประเทศ เพราะพวกเขารักธรรมชาติและความสงบสุข อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่า มันควรจะดีทั้งสภาพอากาศคุณเลือกเมืองหรือประเทศข้างเคียง พวกเขาจะรู้สึกสนุก และฟรีหากพวกเขาเลือกหนึ่งที่เหมาะกับพวกเขา ฉัน แม้ฉันรู้อาศัยอยู่ในเมืองบางครั้งก็ไม่ดีพอ และทำให้ฉันลำบาก แต่ในสิ่งที่ชอบคือ การศึกษา ดังนั้น ฉันเลือกอาศัยอยู่ในเมืองมากกว่าด้านประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองและประเทศข้างเคียง
ม.ค.
9
คนมักจะมีทางเลือกของตัวเองในการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตเมืองและวิถีชีวิตของประเทศเป็นสองประเภทแตกต่างกันของสิ่งมีชีวิต เหล่านี้มีความแตกต่างมากในสภาพแวดล้อมที่มีโอกาสในการทำงานและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ดังนั้นความแตกต่างเหล่านี้ทำให้คนที่พิจารณาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองและประเทศข้างเคียงที่มีข้อดีหลายประการของการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศข้างเคียง ครั้งแรกที่สภาพแวดล้อมในชนบทและเมืองที่แตกต่างกันมาก มันเป็นมลพิษน้อยลงและเป็นอันตรายเพราะมีรถน้อย, รถมอเตอร์ไซด์และโรงงาน นอกจากนี้ยังมีต้นไม้จำนวนมากที่มีอากาศบริสุทธิ์กับเราเหมือนอยู่ในบ้านสีเขียว ในด้านประเทศที่คุณมีอิสระที่จะชื่นชมภูมิทัศน์ที่งดงามเช่นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่บนเนินเขาที่เงียบสงบหรือป่า พวกเขามีเวลามากขึ้นที่จะผ่อนคลายและมีสุขภาพดีอยู่ ชาวบ้านพยายามที่จะปกป้องนิสัยดั้งเดิมของพวกเขาและวัฒนธรรม หมู่บ้านมีอากาศที่สะอาดและสภาพแวดล้อมที่มีความสวยงามมาก นอกจากนี้การจราจรจะไม่ยุ่งและไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเท่าที่ในเมือง นอกจากนี้คนมักจะให้ดวงตาบนที่ดินเพื่อนบ้าน '; พวกเขาจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ พวกเขามักจะตอบสนองเมื่อสิ่งที่แปลกที่เกิดขึ้น ข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งคือค่าใช้จ่ายของอาหารก็มีราคาถูกและคุณสามารถจ่ายได้ทุกอย่างเช่นกันแม้ว่าที่อาศัยอยู่ในฝั่งเขตให้คุณสิ่งที่ดีมาก แต่ก็ยังมีข้อเสียน้อย การศึกษาในด้านประเทศที่ยากจนมาก มีโรงเรียนไม่มากคือ นักเรียนไม่เข้าใจมากเกี่ยวกับโลก คนส่วนใหญ่ชอบที่มีเด็กของพวกเขาที่จะไปทำการเกษตรแทนที่จะไปโรงเรียนเพราะพวกเขาไม่ทราบความสำคัญของการเข้าร่วมในโรงเรียน แม้ว่าคุณเสร็จสิ้นการโรงเรียนมัธยมของคุณไม่มีแม้แต่คนเดียวในมหาวิทยาลัยสำหรับคุณที่จะดำเนินการ พวกเขาอาจจำเป็นต้องมาเมืองถ้าคุณวางแผนที่จะจบการศึกษา พวกเขามีความไร้เดียงสาและง่ายดายเชื่อว่าคนที่ไม่ดีอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นถ้ามีคนแปลกมาและให้เงินน้อยกว่าที่พวกเขาเพียงทำตามเขา / เธอโดยไม่ต้องมีความคิดใด ๆ กว่านอกจากนี้คนที่มีอยู่ในฟาร์มของพวกเขาที่จะสนับสนุนการเพาะปลูกพืชหรือครอบครัวของพวกเขา พวกเขาจะช้ามากและขาดความคิดที่จะพัฒนาการเกษตรหรือที่อยู่อาศัยสไตล์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจไม่ได้เช่นจะทำในช่วงเวลาว่างเป็น อัตราการว่างงานที่ยังสูงกว่าในเมือง ปัญหาเดียวกันที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงโรงพยาบาลโรงเรียนสถานีตำรวจและร้านค้าซึ่งมักจะอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน ได้รับข้อมูลที่ไม่ได้เป็นอย่างที่ในเมือง; พวกเขาจะไม่ของสื่อเช่นโทรทัศน์หรือวิทยุดังนั้นบางครั้งพวกเขาสามารถเผชิญในลำบาก ตัวอย่างเช่นหากน้ำท่วมมาถึงพวกเขาไม่ได้รู้ว่าเมื่อใดและวิธีการป้องกันจากมัน สุดท้ายของทั้งหมดมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ทำให้เรายากที่จะสื่อสารหรือติดต่อคนบางคนคิดว่าการใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น แรกของทั้งหมดมีจำนวนมากของสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่อยู่ในเมืองและพวกเขามีโอกาสมากขึ้นสำหรับการทำเงิน ตัวอย่างเช่นเป็นเจ้าของธุรกิจของพวกเขาได้อย่างง่ายดายสามารถสนับสนุนชีวิตของพวกเขา เรามีโอกาสในการทำงานมากขึ้นเพราะมีจำนวนมากของ บริษัท และองค์กร นอกจากนี้การศึกษาในเมืองอยู่เสมอดีกว่าในชนบท มีโรงเรียนรัฐบาลและมหาวิทยาลัยหลายแห่งมี ขณะที่เศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตดีมหาวิทยาลัยเอกชนมากขึ้นและโรงเรียนเพิ่มขึ้นและให้การศึกษาที่ดีขึ้นให้กับนักเรียนที่มุ่งเน้นไปที่ภาษาเช่นภาษาอังกฤษ นอกจากนี้เรายังสามารถเรียนรู้มากกว่าหนึ่งภาษา ในเมืองที่มีขนาดใหญ่คมคายร้านค้า, ธนาคาร, สำนักงาน, โรงภาพยนตร์, หอพัก, คลับ, โรงพยาบาลและอื่น ๆ ทั้งในและรอบเมือง นอกจากนี้ตัวเลขของเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบันช่วยให้เราจำนวนมากที่จะมีชีวิตที่ดีกว่าในเมือง เราสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตของเราด้วยสิ่งเหล่านั้นเช่นการใช้อินเทอร์เน็ตบันเทิงเครือข่ายสังคม ฯลฯ ... อินเทอร์เน็ตความเร็วในเมืองที่ค่อนข้างดี มันจะช่วยให้เราในการทำวิจัยในการศึกษาของเราด้วย ในที่สุดพวกเขาสามารถมีของตัวเองรถหรูหราบ้านหรือธุรกิจตามการทำงานหนักของพวกเขาแม้ว่าจะอาศัยอยู่ในเมืองให้ประโยชน์มีหลายข้อได้เปรียบ สินค้าที่มีราคาแพงกว่า การจราจรในเมืองไม่ว่างแน่นอนและก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากเกินไป หลายคนไม่สามารถไปโรงเรียนหรือที่ทำงานเพราะการจราจรที่ติดขัด ที่จริงแล้วการจราจรในประเทศกัมพูชาเป็นสาหัส คนในเมืองที่ต้องทำงานตลอดเวลาและได้งานเวลาส่วนหนึ่งเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น การใช้ชีวิตในเมืองที่มีความซับซ้อนมาก พวกเขามักจะยุ่งอยู่กับงานของพวกเขาดังนั้นพวกเขาไม่ได้มีเวลาที่จะใช้จ่ายกับเพื่อนบ้านของพวกเขา คนในเมืองมีความเห็นแก่ตัวมากที่พวกเขาจะทำอะไรไม่ถูกมาก ตัวอย่างเช่นเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเช่นไฟไหม้ไม่มีเพื่อนบ้านที่จะช่วยให้เพราะพวกเขาดูแลเพียงสถานที่ให้บริการของพวกเขาและหายไป นอกจากนี้ยังมีไม่มีอากาศบริสุทธิ์และน้ำบริสุทธิ์ สภาพแวดล้อมที่มีการปนเปื้อนไปด้วยฝุ่นควันขยะและก๊าซก๊าซจากโรงงานรถยนต์และยานพาหนะ ส่วนใหญ่ของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้นมีจำนวนมากของอาชญากรรมในเมือง ขโมยจำนวนมากและการฆาตกรรมมักจะใช้สถานที่ในเมือง ดังนั้นที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ไม่ปลอดภัยเพราะมีจำนวนมากของอาชญากรรมที่เกิดขึ้น เมืองนี้เป็นที่มักจะยุ่งและมีเสียงดัง มีจำนวนมากของยานพาหนะและคนที่อยู่ในท้องถนน ถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นและไม่สะอาด ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีในเมืองโดยสรุปมีลามกและ con ชีวิตในเมืองและประเทศข้างเคียง บางคนชอบที่จะอาศัยอยู่ในเมืองเพราะสิ่งที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน ในขณะที่บางคนอื่น ๆ ชอบที่จะอาศัยอยู่ในประเทศข้างเคียงเพราะพวกเขารักธรรมชาติและความสงบสุข แต่ผมคิดว่ามันควรจะดีทั้งสภาพอากาศที่คุณเลือกด้านเมืองหรือประเทศ พวกเขาจะรู้สึกสนุกและฟรีหากพวกเขาเลือกหนึ่งที่เหมาะกับพวกเขา ให้ฉันแม้ฉันรู้ว่าอาศัยอยู่ในเมืองบางครั้งไม่ดีจริงๆเพียงพอและก่อให้เกิดผมในลำบาก แต่สิ่งที่ผมชอบคือการศึกษา ดังนั้นผมเลือกที่อาศัยอยู่ในเมืองมากกว่าชนบท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อดีและข้อเสียของการใช้ชีวิตในเมือง และชนบท แจน


9 คนได้เสมอทางเลือกของตัวเองของชีวิต ไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตเมืองและประเทศวิถีชีวิตสองชนิดที่แตกต่างกันของสิ่งมีชีวิต . เหล่านี้มีความแตกต่างกันมากในสิ่งแวดล้อม โอกาสได้งาน และค่าครองชีพ ดังนั้นความแตกต่างเหล่านี้ทำให้ผู้คนคิดเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการใช้ชีวิตในเมืองและต่างจังหวัด

มีข้อดีหลายประการของการใช้ชีวิตในชนบท แรก , สภาพแวดล้อมในชนบทและเมืองที่แตกต่างกันมาก มันเป็นมลพิษน้อยลงและอันตรายเพราะรถน้อยคัน และโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้มีต้นไม้มากมายที่ให้อากาศบริสุทธิ์ที่เราชอบอยู่ในบ้านสีเขียว ในด้านประเทศคุณฟรีเพื่อชื่นชมทัศนียภาพที่งดงาม เช่น ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ เนินเขาที่เงียบสงบหรือป่า พวกเขามีเวลาที่จะผ่อนคลาย และยังคงมีสุขภาพดี คนในหมู่บ้านพยายามจะ ปกป้อง นิสัยดั้งเดิมของตน และ วัฒนธรรม หมู่บ้านได้อากาศที่สะอาดและสภาพแวดล้อมที่สวยงามมากนอกจากนี้ การจราจรจะไม่ยุ่งและไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากเท่าในเมือง นอกจากนี้ผู้คนมักจะเก็บตาบนที่ดินของเพื่อนบ้าน พวกเขาจะเป็นประโยชน์กับแต่ละอื่น ๆ พวกเขามักจะตอบสนองเมื่อมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น ข้อดีอีกคือ ต้นทุนของอาหาร มันถูกกว่า และคุณสามารถจ่ายได้ทุกอย่างเช่นกัน

ถ้าอาศัยอยู่ในเขตฝั่งมีหลายอย่างดีแต่ยังคงมีข้อเสียไม่กี่ . การศึกษาในประเทศข้างเคียง คือ จน มีหลายโรงเรียน นักเรียนไม่เข้าใจเรื่องโลก ที่คนส่วนใหญ่นั้นชอบเด็กไปเลี้ยง แทนที่จะไปโรงเรียน เพราะพวกเขาไม่ทราบความสำคัญของการเรียนในโรงเรียน ถึงแม้ว่าเธอจบไฮสคูลของเธอ ไม่มีแม้แต่มหาวิทยาลัยหนึ่งสำหรับคุณต่อไปพวกเขาอาจต้องการที่จะมาที่เมืองถ้าคุณวางแผนที่จะจบการศึกษา พวกเขา na ไตได้ได้อย่างง่ายดายและเชื่อว่าคนร้ายอื่น ๆ ตัวอย่าง : หากมีคนแปลกหน้ามาขอเงินน้อยกว่าที่พวกเขาทำตามที่เขา / เธอโดยไม่คิดอะไร กว่า นอกจากนี้ คนมันขึ้นอยู่กับฟาร์มของพวกเขาที่จะสนับสนุนครอบครัวหรือพืชของพวกเขาพวกเขาจะช้ามาก และขาดความคิดที่จะพัฒนาตนเอง ทำไร่ หรือรูปแบบการใช้ชีวิต . นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจที่จะทำในช่วงเวลาดังกล่าวฟรี อัตราการว่างงานยังสูงกว่าในเมือง ปัญหาเดียวกันเกี่ยวกับการเข้าถึงโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีตำรวจ และร้านค้า ซึ่งมักจะตั้งอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านการรับข้อมูลจะไม่เร็วเท่าในเมือง พวกเขาจะน้อยกว่าของสื่อ เช่น โทรทัศน์ หรือวิทยุ เพราะบางครั้งพวกเขาสามารถเผชิญปัญหา ตัวอย่างเช่น : ถ้าน้ำท่วมมาถึง พวกเขาไม่ได้รู้ว่าเมื่อและวิธีการเพื่อป้องกันไม่ให้มัน สุดท้าย ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ทำให้เรายากที่จะสื่อสารหรือติดต่อคน

บางคนคิดว่า การใช้ชีวิตในเมืองที่สะดวกสบายมากขึ้น ครั้งแรกของทั้งหมดมีเครื่องสำหรับผู้คนในเมือง และพวกเขาได้รับโอกาสในการหาเงิน ตัวอย่าง : เป็นเจ้าของธุรกิจของพวกเขาได้อย่างง่ายดายสามารถสนับสนุนชีวิตของพวกเขา เรายังมีโอกาสงานเพราะมีจำนวนมากของ บริษัท และองค์กร และการศึกษาในเมืองอยู่เสมอกว่าในชนบท มีโรงเรียนรัฐหลายแห่งขณะที่เศรษฐกิจมีการเติบโตดี มากขึ้นและส่วนบุคคลมากขึ้น มหาวิทยาลัยและโรงเรียนเพิ่มขึ้น และให้ความรู้ดีกว่านักเรียนที่เน้นภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ นอกจากนี้เรายังสามารถเรียนรู้ได้มากกว่าหนึ่งภาษา ในเมืองมี complexions ร้านขนาดใหญ่ ธนาคาร สำนักงาน โรงภาพยนตร์ , หอพัก , คลับ , โรงพยาบาล ฯลฯ ใน และ รอบ ๆเมือง นอกจากนี้ตัวเลขของเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบันช่วยให้เรามากมาย มีชีวิตที่ดีกว่าในเมือง เราสามารถเพลิดเพลินกับชีวิตของเรากับสิ่งเหล่านั้น เช่น การใช้อินเทอร์เน็ต , บันเทิง , เครือข่ายสังคมและอื่น ๆ . . . . . . . อินเตอร์เน็ตความเร็วในเมืองค่อนข้างดี มันช่วยให้เราได้ทำวิจัยเพื่อการศึกษาของเราด้วย ในที่สุด พวกเขาก็มี รถหรูของตัวเองที่บ้านหรือธุรกิจตามการทำงานหนักของพวกเขา .

แม้ว่าจะอยู่ในเมืองที่ให้ประโยชน์ มีหลาย ข้อดี สินค้าที่มีราคาแพงมากขึ้น การจราจรในเมืองย่อมไม่ว่าง และเกิดอุบัติเหตุ หลายคนด้วย หลายคนไม่สามารถไปโรงเรียนหรือทำงาน เพราะรถติด จริงๆแล้ว การจราจรในกัมพูชาเป็นสาหัส ผู้คนในเมืองต้องใช้เวลาและได้รับงานเวลาส่วนหนึ่งเพื่อให้ชีวิตชีวิตในเมืองมันซับซ้อนมาก พวกเขาจะยุ่งกับงานของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาไม่ได้มีเวลาที่จะใช้จ่ายกับเพื่อนบ้านของพวกเขา ผู้คนในเมืองจะเห็นแก่ตัวมาก พวกเขามีมากจริงๆ ตัวอย่างเช่น : เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ มีเพื่อนบ้านมาช่วย เพราะพวกเขาเพียง แต่ดูแลทรัพย์สินของพวกเขาและไป นอกจากนี้ ไม่มีอากาศบริสุทธิ์ และน้ำบริสุทธิ์สภาพแวดล้อมที่เป็นมลพิษ ฝุ่น ควัน ขยะ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซจากโรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ และยานพาหนะ ส่วนใหญ่ของคนที่อาศัยอยู่ในเมืองจะเสียหาย ดังนั้น มีมากมายของอาชญากรรมในเมือง การฆาตกรรมและ thefts มากมักจะเกิดขึ้นในเมือง ดังนั้น การใช้ชีวิตในเมืองไม่ปลอดภัยเพราะมีการก่ออาชญากรรมขึ้น เมืองก็มักจะยุ่งและวุ่นวายมีมากของยานพาหนะและผู้คนในถนน ถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นและมลทิน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะนำชีวิตสุขภาพในเมือง

สรุป มีสื่อลามกและต่อต้านสิ่งมีชีวิตในเมือง และชนบท บางคนชอบอยู่ในเมือง เพราะสิ่งต่างๆที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน บนมืออื่น ๆ บางคนชอบที่จะอาศัยอยู่ในด้านประเทศเพราะพวกเขารักธรรมชาติและความสงบอย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่ามันน่าจะดี ทั้งสภาพอากาศที่คุณเลือกเมืองหรือชนบท พวกเขาจะรู้สึกสนุกและฟรีหากพวกเขาเลือกหนึ่งที่เหมาะกับพวกเขา ฉัน แม้ฉันจักอยู่ในเมืองบางครั้งไม่ได้จริงๆที่ดีพอและทำให้ฉันยุ่งยาก แต่สิ่งที่ผมชอบคือการศึกษา ดังนั้น ผมเลือกอยู่ในเมืองมากกว่าชนบท