Multistage and special amplifier ci

Multistage and special amplifier circuits
When students are first learning about semiconductor devices, and are most likely to damage them by making improper connections in their circuits, I recommend they experiment with large, high-wattage components (1N4001 rectifying diodes, TO-220 or TO-3 case power transistors, etc.), and using dry-cell battery power sources rather than a benchtop power supply. This decreases the likelihood of component damage.
As usual, avoid very high and very low resistor values, to avoid measurement errors caused by meter "loading" (on the high end) and to avoid transistor burnout (on the low end). I recommend resistors between 1 kΩ and 100 kΩ.
One way you can save time and reduce the possibility of error is to begin with a very simple circuit and incrementally add components to increase its complexity after each analysis, rather than building a whole new circuit for each practice problem. Another time-saving technique is to re-use the same components in a variety of different circuit configurations. This way, you won't have to measure any component's value more than once.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วงจรขยายเสียง multistage และพิเศษเมื่อนักเรียนก่อนการเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ และมักจะทำลายพวกเขา ด้วยการเชื่อมต่อที่ไม่เหมาะสมในวงจรของพวกเขา ฉันขอแนะนำให้พวกเขาทดลองกับ วัตต์สูงขนาดใหญ่ ส่วนประกอบ (ไดโอดได้ rectifying 1N4001, transistors กรณีไฟฟ้าเป็น 220 หรือถึง 3 ฯลฯ), และใช้แหล่งจ่ายไฟแบตเตอรี่เซลล์แห้งมากกว่า benchtop เพาเวอร์ซัพพลาย นี้ลดความเป็นไปได้ของความเสียหาย ตามปกติ หลีกเลี่ยงค่าตัวต้านทานสูงมาก และต่ำมาก เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดการวัดเกิดจากมิเตอร์ "กำลังโหลด" (ในสูง) และ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกระทำอย่างรุนแรงทรานซิสเตอร์ (บนต่ำสุด) ผมแนะนำ resistors ระหว่าง 1 k ωและ 100 k ω วิธีหนึ่งที่คุณสามารถประหยัดเวลา และลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นคือการ เริ่มต้น ด้วยวงจรง่ายมาก และเพิ่มส่วนประกอบเพื่อเพิ่มความซับซ้อนของหลังจากวิเคราะห์แต่ละแบบเพิ่มหน่วย แทนที่สร้างวงจรใหม่ทั้งหมดสำหรับแต่ละปัญหาปฏิบัติ เทคนิคประหยัดเวลาอื่นจะใช้ส่วนประกอบเดียวกันในความหลากหลายของโครงแบบต่าง ๆ วงจรอีกครั้ง ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่สามารถวัดมูลค่าขององค์ประกอบมากกว่าหนึ่งครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วงจรขยายแบบหลายขั้นตอนและพิเศษ
เมื่อนักเรียนได้รับครั้งแรกเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์และมีแนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายกับพวกเขาโดยการเชื่อมต่อที่ไม่เหมาะสมในวงจรของพวกเขาผมขอแนะนำให้พวกเขาทดลองกับขนาดใหญ่ส่วนประกอบสูงวัตต์ (ไดโอด 1N4001 แก้ไข, TO-220 หรือ -3 กรณีทรานซิสเตอร์ไฟฟ้า ฯลฯ ) และใช้แบตเตอรี่แห้งเซลล์แหล่งพลังงานมากกว่าแหล่งจ่ายไฟ benchtop นี่คือการลดโอกาสในการเกิดความเสียหายส่วนประกอบ.
ตามปกติหลีกเลี่ยงสูงมากและต่ำมากค่าตัวต้านทานเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่เกิดจากการวัดเมตร "โหลด" (ที่สิ้นสุดสูง) และเพื่อหลีกเลี่ยงความเหนื่อยหน่ายทรานซิสเตอร์ (ที่ปลายต่ำ) ผมขอแนะนำตัวต้านทานระหว่างวันที่ 1 kΩและ 100 kΩ.
วิธีการหนึ่งที่คุณสามารถประหยัดเวลาและลดความเป็นไปได้ของข้อผิดพลาดคือการเริ่มต้นด้วยวงจรง่ายมากและเพิ่มขึ้นเพิ่มองค์ประกอบเพื่อเพิ่มความซับซ้อนของมันหลังจากการวิเคราะห์แต่ละมากกว่าการสร้างวงจรใหม่ทั้งหมดสำหรับ แต่ละปัญหาการปฏิบัติ เทคนิคที่ช่วยประหยัดเวลาก็คือการกลับมาใช้ส่วนประกอบที่เหมือนกันในความหลากหลายของการกำหนดค่าวงจรที่แตกต่างกัน ด้วยวิธีนี้คุณจะไม่ต้องวัดมูลค่าของส่วนประกอบใด ๆ มากกว่าหนึ่งครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วงจรขยายเสียงแบบหลายขั้นตอนและ
พิเศษเมื่อนักเรียนแรกเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ และมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะทำลายพวกเขาโดยการทำให้การเชื่อมต่อที่ไม่เหมาะสมในวงจรของพวกเขา ผมขอแนะนำให้พวกเขาทดลองกับขนาดใหญ่ ส่วนไฟสูง ( 1n4001 แก้ไขไดโอด , to-220 หรือ to-3 คดีเพาเวอร์ทรานซิสเตอร์ , ฯลฯ )และใช้เซลล์แบตเตอรี่แห้งเป็นแหล่งพลังงานมากกว่าแบบตั้งโต๊ะแหล่งจ่ายไฟ ลดโอกาสของชิ้นส่วนที่เสียหาย
ตามปกติ หลีกเลี่ยงตัวต้านทานค่าต่ำมากและสูงมาก เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการวัดจากเครื่องวัด " โหลด " ( ในระดับสูง ) และเพื่อหลีกเลี่ยงทรานซิสเตอร์ในปลายต่ำ ) ผมขอแนะนําตัว ระหว่างΩ 1 K 100 K Ω .
วิธีหนึ่งที่คุณสามารถประหยัดเวลาและลดความเป็นไปได้ของข้อผิดพลาดคือการเริ่มต้นด้วยวงจรง่ายมากและแบบเพิ่มหน่วยเพิ่มส่วนประกอบเพื่อเพิ่มความซับซ้อนของแต่ละหลังการวิเคราะห์ มากกว่าการสร้างวงจรใหม่ทั้งหมดสำหรับการฝึกแต่ละปัญหา อีกเทคนิคประหยัดเวลาคือการใช้องค์ประกอบเดียวกันในความหลากหลายของการกำหนดค่าวงจรที่แตกต่างกัน ด้วยวิธีนี้คุณจะไม่ต้องวัดมูลค่าของชิ้นส่วนใดมากกว่าหนึ่งครั้ง