The efficacy of rivastigmine was al

The efficacy of rivastigmine was also assessed in terms of the proportion of subjects in whom cognitive function was sustained or improved from baseline after 6 months of treatment (mean change from baseline in ADAS-cog>0). In total, 46% of the subjects treated with rivastigmine either improved or showed no deterioration, compared with 9% of subjects treated with placebo (OC population; p < 0.001). The respective figures in the ITT-LOCF population were 44% for rivastigmine and 7% for placebo (p = 0.001).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสิทธิภาพของ rivastigmine มีการประเมินในแง่ของสัดส่วนของอาสาสมัครในผู้ที่ทำงานทางปัญญาได้รับการสนับสนุนหรือเพิ่มขึ้นจากพื้นฐานหลังจาก 6 เดือนของการรักษา (หมายถึงการเปลี่ยนแปลงจาก baseline ใน ADAS-ฟันเฟือง> 0) โดยรวม 46% ของอาสาสมัครรักษาด้วย rivastigmine อย่างใดอย่างหนึ่งที่ดีขึ้นหรือแสดงให้เห็นว่าไม่มีการเสื่อมสภาพเมื่อเทียบกับ 9% ของอาสาสมัครได้รับการรักษาด้วยยาหลอก (ประชากร OC; p <0.001) ตัวเลขที่เกี่ยวข้องในประชากร ITT-LOCF เป็น 44% สำหรับ rivastigmine และ 7% สำหรับยาหลอก (p = 0.001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสิทธิภาพของ rivastigmine ยังประเมินในแง่ของสัดส่วนของประชากรในที่ความจำคือยั่งยืนหรือการปรับปรุงพื้นฐานจากหลังจาก 6 เดือนของการรักษา ( หมายถึงเปลี่ยนจากค่าเริ่มต้นในโรคมะเร็งฟันเฟือง > 0 ) ทั้งหมด 46 % ของกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการรักษาด้วย rivastigmine ให้ปรับปรุงหรือมีการเสื่อมสภาพ , เมื่อเทียบกับ 9 % ของกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการรักษาด้วยยาหลอก ( OC ประชากร ; p < 0001 ) ตัวเลขที่เกี่ยวข้องใน itt-locf จำนวน 44% สำหรับ rivastigmine และ 7% สำหรับยาหลอก ( P = 0.001 )